ถกสนั่น หญิงสาวป่วยโรคทางจิต ถูกพ่อล่ามโซ่ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่?
ชาวเน็ตแห่ตั้งคำถามทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ หญิงสาวป่วยโรคทูเร็ตต์ (Tourette) ถูกพ่อล่ามโซ่ตรึงเท้า แต่ดันแอบหนีไปนั่งกินแมคโดนัลด์ ทั้งที่โซ่ยังคาอยู่ ผู้พบเห็นแตกตื่น ด้านตำรวจไม่ตั้งข้อหา
เว็บไซต์ต่างประเทศ mirrormedia รายงานเหตุการณ์สุดสะเทือนใจทีเกิดขึ้น ณ แมคโดนัลด์สาขาหนึ่ง ในเขตเน่ยหู เมืองไทเป เมื่อหญิงสาววัย 26 ปี ผู้ป่วยเป็นโรคทูเร็ตต์ (Tourette) ถูกพ่อล่ามโซ่ตรึงเท้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอหนีหายไปไหนระหว่างที่พ่อแม่ไม่อยู่ แต่เธอดันมาโผล่ที่ฟาสต์ฟู้ดจนเป็นเหตุให้ผู้พบเห็นพากันตกใจ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา หญิงสาว แซ่หลิน ผู้ป่วยโรคทูเร็ตต์อาศัยช่วงที่พ่อของเธอเผลอ ทำการแอบหนีออกจากบ้านและไปนั่งกินอาหารคนเดียวที่ร้านแมคโดนัลด์ แต่หลังจากที่พนักงานและลูกค้าในร้านได้เห็นโซ่เหล็กเส้นใหญ่ที่ข้อเท้า ซึ่งถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจ ก็พากันตกตะลึงและตั้งคำถามถึงที่มาที่ไปของสิ่งที่ได้เห็น จากนั้นผู้หวังดีคนหนึ่งจึงโทรแจ้งตำรวจ
หลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางมาควบคุมตัวหญิงสาวคนดังกล่าวไปสอบสวน และแจ้งสมาชิกในครอบครัวของเธอมาที่โรงพัก เพื่อสอบปากคำอย่างละเอียด
จากการสืบสาวราวเรื่องทั้งหมดก็ได้ทราบว่า หญิงสาวรายนี้ป่วยเป็นโรค Tourette ส่งผลต่อระบบประสาท ทำให้ควบคุมร่างกายตัวเองได้ยาก และครั้งหนึ่งก็เคยเกิดเหตุเช่นนี้มาก่อน โดยเธอเคยออกจากบ้านไปเร่ร่อนขอทานตามข้างถนน ก่อนจะเกิดเหตุซ้ำสอง พ่อของเธอจึงตัดสินใจล่ามโซ่ตรึงเท้าไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้เธอแอบหนีไปที่ไหนได้อีก แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังสามารถหลบหนีออกมาได้อีกครั้ง
อย่างไรก็ดี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ตั้งข้อหากับผู้เป็นพ่อในฐานความผิดเกี่ยวกับความรุนแรงในครอบครัว เนื่องจากพิจารณาแล้วว่าเป็นการกระทำที่มาจากความห่วงใย เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสาวได้รับอันตราย แต่ถึงอย่างนั้นทางตำรวจก็ได้ประสานงานไปยังเจ้าหน้าที่สวัสดิการสังคม เพื่อให้เข้ามาให้คำปรึกษาถึงแนวทางการดูแลผู้ป่วยโรคทูเร็ตต์อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้ หลังจากที่เหตุการณ์ได้รับความสนใจจากชาวเน็ต หลาย ๆ ก็ได้ลงความเห็นว่าแม้การกระทำของเธอจะมาจากเจตนาดี แต่การล่ามโซ่ลูกสาวอาจเป็นการทำเกินกว่าเหตุ และหากมีแนวทางที่ดีกว่านี้ในการดูแลลูกสาวก็คงจะดี ซึ่งชาวเน็ตส่วนหนึ่งกลับมองว่าการดูแลผู้ป่วยนั้นไม่ง่าย ไม่ควรจะไปต่อว่าหรือติติงคุณพ่อให้เสียกำลังใจ
ข้อมูลจาก mirrormedia
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง