ผลสำเร็จ แก้หนี้ทั้งระบบ เศรษฐา เผยไกล่เกลี่ยสำเร็จกว่า 57% มูลหนี้ลด 670 ล้านบาท ชมทุกหน่วยงานร่วมแก้ปัญหาช่วยเหลือประชาชนจริงจรัง
วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วยคณะ ร่วมแถลงข่าวแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ โดยมีผลการแก้หนี้นอกระบบ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2566 มีลูกหนี้ลงทะเบียนกว่า 140,000 ราย ยอดมูลหนี้รวมกว่า 9,800 ล้านบาท สามารถเข้าการไกล่ได้ 21,000 ราย และไกล่เกลี่ยสำเร็จ 12,000 ราย คิดเป็น 57% ของจำนวนที่เข้าสู่กระบวนการ (มูลหนี้ลดลงกว่า 670 ล้านบาท)
รัฐบาลเร่งแก้หนี้ให้ประชาชน ผ่านบันได 4 ขั้น
บันไดขั้นแรก กระทรวงมหาดไทย เร่งปฏิบัติงานเชิงรุก หาตัวเจ้าหนี้ ไกล่เกลี่ยหนี้ให้บรรลุผลมากที่สุด จัดกิจกรรมตลาดนัดแก้หนี้ น้อยเดือนละ 4 ครั้ง
บันไดขั้นที่ 2 สำนักงานตำรวจแห่งชาติกวาดล้างผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ เช่น เจ้าหนี้ที่ใช้ความรุนแรง รับจำนำรถผิดกฎหมาย ที่ผ่านมาจับกุมดำเนินคดีแล้วกว่า 1,300 ราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 40 ล้านบาท
บันไดขั้นที่ 3 กระทรวงการคลัง โดยธนาคารออมสิน หรือ ธ.ก.ส. จัดหาแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำแก่ลูกหนี้ที่ผ่านการไกล่เกลี่ยมาแล้ว
บันไดขั้นสุดท้าย คือ กระทรวงแรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกันพัฒนาฝีมือแรงงาน หาอาชีพ สร้างรายได้เพิ่มให้ประชาชน
เดินหน้าแก้หนี้ในระบบให้ลูกหนี้ 4 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 คือ ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจาก Covid-19 โดยปิดบัญชีหนี้เสียแล้ว มากกว่า 630,000 บัญชี มูลหนี้กว่า 4,000 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 คือ ลูกหนี้ที่มีรายได้ประจำ แต่มีภาระหนี้จำนวนมากจนเกินศักยภาพในการชำระคืนหนี้ กระทรวงเกษตรฯ ขอความร่วมมือสหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่ง คิดดอกเบี้ยเงินกู้ไม่เกิน 4.75% สหกรณ์กว่า 80 แห่ง ทยอยลดดอกเบี้ยแล้ว คาดสมาชิกได้ประโยชน์กว่า 3 แสนราย
กลุ่มที่ 3 คือ กลุ่มที่มีรายได้ไม่แน่นอน ทำให้การชำระคืนหนี้ไม่ต่อเนื่อง เกษตรกรได้รับการพักชำระหนี้แล้วกว่า 1,800,000 ราย มูลหนี้รวมกว่า 250,000 ล้านบาท
กลุ่มที่ 4 คือ กลุ่มที่มีหนี้เสียคงค้างกับสถาบันการเงินมาเป็นระยะเวลานาน ธนาคารออมสินอยู่ระหว่างเจรจาผู้ร่วมทุน เพื่อเตรียมจัดตั้งบริษัทบริหารสินทรัพย์ เมื่อจัดตั้งแล้วเสร็จลูกหนี้สามารถโอนขายไปยังบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ตั้งใหม่ เพื่อช่วยเหลือแบบผ่อนปรนต่อไป.
ที่มา : กรมประชาสัมพันธ์