STARK ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการ “บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ” รวมมูลค่าทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยกว่า 25,530 ล้านบาท ส่วนจะได้คืนหรือไม่ ขึ้นอยู่กับความเห็นชอบจากเจ้าหนี้รายอื่นและศาลล้มละลายกลาง
เผยความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (17 เม.ย. 67) กรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น STARK นายอรรถพล วัชระไพโรจน์ แจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เรื่องการ ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีฟื้นฟูกิจการ “บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ” ว่า ตามที่เจ้าหนี้ทางการเงินจำนวน 4 รายของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด (PDITL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของ PDITL ต่อศาลล้มละลายกลาง เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟฟ 24/2566เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2566
จากนั้นเมื่อ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 ศาลล้มละลายกลางได้มีคำสั่งให้ PDITL ดำเนินการฟื้นฟูกิจการและตั้งบริษัทอีวาย คอร์ปอเรท แอดไวซอรี่ เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นผู้ทำแผนและเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ได้มีโฆษณาประกาศเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ เรื่อง คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ลูกหนี้ ลงวันที่ 4 มีนาคม 2567 (“คำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผน”) ลงในราชกิจจานุเบกษา
ทั้งนี้ ตามมาตรา 90/26 ของพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 เจ้าหนี้ของ PDITL จะต้องยื่นขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ โดยการยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันโฆษณาคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการและตั้งผู้ทำแผนลงในราชกิจจานุเบกษา กล่าวคือ ภายในวันที่ 11 เมษายน 2567 นั้น
ในฐานะที่ STARK เป็นเจ้าหนี้ของ PDITL ได้ดำเนินการยื่นขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของ PDITL ตามมูลหนี้ต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงมูลหนี้ตามตั๋วแลกเงิน มูลหนี้ตามตั๋วสัญญาใช้เงิน มูลหนี้ตามเช็ค และมูลหนี้ตามสัญญาค้ำประกัน รวมเป็นต้นเงินจำนวนประมาณ 24,400 ล้านบาท และ 15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 549.76 ล้านบาท) พร้อมดอกเบี้ยคำนวณถึงวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการจำนวนประมาณ 590 ล้านบาท ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ภายในระยะเวลาที่กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทจะได้รับคำสั่งให้ได้รับชำระหนี้ตามที่ยื่นขอรับชำระหนี้หรือไม่นั้น จะขึ้นอยู่กับ
- (ก) กระบวนการพิจารณาคำขอรับชำระหนี้ ซึ่งเจ้าหนี้รายอื่น PDITL ในฐานะลูกหนี้และผู้ทำแผนมีสิทธิที่จะโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ดังกล่าวของบริษัท และ
- (ข) แผนฟื้นฟูกิจการที่จะต้องได้รับการพิจารณาและเห็นชอบด้วยมติของที่ประชุมเจ้าหนี้และศาลล้มละลายกลาง ตามวิธีการและระยะเวลาที่กำหนดไว้ภายใต้พระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483
หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของ PDITL ประการใด บริษัทจะดำเนินการเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต่อไป
อนึ่ง”ฐานเศรษฐกิจ” ได้คำนวณอัตราแลกเปลี่ยน โดยใช้เรตขั้นต่ำที่ 36.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นั่นหมายถึง STARK ยื่นขอรับชำระหนี้จากการฟื้นฟูกิจการของ PDITL รวมเงินต้นและดอกเบี้ยแล้ว ราว 25,530 ล้านบาท
ทั้งนี้ หุ้น STARK ได้ถูกประกาศพักการซื้อขายไปเมื่อปีที่ผ่านมา สาเหตุเพราะไม่ส่งงบการเงินปี 2565 จนทำให้เมื่อเดือนมิถุนายน 2566 นักลงทุนแห่ขายหุ้นสตาร์ค จนทำให้มูลค่าบริษัทลดลงจาก 31,000 ล้านบาท เหลือเพียง 2,400 ล้าน หรือราว -92.44 เปอร์เซ็นต์ ส่วนตัว บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จะได้ฟื้นตัวกลับมาอีกครั้งหรือไม่ คงต้องรออัปเดตความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีกันต่อไป
อ่านข่าวเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง