ข่าว

จุกอก สามีคนตาย คดีฟ้องปรปักษ์ ขอหลานอากู๋ อโหสิ ภรรยาอยากขอโทษเองแต่สายเสียก่อน

สามี นุ ภาณุมาศ โฟนอินเล่าปมสลดในโหนกระแส ก่อนขออโหสิกรรม หลานอากู๋ กลางรายการ ยันเจตนารมณ์ตนกับภรรยาอยากถอนฟ้องให้เป็นรูปธรรม ปมคนคอยแนะนำขอตอบ ไม่ทราบ ไม่อยากพาดพิงใครเป็นประเด็นอีก ขอพอแค่นี้

เอ๋ สามี ภานุมาศ โฟนอิน เล่ารายละเอียดในรายการโหนกระแส วันนี้ (27 ก.พ.67) ต่อหน้า ซันและอาย หลานอากู๋ ที่เป็นประเด็นฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์ โดยสามีของคนตายเผยว่า หลังเรื่องราวลุกลามบานปลายจนเป็นประเด็นสังคม ก็ได้พูดคุยกับภรรยาจนเป็นเจตนารมณ์ด้วยกันว่า เราจะไม่เดินหน้าต่อ เพื่อให้ทุกอย่างยุติจบลงทั้งหมดเหลือแค่คดีแรก ซึ่งอยากจะขอความกรุณาไกล่เกลี่ยให้เรื่องจบ

สามีของผู้ตาย เผยต่อถึงปมคลิปเสียงด้วย ว่า วันดังกล่าวตนอยู่ในเหตุการณ์ โดยภรรยาอยากถอนคดีให้เป็นรูปธรรม แต่ก็มีความใจร้อน เพราะอยากจะถอนเพื่อจะได้นำเรื่องไปคุยกับอากู๋ กับซันและอาย หลานอากู๋ เป็นสเต็ปที่สอง ว่าไม่ได้มีเจตนาจะครอบครองจริง ๆ ตามที่มีการระบุว่า หลังจากนั้นตนได้เข้าไปคุยกับทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ที่รับผิดชอบคดีให้หลานอากู๋ ซึ่งรายละเอียก็ได้เป็นอย่างที่ทนายเดชาออกมาให้ข่าว

ส่วนที่ว่า รายละเอียดขัดแย้งกับทาง ทนายวัฒนา เรืองแก้ว ทนายซึ่งเป็นคนรับผิดชอบคดีฟ้องปรปักษ์ ตรงนี้ “เอ๋” สามีของภาณุมาศ ชี้แจงว่า หากทนายความไม่สะดวก ตนก็อาจจะพา น.ส.ศรีพรรณ พี่สะใภ้ไปขอถอนคำร้องกันเอง แต่ก็ยังไม่ทราบว่า ตามสิทธิแล้วจะทำได้หรือไม่ ซึ่งต่อมาแขกรับเชิญปลายสายก็ได้รับคำตอบว่า สามารถทำได้โดยไม่ต้องรอทนาย

สามีภานุมาศ
ภาพ @honekrasaeofficial

กรรชัย ขออนุญาตสามี เล่าวันเกิดเหตุ อยู่ดี ๆ เกิดเรื่องได้อย่างไร ?

ต่อมาในรายการ หนุ่ม กรรชัย ขออนุญาต เอ๋ สามีผู้ตาย ฟ้องครอบครองปรปักษ์ ช่วยเล่าวันเกิดเหตุสลดของภรรยา ว่า จู่ ๆ เกิดขึ้นได้อย่างไร ซึ่งเริ่มมาสามีก็เล่าถึงวันดังกล่าว ก่อนที่ภรรยาจะเสีย ทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน โดยมีธุระต้องออกไปข้างนอกประมาณ 10 โมง

แต่ตอนราว 7 โมงครึ่ง ตนบอกภรรยา ขอออกไปซื้อข้าวมาทานกันก่อน แฟนก็บอกเอามะระ ข้าวเปล่า มาก็ได้ เพราะภรรยาช่วงนั้นยังรับประทานอะไรไม่ค่อยได้มาก

พออกไปแล้วกลับมาได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ปรากฏพบว่า ประตูบ้านล็อก ตนมีกุญแจไขเปิดเข้าไปก็พบต่อมาว่า ภรรยาล็อกห้องนอน ก็สังหรณ์ใจจึงปืนประตูหลังอีกห้องเข้ามาทางหลังห้องน้ำก็พบว่า ไม่ทันแล้ว !

ต่อมา กรรชัย ถามถึงการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ของเอ๋ ที่บอกว่า “นุ” หรือ ภรรยาของตัวเองพยายามจะปกป้องทุกคน ด้วยการออกหน้าขอรับผิดเองคนเดียว สามีผู้ตาย กล่าวว่า การที่ภรรยาพูดเช่นนั้น มิได้จะสื่อถึงเตรียมจะก่อเหตุสลดใด ๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่เจตนาภรรยา คือ หมายถึงตอนที่อยู่ในชั้นศาล จะขอพูดต่อหน้าศาลเองว่า เป็นคนทำเรื่องนี้แต่เพียงผู้เดียว เพื่อปกป้องตนและญาติ ๆ ที่เข้าไปพัวพัน

สามีผู้ตายกล่าวด้วยว่า ตอนที่ตนเองจะออกมาให้ข่าว ภรรยาก็ห้ามไว้ บอกไม่ต้องออกมา เพราะกลัวว่าจะมีผลกระกบกับเรื่องส่วนตัว ส่วนที่ว่า หากฟ้องชนะจะมีการคืนบ้านให้อากู๋ คุณเอ๋ ยืนยันว่า หากชนะคดีตั้งใจจะคืนบ้านให้อากู๋จริง เป็นเจตนารมณ์ของทั้งตัวคุณเอ๋เองและนุ ผู้ตาย

เมื่อถูกถามว่า แล้วทำไมจึงไปฟ้องร้องให้เสียเวลา ?

สามีผู้ตาย ยอมรับว่า เป็นเพราะทั้งคู่โง่เขลาเอง ได้ข้อมูลมา คลาดเคลื่อนบ้าง อะไรบ้าง ! และอาจจะคิดน้อยไปหน่อยด้วย

ที่สำคัญอีกอย่างคนมีคดีแรกอยู่ เกิดมาไม่เคยเจออย่างนี้ก็เลยมีความวิตกกังวล พอมีข้อมูลตรงนี้มาก็น่าพอจะมีทางออก เราก็มองว่า เราไม่ได้เลวร้ายอย่างที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์ก็น่าจะมีอะไรดี ๆ กลับมาหาเราบ้าง และเราก็มีความคิดอยากกจะคืนบ้านให้กับอากู๋ จริง ๆ ครับ

จากนั้น กรรชัย ถาม อาย หลานอากู่ อยากมีอะไรกล่าวกับสามีผู้ตายหรือไม่ ? อาย สะใภ้อากู๋ ก็ได้เอ่ยทันทีว่า เธอขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น และขออโหสิกรรมให้ทั้งหมด โดยทราบถึงเจตนาของทางภาณุมาศและนายเอ๋ สามีผู้ตาย ดีว่า ไม่ต้องการจะไปต่อในเรื่องการฟ้องร้องครอบครองปรปักษ์แล้ว

อายหลานอากู๋

ด้าน ซัน ก็กล่าวแสดงความเสียใจ ก่อนจะยอมรับตอนเกิดเหตุไม่กล้าทักไปเพราะเกรงว่า อีกฝ่ายจะคิดว่าไปดูหมิ่นจึงยังไม่ได้กล่าวแสดงความเสียใจในตอนนั้น ซึ่งทาง เอ๋ สามีผู้ตายก็รับทราบดี ก่อนจะขอกล่าวขอโทษอากู๋ในรายการมา ณ ที่นี้ด้วย

ซันหลานอากู๋
ภาพ @honekrasaeofficial

อากู๋คือใคร

หลังจบการอโหสิฯ กันเสร็จสิ้น ผู้ดำเนินรายการจึงสอบถาม เอ๋ ว่า หลังข่าวเสียชีวิตของภรรยาว่า เครียดเพราะโดนสื่อกดดัน ตรงนี้ทำให้ คุณอ๋ โกรธสื่อหรือไม่ ?

สามีภานุมาศ (ผู้ตาย) กล่าวว่า ถ้าโกรธสื่อแล้วเมียตนกลับมาได้ ตนก็จะโกรธเลย แต่เข้าใจดีว่า ตนไม่มีสิทธิที่จะโกรธ เพราะสื่อก็เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ต้องเลี้ยงดูคนข้างหลัง เป็นฝั่งของพวกเขาเองที่รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น ภรรยาเป็นคนที่เข้มแข็งภายนอก แต่ลึก ๆ ข้างในจริง ๆ แล้วอ่อนโยน

ส่วนข้อสงสัยที่ว่ามีใครคอยแนะนำของบางคน ทำให้ทางครอบครัวเดินมาถึงจุดนี้ ถูกหรือไม่ ? สามีผู้ตายกล่าวเพียงสั้น ๆ ว่า ประเด็นนี้ขอตอบว่า ตนเองไม่ทราบจริง ๆ แล้วแต่สังคมจะเข้าใจกันเอง ไม่อยากพาดพิงใครให้เป็นประเด็นขึ้นมาอีกแล้ว.

ขอบคุณ รายการโหนกระแสวันนี้ (27 ก.พ.67).

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button