สาวสุดงง ขึ้นรถไฟกลับบ้าน แต่ถูกแจ้งความเป็น “โจรขโมยโทรศัพท์”
สาวงงหนัก ใช้บริการการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อเดินทางไปยังจังหวัดอุบลราชธานี แต่กลับถูกตำรวจตามให้ไปมอบตัว ในข้อหา “ขโมยโทรศัพท์” ผลสุดท้ายมีแต่เสียความรู้สึก
วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 ทางหน้าเพจเฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ออกมาแชร์เรื่องราวที่มีสาวรายหนึ่งได้รับประสบการณ์สุดแย่จากการเดินทางโดยรถไฟ เพราะจู่ๆ เธอกลับถูกแจ้งความในข้อหา “ขโมยโทรศัพท์มือถือ” ทั้งๆ ที่ตนไม่รู้เรื่องอะไรเลย สุดท้ายเช็กกล้องวงจรปิดของสถานีถึงรู้ความจริงที่ทำให้เธอเสียทั้งเวลา และความรู้สึก
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา เหตุเริ่มมาจากหญิงสาวเจ้าของโพสต์กำลังจะเดินทางไปยังจ.อุบลราชธานี ด้วยการใช้บริการการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยรถขบวนเร็ว 139 ชุมทางอุบลราชธานี หลังจากที่เธอกับน้องสาวเดินทางมาถึงยังสถานีชุมทางถนนจิระเวลาประมาณ 15.00 น. ก่อนจะติดต่อซื้อตั๋วรถไฟ ซึ่งได้รอบออกเดินทางเวลา 00.36 น. และจะไปถึงสถานีปลายทางในเวลา 06.15 น.
สาวรายนี้เล่าต่อว่าเมื่อซื้อตั๋วเสร็จก็เดินไปหาที่นั่งบริเวณใกล้ปลั๊ก เพื่ออาศัยช่วงเวลานี้ในการชาร์จแบตโทรศัพท์ ก่อนจะตัดสินใจเดินหาอะไรกินที่ห้างสรรพสินค้าระแวกนั้น ซึ่งในระหว่างที่เธอกับน้องสาวกำลังเดินหาร้านอาหารอยู่นั้นก็มีสายโทรเข้ามา ปลายสายระบุว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรมาเพื่อที่จะแจ้งให้หญิงสาวรายนี้ทราบว่ากำลังตกเป็นผู้ต้องหาในการกระทำความผิดข้อหา “ขโมยโทรศัพท์มือถือ” และให้เธอเดินทางไปยังสถานีตำรวจ
เมื่อทราบดังนั้นแล้วเธอถึงเดินทางกลับจากห้างฯ มาที่สถานีรถไฟ ก่อนจะขอเช็กกล้องวงจรปิดของสถานีเพื่อยืนยันกับทางตำรวจว่าเธอและน้องสาวนั้นไม่ใช่โจรขโมยโทรศัพท์อย่างที่ถูกแจ้งความเอาไว้ สุดท้ายผลปรากฎว่าคนร้ายตัวจริงเป็นผู้ชาย ซึ่งเท่ากับว่าตำรวจกำลังจับกุมและแจ้งข้อหาผิดตัวนั่นเอง
จากเหตุการณ์ทำให้เจ้าของเรื่องนี้รู้สึกเสียความรู้สึกเป็นอย่างมาก เนื่องจากคำพูดของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โทรมาทั้งเธอและน้องสาวนั้นใช้คำพูดและน้ำเสียงที่ไม่ดี ส่อไปในทางข่มขู่ รวมถึงบังคับให้ยอมรับผิด แต่สุดท้ายพอรู้ว่าจับผิดคนกลับไม่ได้รับคำขอโทษหรือการเอ่ยปากรับผิดชอบแต่อย่างใด ในทางกลับกันทางฝั่งของน้องเจ้าของโทรศัพท์ที่หายไป และเป็นผู้แจ้งความก็ได้กล่าวขอโทษกับเหตุการณ์ความเข้าใจผิดในครั้งนี้
ด้านชาวเน็ตหลังจากที่ได้อ่านเรื่องราวดังกล่าวจบต่างก็เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมาย ในเชิงต่อว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจนายนั้นที่รับแจ้งความ และโทรเรียกเจ้าของเรื่องเล่านี้มารับทราบข้อกล่าวหาแบบจับแพะ
อย่างไรก็ดีเรื่องราวนี้จะมีบทสรุปหลังจากนี้อย่างไร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือสภ.พื้นที่ที่เกิดเรี่องรวมถึงผู้บังคับบัญชาจะออกมาเคลื่อนไหวในแนวทางไหนคงต้องรอติดตามความคืบหน้าอีกครั้งหนึ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มร้อง ‘สายไหมต้องรอด’ ตำรวจจับผิดตัว เหตุชื่อ-สกุลตรงกัน ติดคุกหลาย ชม.
- โคตรซวย! หนุ่มถูกจับ 3 ครั้ง ในรอบ 13 ปี เหตุ ชื่อเดียวกันกับพ่อค้ายาเสพติด
- สุดซวย! ตร. จับผิดคน หลังคนร้ายชื่อเหมือนกัน แถมหน้าคล้ายกันอีก
อ้างอิงจาก : FB อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6