รองอ๋อง ชี้ “ประชาชนบังหน้า” เป็นคำที่พูดได้ ก่อนหน้านี้ หนักแผ่นดิน ล้มเจ้า ก็ผ่านกันมาแล้ว
อนุสรณ์ ลุกจี้ ประธานในที่ประชุม หลังไม่พอใจขอถอนถ้อยคำ รัฐบาลใช้ประชาชนบังหน้า รองอ๋อง วินิจฉัยเป็นคำที่พูดได้ ยกตัวอย่างก่อนหน้านี้ หนักแผ่นดิน ล้มเจ้า ก็ผ่านกันมาแล้ว
จากกรณี อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส. บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นขออนุญาตปรึกษาหารือกับประธานรัฐสภา กลางที่ประชุม เมื่อวานนี้ (21 ก.พ.67) ใน 2 ประเด็น หลังจากได้ฟังคำอภิปรายแล้วเกิดความไม่สบายใจจนต้องเดินไปสอบถามกับเจ้าหน้าที่ถึงถ้อยคำที่มีการถูกตัดไป ฟังเสมือนหนึ่งว่า มีกระบวนการที่จะทำให้ได้เปรียบเสียเปรียบ ถ้อยคำที่ว่า ถูกตัดไปนั้น คือ ถ้อยคำที่เขีนยนว่า “เป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและสตรี”
สิ้นเสียงนายอนุสรย์ ที่ยังไม่ทันกล่าวจบ ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งได้อภิปรายไปก่อนหน้า ก็ได้กล่าวแทรก ว่า “ท่านประธานช่วยกรุณาตรวจสอบด้วย เพื่อประกอบบการอภิปรายของนายอนุสรณ์ ว่า ถ้อยคำที่หายไปนั้นเพิ่งกลับมา เมื่อสักครู่ตัดจริง ขอให้ประธานตั้งกรรมการสอบประเด็นนี้ด้วย
ก่อนที่ “รองอ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในการประชุม จะขออนุญาตให้นายอนุสรณ์ได้กล่าวชี้แจงต่อ ซึ่งทาง สส. พรรคเพื่อไทย ก็ขอบคุณประธานที่วินิจฉัยถูกต้อง ก่อนร่ายเนื้อหาที่ตั้งประเด็นไว้ต่อ ว่า ข้อความที่หายไปที่อ้างเป็นร่างพระราชบัญญัติที่มีสาระสำคัญเกี่ยวกับเด็ก เยาวชนและสตรี ซึ่งถูกตัดจริง แต่ไม่ได้ตัดเพื่อให้ความได้เปรียบรัฐบาลหรือว่าให้ใครเสียเปรียบ ตนไปสอบถามเจ้าหน้าที่ตัดเพราะอะไร ก็ให้เหตุผลว่า เขาขึ้นข้อความยินดีต้อนรับคณะผู้มาดูงานเท่านั้นเอง
ดังนั้นตนจึงขอเรียนว่า การอภิปรายในลักษณะทำนองว่า มีการตัดถ้อยคำเพื่อให้ได้เปรียบเสียเปรียบ จึงไม่เป็นความจริง ขอให้ถอนข้อความดังกล่าว
อีกประเด็นกับการใช้คำว่า รัฐบาลใช้ประชาชนบังหน้า ตนเห็นว่าเป็นการใช้คำพูดที่เล่นใหญ่ เกินเบอร์และเกินไป
ด้าน รองอ๋อง ปดิพัทธ์ ชี้แจงว่า จากที่ฟัง นายณัฐวุฒิ ไม่ได้บอกว่าทำให้เกิดได้เปรียบเสียเปรียบ แต่เป็นการขึ้นหัวข้อกฏหมายที่ไม่ถูกต้อง ตรงนี้ก็คิดว่าเข้าใจไม่ผิด เพราะฉะนั้นก็ไม่ได้ทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบแต่อย่างใด แต่เหตุผลที่นายอนุสรณ์กล่าวนั้นเป็นความจริงที่ว่า ข้อความขึ้นบนหน้าจอไม่พอจึงมีการตัดท่อนที่ทำให้ขึ้นข้อความอันต่อไ-ปไม่ได้
ส่วนข้อที่ว่า “ใช้ประชาชนบังหน้า” คำวินิจฉัยของประธานคิดว่าไม่จำเป็น เพราะยังเป็นคำที่สามารถพูดได้ เทียบกับอาทิตนย์ที่ผ่านมาที่มีทั้งคำว่า หนักแผ่นดิน ล้มเจ้า หนักว่านี้เยอะก็ยังใช้สภาพูดคุยกันได้ ฉะพนัน้จึงขอความกรุณาว่าเป็นคำที่พูดได้
ทั้งนี้ ประเด็นที่นายอนุสรณ์ ขอให้ถอนคำพูดนั้น มาจากตอนที่ นายณัฐวุฒิ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ ร่าง พ.ร.บ. การรับรองเพศ คำนำหน้านาม และการคุ้มครองบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ หรือ “ร่าง พ.ร.บ. คำนำหน้านามตามความสมัครใจ” ของพรรคก้าวไกล ที่เสนอโดย ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ ซึ่งสภามีมติโหวตคว่ำ “ร่างพ.ร.บ.รับรองเพศฯ” ฉบับก้าวไกล ด้วยคะแนนเสียงไม่เห็นด้วย 257 เสียง เห็นด้วย 154 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง และไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
โดยช่วงหนึ่ง สส.จากฟากฝั่งก้าวไกล ได้กล่าวถึง สส. จากพรรครัฐบาล บอกให้มีการถอนร่างดังกล่าวซึ่งแสดงความไม่พร้อม แล้วเอาประชาชนมาบังหน้า.