24-25 มีนาคม ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ ประจำเดือนมีนาคม 2567 เปิดคำทำนายของหมอช้าง ราศีใดต้องระวัง พร้อมแนะวิธีไหว้เอาฤกษ์เอาชัย และเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี
หลังเริ่มศักราชใหม่มาได้สองเดือน บ้างก็อาจจะพบเจอแต่เรื่องดี ๆ แต่บ้างก็อาจจะเผชิญกับเรื่องราวหนักหนามามากมาย แต่ขอให้อดทนกันอีกนิด เพราะในวันจันทร์ที่ 25 มีนาคมนี้ จะเกิดปรากกฏการณ์ทางดาราศาสตร์ “ราหูอมจันทร์” หรือ “จันทรุปราคาเงามัว” ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งการโคจรของดาวดวงนี้จะส่งผลให้ดวงชะตาของใครหลาย ๆ คนเปลี่ยนแปลง
ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ในเดือนมีนาคมนี้ นับเป็นการเกิดขึ้นครั้งแรกในรอบ 2 ปีที่ประเทศไทยจะได้เห็น จันทรุปราคาเงามัวเต็มดวง โดยจะเกิดขึ้นในคืนวันที่ 24 มีนาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 20.46 น. จนถึง 02.56 น. ของวันที่ 25 มีนาคม 2567 รวมเป็นเวลา 4 ชั่วโมง 10 นาที
ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์คืออะไร
ตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ราหูอมจันทร์ หรือ จันทรุปราคา เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่เกิดขึ้นเมื่อดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเงาของโลก ดวงจันทร์จะเปลี่ยนเป็นสีแดงเลือด หรือสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและองค์ประกอบอื่น ๆ ในชั้นบรรยากาศ
ในขณะเดียวกัน สำหรับบางวัฒนธรรมมีความเชื่อว่า จะนำภัยพิบัติมาสู่โลก และเป็นลางร้ายของเหตุการณ์เลวร้ายต่าง ๆ ซึ่งการไหว้ราหูก็จะสามารถช่วยแปรเปลี่ยนจากลางร้ายให้กลายเป็นลางดีได้ ส่วนในทางโหราศาสตร์ไทยจะมีความเชื่อว่า ราหูอมจันทร์ส่งผลต่อดวงชะตา และบางคนเชื่อกันว่าราหูอมจันทร์เป็นโอกาสดีในการเริ่มต้นสิ่งใหม่ ๆ
‘หมอช้าง’ เปิดดวง ราศีที่ได้รับผลกระทบจากราหูอมจันทร์
หมอช้าง ทศพร ศรีตุลา นักพยากรณ์ชื่อดัง เปิดดวงประจำเดือนมีนาคม 2567 ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ครั้งแรกของปีจะส่งผลต่อโชคชะตาอย่างไร ราศีใดต้องระวังผลกระทบจากราหู เผยเรื่องดีและเตือนเรื่องที่ควรระวัง
ราศีมีน (ผู้ที่เกิดในวันที่ 15 มี.ค.-13 เม.ย.)
ชาวราศีมีนจะได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ โดยในปี 2567 ราหูจะอยู่กับราศีมีนตลอดทั้งปี และในช่วงเดือนมีนาคมระหว่างวันที่ 24 – 25 มีนาคมที่มีจันทรุปราคา พระราหูอาจส่งพลังด้านลบให้ชาวราศีมีน แต่ก็จะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นด้วย อย่างการได้เดินทางต่างประเทศ หรือมีงานออนไลน์เข้ามา
ในขณะเดียวกัน เมื่อดวงแรงมากก็จะส่งผลอีกขั้ว กล่าวคือ เป็นราศีที่จะมีโชคลาภ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีลางสังหรณ์แม่นยำ เมื่อลงทุนสิ่งใดควรมั่นใจในความรู้สึกของตัวเอง และสุดท้ายการตัดสินใจก็จะส่งผลให้เกิดสิ่งดี ๆ มีโชคลาภ
โดยในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนมีนาคมจะต้องระวังด้านการเงินเป็นพิเศษ เรื่องที่น่ากังวลจะเกี่ยวกับการเซ็นสัญญา การให้กู้ยืม ปัญหาหนี้สิน ซึ่งข้อผิดพลาดทางการเงินเหล่านี้จะเป็นเหตุให้สูญทรัพย์สิน
นอกจากเรื่องเงินทองแล้วก็ต้องระวังเรื่องอาการบาดเจ็บ จากการทำกิจกรรมโลดโผน อาทิ การปีนเขา การดำน้ำ รวมถึงต้องระวังเรื่องการพูดจา เพราะหากพูดไม่คิดอาจทำให้ทะเลาะกับคนรักได้ง่าย
แนวทางการแก้เคล็ดคือ หมั่นทำบุญที่เกี่ยวข้องกับแสงสว่าง ขับไล่เขาพระราหู อย่างทำบุญการศึกษา หรือน้ำมันตะเกียง โดยจะทำด้วยเลข 8 และ 12 จะเป็นการดี
ไหว้ราหูอมจันทร์ 25 มีนาคม แก้เคล็ด จากร้ายกลายเป็นดี
เครียมความพร้อมก่อนจะถึงวันที่ราหูอมจันทร์ในปี 2567 พิธีไหว้พระราหูจะต้องทำอย่างไร เตรียมของอะไรบ้าง และต้องสวดคาถาบทไหน Thaiger ได้เตรียมสิ่งที่ทุกคนควรรู้มาไว้ให้หมดแล้ว ดังนี้
ของไหว้พระราหู
ของไหว้ที่จำเป็นต่อการไหว้พระราหูในวันที่ 25 มีนาคม 2567 มีทั้งสิ้น 8 อย่าง ตามลำดับของพระราหูที่ถือเป็นเทวดาในลำดับที่ 8 หรืออาจเป็น 12 อย่างก็ได้เช่นกัน ซึ่งล้วนแต่เป็นของไหว้ที่มีสีใกล้เคียงกับพระกายของพระราหู ดังนี้
- ธูปสีดำ 12 ดอก
- ของไหว้สีดำ จำนวน 8 หรือ 12 อย่าง ได้แก่ ถั่วดำ กาแฟดำ เฉาก๊วย ไก่ดำต้มปลาดุกย่าง เหล้าดำ โค้กหรือน้ำหวานที่มีสีดำ ซุปไก่ งาดำ ข้าวเหนียวดำ สาหร่ายดำ
ขั้นตอนการไหว้พระราหู
หลังจากที่เตรียมของไหว้เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนถัดมาคือการทำพิธีไหว้พระราหู โดยมีลำดับขั้นตอนง่าย ๆ เพียง 2 ขั้นตอน ดังนี้
- สถานที่ไหว้ ควรเป็นที่กลางแจ้ง และหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
- ตั้งนะโม 3 จบ ตามด้วยบทสวดบูชาพระราหู
บทสวด คาถาไหว้พระราหู
ขั้นตอนสำคัญของการทำพิธีในวันราหูย้าย คือการสวดบูชาพระราหู โดยใช้บทสวดที่ใช้ไหวขอพรกันอย่างแพร่หลาย เริ่มด้วยการตั้งนะโม 3 จบ จากนั้นให้สวดคาถาบูชาพระราหู พระคาถาสุริยะบัพพา พระคาถาจันทบัพพา จากนั้นให้กล่าวคำถวายเครื่องสังเวย และคาถาบูชาพระราหู 12 จบ ดังนี้
ตั้งนะโม 3 จบ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
บทสวดคาถาบูชาพระราหู
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ สุริยัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะกินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ สุริยันติ
กินนุ สันตะระมาโน วะราหุ จันทัง ปะมุญจะสิ
สังวิคคะรูโป อาคัมมะ กินนุ ภีโต วะ ติฏฐะสีติ
สัตตะธา เม ผะเล มุทธา ชีวันโต นะ สุขัง ละเภ
พุทธะคาถาภิคีโตมหิ โน เจ มุญเจยยะ จันทิมันติ
พระคาถาสุริยะบัพพา
กุสเสโตมะมะ กุสเสโตโต ลาลามะมะ
โตลาโม โทลาโมมะมะ โทลาโมมะมะ
โทลาโมตัง เหกุติมะมะ เหกุติฯ
พระคาถาจันทบัพพา
ยัตถะตังมะมะ ตังถะยะ ตะวะตัง
มะมะตัง วะติตัง เสกามะมะ
กาเสตัง กาติยังมะมะ ยะติกาฯ
คำถวายเครื่องสังเวยพระราหู
นะโมเม พระราหูเทวานัง ธูปะทีปะ จะปุปผัง
สักการะวันทะนึง สูปะพะยัญชะนะ
สัมปันนัง โภชะ นานัง
สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง
อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา
หิตายะ สุขายะ พระราหูเทวา
มะหิทธิกา เตปิ อัมเห
อะนุรัก ชันตุ อาโรคะ
เยนะ สุเขมะจะฯ
คาถาบูชาพระราหู (สวด 12 จบ)
คะ พุท ปัน ทู ธัม วะ คะ
ข้าพเจ้า (ชื่อนามสกุล) ขอบูชาพระราหูด้วยของดำ (8 หรือ 12) อย่าง ขอให้อิทธิพลของดาวราหูจงส่งผลดีแก่ดวงชะตาของข้าพเจ้า ขอให้ได้พบเจอแต่กัลยาณมิตรที่ดี ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงปราศจากโรคร้ายใด ๆ ขอให้เกิดความสุขในครอบครัว ขอให้ดาวราหูประทานพรโชคลาภและความสำเร็จแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ (อธิษฐานเรื่องอื่น ๆ ตามปรารถนา)
อย่างไรก็ดี การไหว้พระราหูในวันที่เกิดปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ทุกท่านปฏิบัติได้ตามความสะดวกของตนเอง เพราะสิ่งที่จริงแท้ที่สุดคือปลของการกระทำ หากทำดีและทำด้วยจิตใจที่มุ่งมั่นก็ย่อมส่งผลดีแก่ตัวท่านเอง และหากปฏิบัติไม่ดี แม้จะไหว้พรขอพรก็ไม่อาจเปลี่ยนสิ่งเลวร้ายให้กลับกลายเป็นดีได้
ปรากฏการณ์ราหูอมจันทร์ทางวิทยาศาสตร์
ราหูอมจันทร์ มีชื่อเรียกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ว่า จันทรุปราคา เกิดขึ้นเมื่อโลกโคจรมาขวางแสงอาทิตย์ ทำให้เงาของโลกไปตกบนดวงจันทร์ ส่งผลให้ดวงจันทร์กลายเป็นสีแดงเลือด หรือสีน้ำตาล ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบของชั้นบรรยากาศโลก
จันทรุปราคาเกิดขึ้นได้บ่อย ต่างจากสุริยุปราคา ที่สามารถมองเห็นได้จากพื้นที่เล็ก ๆ บนโลกเท่านั้น แต่จันทรุปราคาสามารถมองเห็นได้จากทุกที่บนด้านมืดของโลก หมายความว่า ผู้คนในซีกโลกที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์ จะสามารถเห็นปรากฏการณ์จันทรุปราคาได้
ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
- ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน
- โลกอยู่ระหว่างดวงอาทิตย์และดวงจันทร์
- เงาของโลกทอดไปบนดวงจันทร์
ลองจินตนาการว่า โลกเปรียบเสมือนลูกบอลขนาดใหญ่ ดวงอาทิตย์เปรียบเสมือนลูกบอลไฟขนาดใหญ่ และดวงจันทร์เปรียบเสมือนลูกบอลขนาดเล็ก เมื่อลูกบอลขนาดใหญ่ (โลก) เคลื่อนที่ไปขวางลูกบอลไฟ (ดวงอาทิตย์) เงาของลูกบอลขนาดใหญ่ (โลก) จะทอดไปบนลูกบอลขนาดเล็ก (ดวงจันทร์) ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์จันทรุปราคา
ระยะเวลาของจันทรุปราคาจะแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ โดยจันทรุปราคาเต็มดวง จะกินเวลานานที่สุด ประมาณ 100 นาที
ลองนึกภาพว่าดวงจันทร์ค่อยๆ เคลื่อนที่ผ่านเงามืดของโลก เปรียบเสมือนดวงจันทร์ถูกกลืนกินทีละนิด เริ่มจากขอบดวงจันทร์ จนกระทั่งทั้งดวงจันทร์กลายเป็นสีแดงเลือด หรือสีน้ำตาล
ประเภทของจันทรุปราคา
- จันทรุปราคาเต็มดวง: ดวงจันทร์ทั้งหมดจะอยู่ในเงามืดของโลก เปรียบเสมือนดวงจันทร์ถูกกลืนกินจนหมดสิ้น
- จันทรุปราคาบางส่วน: ดวงจันทร์เพียงบางส่วนอยู่ในเงามืดของโลก เปรียบเสมือนดวงจันทร์ถูกกลืนกินเพียงบางส่วน
- จันทรุปราคาเงามัว: ดวงจันทร์เคลื่อนที่ผ่านเงามัวของโลก ทำให้ดวงจันทร์ดูมืดลง เปรียบเสมือนดวงจันทร์ถูกปกคลุมด้วยเงาบางๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- 4 ราศี ดวงดี เดือนมีนาคม 2567 พลิกร้าย ยากเข็ญกลายเป็นดี
- หมอช้าง ดูดวงเดือนมีนาคม 12 ราศี เด่นเรื่องไหนบ้าง
