หญิงชรา 80 ปี รอดชีวิต หลังติดใต้ซากบ้านนาน 72 ชั่วโมง เหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่น
เหตุแผ่นดินไหวญี่ปุ่นขนาด 7.6 สร้างหายนะให้ประเทศ หญิงชราวัย 80 ปี ติดอยู่ใต้ซากบ้านที่ถล่มนานถึง 72 ชั่วโมง รอดชีวิตปาฏิหาริย์ เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือออกมาได้แล้ว
สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงายนว่า 3 วันแรกของปฏิบัติการกู้ภัยมีความสําคัญ เพราะอัตราการรอดชีวิตจะลดลงอย่างมากหากนานกว่าั้น หญิงชราอายุ 80 ปี ติดอยู่ในบ้านสองชั้นของเธอในเมืองวาจิมะ ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากการสั่นสะเทือน
ตอนเธอได้รับการช่วยเหลือจากนักผจญเพลิง ผู้หญิงคนนั้นมีสติและตอบสนองได้ ถูกส่งไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ทันที
แผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นในวันขึ้นปีใหม่และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกหลายสิบครั้ง อาคารทั่วจังหวัดอิชิกะวะและบริเวณใกล้เคียงบนชายฝั่งตะวันตกของญี่ปุ่นถล่มราบเป็นหน้ากลอง จนถึงขณะนี้มีผู้ได้รับการช่วยเหลือ 156 คน แต่อย่างน้อย 179 คนยังคงสูญหาย หลายคนเป็นผู้สูงอายุและมาจากวาจิมะและเมืองซูซู
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นกล่าวในการแถลงข่าวว่า “เราต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้คนต่อไป แม้เกิน 72 ชั่วโมงหลังจากภัยพิบัติ”
ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวจนถึงตอนนี้ (5 มกราคม) มีอย่างน้อย 84 คน ผู้เสียชีวิต 48 คนอยู่ในเมืองวาจิมะ และ 23 คนอยู่ในซูซู มีรายงานอีก 13 คนในเมืองใกล้เคียงห้าแห่ง มีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 300 คน
หน่วยกู้ภัยพยายามดิ้นรนเพื่อไปยังพื้นที่เหนือสุดของคาบสมุทร ซึ่งมีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น เนื่องจากถนนที่ถูกตัดขาด 3 วันหลังจากเกิดภัยพิบัติ 30 หมู่บ้านยังคงไม่สามารถเข้าถึงได้
ความช่วยเหลือกําลังไหลเข้ามา แต่ผู้อพยพส่วนใหญ่ยังคงถูกตัดขาดจากอาหาร น้ํา ไฟฟ้า และการสื่อสาร ท่ามกลางอุณหภูมิเยือกแข็งและฝนตกหนัก
เจ้าหน้าที่ได้จัดส่งอาหาร 3,000 มื้อและน้ํา 5,000 ขวด ยังไม่เพียงพอสําหรับผู้อพยพ 11,000 คนในเมืองวาจิมะ
นายกเทศมนตรีเมืองชิเงรุ ซากากุจิ กล่าวในการประชุมรับมือภัยพิบัติระดับภูมิภาคว่า “สิ่งแรกและสำคัญที่สุดคือถนน ถนนที่ถูกตัดขาดไม่เพียงแต่ขัดขวางการอุปโภคบริโภคเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการฟื้นตัวของไฟฟ้า น้ำ สัญญาณมือถือ และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ของการช่วยชีวิต”
“เมื่อเทียบกับภัยพิบัติอื่นๆ สถานการณ์ถนนสู่วาจิมะแย่มาก ผมรู้สึกว่าต้องใช้เวลานานกว่าปกติในการให้ความช่วยเหลือ” ชุนซากุ โคริกิ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่เคยช่วยเหลือภัยพิบัติอื่นๆ บอกกับรอยเตอร์ “ผมคิดว่าถ้าพูดตามความเป็นจริงแล้ว ผู้อพยพจะต้องใช้ชีวิตในสภาพที่ยากลำบากจริงๆ ไปอีกสักระยะหนึ่ง”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง