รอมแพง น้อมรับความผิดพลาด นิยาย พรหมลิขิต อาจไม่ดีพอทำเป็นละคร ส่วนตัวไม่มีปัญหาเรื่องการดัดแปลง เข้าใจความแตกต่างของการนำเสนอ อาจเสียดายเนื้อหา คาแรคเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้าง
แม้ว่าละคร พรหมลิขิต จะจบลงอย่างสมบูรณ์แล้ว แต่แฟน ๆ ก็ยังคงพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงการถ่ายทอดเรื่องราวและการนำเสนอเนื้อหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในภาคต่อนี้ บางส่วนชื่นชอบตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนสุดท้าย แต่บางส่วนกลับมองว่ามีหลายฉากที่สามารถทำให้ดีกว่านี้หรือขยี้ให้เข้มข้นกว่านี้ได้
ล่าสุด (22 ธ.ค. 66) รอมแพง เจ้าของนิยายบุพเพสันนิวาสและพรหมลิขิต ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางเพจของตนเอง พร้อมน้อมรับในสิ่งที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า ขอน้อมรับความผิดพลาดของนิยายพรหมลิขิตที่ทำได้ดีที่สุดเท่านี้ และน่าจะไม่ดีพอที่จะทำเป็นละคร จึงทำให้ทีมละครโดนวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก
รวมไปถึงความอ่อนด้อยในการตอบคำถามของพิธีกรและนักข่าว ก็ยิ่งสร้างความลำบากใจให้กับผู้เขียนบทและทีมละครที่ทำดีที่สุดแล้ว เป็นความผิดของดิฉันเองค่ะ หลายท่านอาจจะไม่พอใจที่ทีมทำละครโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยที่ดิฉันเหมือนลอยตัวจากการวิพากษ์นั้น
จากการที่ดิฉันพิมพ์และพูดอยู่เสมอว่า หลังขายเป็นละครแล้วแทบจะไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการทำงานของทีมละครเลย นอกจากจะมีการขอคำปรึกษาจากทีมงาน และต้องให้เกียรติคนทำงาน เพราะศิลปะการนำเสนอของละครกับนิยายแตกต่างกัน
ประโยคเหล่านี้เป็นสิ่งที่ดิฉันพูดมาเป็น 10 ปีในการไปเป็นวิทยากรทุกแห่ง จากการที่นิยายได้ทำเป็นละครมาหลายเรื่อง แน่นอนว่าดิฉันไม่มีปัญหากับการดัดแปลง เพราะเข้าใจเป็นอย่างดีในศาสตร์ที่ต่างกัน แต่อาจจะมีความเสียดายในเนื้อหาหรือคาแรกเตอร์ที่เปลี่ยนไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ความเสียใจที่ขายเป็นละครอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ รอมแพงยังได้กล่าวทิ้งท้ายอีกด้วยว่า ดังนั้น แบ่งความคิดเห็นที่ตำหนิจากความผิดหวังในสิ่งที่คาดหวังจากละครมาทางดิฉันได้เลยค่ะ เพราะถ้าไม่โดนตำหนิหรือวิพากษ์วิจารณ์เสียบ้าง ก็จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนา ขอบคุณมากนะคะ