รายงานตัวตามนัด ‘แอนนา ทีวีพูล’ เข้าพบพนักงานสอบสวน รับทราบข้อกล่าวหาในคดีกล่องสุ่มทิพย์ ยังคงยืนยันคำเดิม ไม่มีเจตนาโกง ร้องขอโอกาสจากสังคม ด้านผบก.สอท.1 งัดหลักฐานเอาผิด
วันนี้ (21 มีนาคม 2567) เมื่อเวลา 09.30 น. นายวรินทร วัตรสังข์ หรือ แอนนา ทีวีพูล อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ขณะนี้ถูกผู้เสียหายแจ้งความเอาผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 เพื่อรายงานตัวในคดีฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพ์ มาตรา 14 (1) หรือการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ณ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) ชั้น 4 ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ เพื่อรายงานตัว และรับทราบข้อกล่าวหา
คดีนี้เริ่มต้นจากการที่ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ หลังจากซื้อกล่องสุ่มทองคำ แต่ไม่ได้รับของ โดยจำนวนผู้เสียหายในครั้งนี้มีทั้งหมด 119 ราย รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นประมาณ 111 ล้านบาท
แอนนา กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าตัวยอมรับอย่างโดยดีว่าบริหารผิดพลาด เนื่องจากมีลูกค้ามากกว่า 60,000 คน ทั้งตนยังขายสินค้าหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริม ครีมทาผิว คอลลาเจน ทอง และอีกมากมาย ประกอบกับไม่ได้ทำบัญชี และวางระบบหลังบ้านให้ชัดเจน
เมื่อลูกค้าจำนวนมากขอเงินคืนจึงทำให้เกิดปัญหาสะดุดในช่วงหนึ่ง รวมถึงที่ผ่านมา ตนขายทองขาดทุน จากทองราคาบาทละ 27,000 ตนนำมาขาย 22,000 ก็ยังมีกำไรจากสินค้าอื่น ๆ จึงยังสามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เเต่เมื่อราคาทองคำดีดขึ้นเป็นบาทละ 34,000 ตนยอมรับว่ามันหนักและทำให้เกิดปัญหา ประจวบกับที่ก่อนหน้านี้ ตนได้ทำทองหายจำนวนเงิน 5 ล้านบาทอีกด้วย จึงเป็นเหตุให้สภาพทางการเงินขัดคล่อง ในวันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะไปชี้แจงกับอัยการว่าทำไมลูกค้าถึงไม่ได้รับสินค้า ซึ่งเหตุผลมีอยู่ในสำนวนคดี
นอกจากนั้นยังได้เผยด้วยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ตนโดนส่งภาพปืนมาขู่ฆ่า และมีการอ้างว่าจะให้ผู้ใหญ่มาเคลียร์ จนทำให้ตนไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อและรู้สึกสิ้นหวังมาก เพราะไม่มีความรู้ด้านกฎหมาย จึงคิดว่าตนต้องติดคุก จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการส่งฟ้องตรงจากผู้เสียหายกว่า 20 ราย รวมเป็น 2 คดี แต่ทางศาลได้ตัดสินยกฟ้อง และให้ความเห็นว่าเป็นความผิดทางแพ่ง ให้ผู้เสียหายไปฟ้องแพ่งกันเอาเอง จนทำให้ตัวแอนนารู้สึกมีแรงสู้ เพื่อที่จะได้หาเงินมาคืนทุกคนตามที่ได้ตั้งใจไว้ ไม่อยากเอาเงินของใครก็ตาม
ในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา เรามีโอกาสกลับตัวกลับใจในสังคม จึงกลับมาทำงานมากขึ้น เริ่มเห็นแนวทางที่จะหาเงินมาคืนผู้เสียหาย แม้จะมีผู้เสียหายหลายคนทักไปที่นายจ้างว่าทำไมถึงให้โอกาสคนแบบนี้ แต่ก็เชื่อว่าตราบใดที่หาเงินคืนผู้เสียหายได้ครบ คดีก็อาจจะจบลงได้ด้วยดี
จนถึงวันนี้ก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่มีเจตนาฉ้อโกง ที่ผ่านมามีเคลียร์เงินคืนให้ลูกค้าไปบางส่วนแล้ว โดยตนก็คืนไปบางส่วนและมีหลักฐานการเยียวยา แต่ยอมรับว่ายังหามาคืนได้ไม่ครบทุกคน พยายามกระจายคืนไปเรื่อย ๆ ตามรอบการส่งสินค้า หรือยอดใครที่ไม่มากก็จะปิดยอดให้ก่อน และจะรับผิดชอบชดใช้คืนเงินให้แก่ผู้เสียหายทั้งหมด
ส่วนในข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตนมองว่าค่อนข้างหนักไปสำหรับตน เพราะถ้าตนมีเจตนาจะโกง ตนได้เงินมา 700 ล้าน ตนบินตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะตำรวจก็ไม่ได้ห้ามตนออกจากประเทศ แต่ตนยังเอาเงินไปซื้อทอง 500 ล้าน และผลิตสินค้าอีก 200 ล้าน แล้วอะไรคือตนเอาเงินไปใช้เอง ตนจึงคิดว่าด้วยหลักฐานตรงนี้ จะนำไปสู้ในชั้นศาลได้ว่า ตนไม่มีเจตนาฉ้อโกงแต่อย่างใด
ไม่เพียงเท่านั้น ทางแอนนี่ยังได้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงคดีด้วยว่า การแจกทองเป็นการจัดโปรโมชั่น และธุรกิจจะไม่สะดุดล้ม หากมีการจัดทำบัญชีเป็นอย่างดี โดยแต่ละเดือนมีการสั่งสินค้าต่าง ๆ รวมกันแล้ว 30,000-50,000 ออเดอร์ จึงทำให้ส่งสินค้าไม่ทัน มีการกำหนดระยะเวลาในการส่งสินค้า 2-3 เดือน เพราะมีคนทำงาน 5 คน
สำหรับข้อหาฉ้อโกงประชาชน ตนจึงมองว่าค่อนข้างหนักไปสำหรับตน เพราะถ้าตนมีเจตนาจะโกงจริง ๆ ตนได้เงินมา 700 ล้าน ตนบินตั้งแต่วันแรกแล้ว เพราะตำรวจก็ไม่ได้ห้ามตนออกจากประเทศ แต่ตนยังเอาเงินไปซื้อทอง 500 ล้าน และผลิตสินค้าอีก 200 ล้าน แล้วอะไรคือตนเอาเงินไปใช้เอง ตนจึงคิดว่าด้วยหลักฐานตรงนี้ จะนำไปสู้ในชั้นศาลได้ว่า ตนไม่มีเจตนาฉ้อโกงแต่อย่างใด
ในขณะเดียวกัน ด้าน พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) กล่าวว่า หลังจากที่แอนนา รายงานตัวกับพนักงานสอบสวน ก็จะนำตัวพร้อมกับสำนวนการสอบสวนกว่า 6,000 แผ่น ไปส่งให้อัยการที่สำนักงานอัยการคดีอาญา ถนนรัชดาภิเษก โดยคดีนี้ยืนยันว่า มีหลักฐานเอาผิดชัดเจน และใช้เวลานานพอสมควร เพราะต้องรวบรวมข้อมูลจากผู้เสียหายจำนวนมาก หลังจากนี้จะอยู่ในขั้นตอนของอัยการ โดยยืนยันว่า ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ บก.สอท.1 ระบุว่า ถูกแอนนา หลอกขายกล่องสุ่มทองคำทิพย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นถ้าเท็จ หลอกลวง สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14 (1)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- แอนนา หวั่นไม่น่ารอด คดีกล่องสุ่มทิพย์ ศาลตั้งประกันตัวสูง 1.5 ล้าน
- แอนนา ทีวีพูล เล่าเปิดใจ ชีวิตตกอับ บางวันต้องขอข้าววัดกิน
- สรุปดราม่า สงครามเจ๊ดัน แอนนา VS เมญ่า สาดวลีเดือด ‘ข้ามศพกูไปก่อน’