แม่ส่งภาพลูก “เลือดกำเดาไหล” จากปัญหาฝุ่นพิษ เพจดังเตือนบางเคสหนักถึงผ่าตัด
เตือน ฝุ่น PM 2.5 วันนี้ แม่ส่งภาพลูก เลือดกำเดาไหล ต้นเหตุจากปัญหาฝุ่นพิษ วอนรัฐบาลเร่งบอกเพื่อนบ้านหยุดเผา พร้อมพาดูวิธีรักษาตัวเบื้องต้นหากเลือดไม่หยุดไหลโดยง่าย
วันที่ 18 มี.ค.2567 เฟซบุ๊กแฟนเพจ Drama-addict ได้ลงภาพของเด็กรายหนึ่งซึ่งเจอผลกระทบจากปัญหาฝุ่นควันพิษ PM 2.5 เล่นงานจนเลือดกำเดาไหลออกมา โดยทางเพจได้แจ้งเตือนว่า อย่าได้มองข้ามปัญหาดังกล่าว เพราะบางเคส เจอผลกระทบหนักถึงขั้นเลือดกำเดาไหล ไม่ยอมหยุดง่าย ๆ จนต้องเข้ารับการผ่าตัดก็เคยมีตัวอย่างให้เห็นมาแล้ว
ข้อมูลจากโพสต์ระบุ “เลือดกำเดาไหลเพราะ PM 2.5 อย่าคิดว่าแป๊บๆก็หยุด บางเคสเป็นหนักมาก อย่างเคสนี้คุณแม่น้องเขาส่งมา ลูกเขาเจอปัญหา PM 2.5 ทุกปี ช่วงไหนของปีมีเยอะก็จะมีปัญหาเลือดกำเดาไหล บางปีไหลไม่หยุดจนหมอต้องให้เข้าห้องผ่าตัด ไปจี้เส้นเลือดในจมูกเพื่อหยุดเลือด คุณแม่เขาบอกว่าอยากฝากถึงรัฐบาลเจรจากับประเทศเพื่อนบ้านให้หยุดเผาเถอะ”
นอกจากออกมาโพสต์แจ้งเตือนพิษภัยของฝุ่น PM 2.5 ที่สร้างผลกระทบต่อระบบหายใจของเด็กตัวเล็ก ๆ ในบ้านแล้ว ทางลูกเพจซึ่งเป็นมารดาของเด็กในภาพก็ยังฝากวิงวอนให้รัฐบาล ช่วยเจรจากับประเทศเพื่อนบ้าน เกี่ยวกับกับปัญหาการเผาโดยเร่งด่วนอีกด้วย
เลือดกำเดาไหล จากฝุ่น PM 2.5 มีวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร ?
อ้างอิงข้อมูลของไทยพีบีเอส รศ.พญ.กรรณิการ์ รุ่งโรจน์วัฒนศิริ หัวหน้าภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. เคยให้ข้อมูลว่า ช่วงเดือน ก.พ. – เม.ย. ของทุกปี ภาคเหนือตอนบนจะเจอกับปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กหรือ PM 2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่
- เด็กเล็ก
- ผู้สูงอายุ
- และผู้ที่มีโรคประจำตัว
อาการที่มักจะพบบ่อยคือ “ตาแดง” ผื่นขึ้นตามส่วนต่างๆของร่างกาย เยื่อบุจมูกอักเสบ และเลือดกำเดาไหล ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาการที่ผู้ปกครองมักพาบุตรหลานมาพบแพทย์บ่อยที่สุด
ส่วนสาเหตุที่เด็กมีเลือดกำเดาไหลในช่วงที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงนั้น ทางภาควิชาโสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มช. ได้ทำการศึกษาร่วมกับนักศึกษาแพทย์หาความสัมพันธ์ระหว่างอุบัติการณ์ของการเกิดเลือดกำเดาไหลในผู้ป่วยนอกเเละห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ กับค่าฝุ่นที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมครอน ในช่วงที่มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก หรือ PM 2.5
พบว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 มีความสัมพันธ์กับจำนวนผู้ป่วยที่มา รพ. ด้วยอาการเลือดกำเดาไหลอย่างมีนัยสำคัญ ปกติบริเวณเยื่อบุจมูกคนเราจะมีเลือดมาเลี้ยงจำนวนมากอยู่แล้ว ทำให้หากเกิดกรณีสูดเอาฝุ่นพิษ PM 2.5 เข้าไป ก็จะทำให้เกิดการอักเสบในเยื่อบุช่องจมูกและไปกระตุ้นให้เลือดกำเดาไหลออกมาได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กที่มีโอกาสเลือดกำเดาไหลง่ายกว่าผู้ใหญ่
อย่างไรก็ตาม วิธีป้องกันเมื่อพบว่าเลือดกำเดาไหล ให้ก้มหน้าลงแล้วใช้มือบีบบริเวณจมูกทั้ง 2 ข้างเข้าหากัน ทำค้างไว้ 5 นาที จะช่วยในการห้ามเลือดเบื้องต้นได้ แต่หากไม่ดีขึ้น หรือยังมีเลือดไหลออกมาปริมาณมาก หรือเลือดกำเดาไหลข้างเดียว ร่วมกับมีอาการปวด คัดจมูกในข้างนั้น อาจสงสัยภาวะก้อนในโพรงจมูก ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม
นอกจากนี้ ในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินค่ามาตรฐาน ผู้ป่วยที่เป็นจมูกอักเสบภูมิแพ้ มักจะมีอาการแย่ลง ดังนั้นในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 สูงควรใส่หน้ากากอนามัยที่สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 ได้ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีฝุ่นเยอะ และควรล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเพราะจะช่วยล้างเศษฝุ่นละออง สะเก็ด หรือน้ำมูกออกมาได้.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เศรษฐา แจง ไม่ประกาศเชียงใหม่ เป็นพท.ฉุกเฉิน
- ทัวร์ลง เศรษฐา ปั่นจักรยาน ที่เชียงใหม่ ไม่ใส่แมส
- แพทย์ มช. เตือน วิกฤติฝุ่น PM 2.5 สาเหตุเลือดกำเดาไหล