กากกาแฟ (Ground coffee) เป็นเศษของเมล็ดกาแฟที่ผ่านการคั่ว บด และกลั่น มาเป็นน้ำกาแฟที่ดื่มกัน ปัจจุบันนี้คนนิยมดื่มกาแฟมากขึ้นทุกวัน ทำให้ปริมาณกากกาแฟเพิ่มขึ้นตามมาด้วย แต่รู้หรือไม่ว่าเศษกากกาแฟที่เหลือเหล่านั้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกมากมาย อย่าทิ้งเปล่าให้เป็นขยะรกโลก
ประโยชน์ของกากกาแฟ ใช้ทำอะไรได้บ้าง
1. ประโยชน์ด้านความงาม
กากกาแฟขัดผิว บิวตี้บล็อกเกอร์หลายคนแนะนำ เพราะมีคุณสมบัติเป็นกรดอ่อนๆ ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ทำให้ผิวเนียนนุ่ม กระจ่างใส สามารถใช้ขัดผิวได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย โดยผสมกากกาแฟกับน้ำผึ้งหรือน้ำมันมะกอก แล้วขัดวนเบาๆ ทั่วผิว
กากกาแฟกำจัดสิว เนื่องจากมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ช่วยกำจัดสิวและลดรอยสิวได้ วิธีทำคือผสมกากกาแฟกับน้ำผึ้งหรือโยเกิร์ต แล้วทาลงบนบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วล้างออก หรือจะพอกทั้งหน้าก็ได้
กากกาแฟบำรุงผม ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ จึงช่วยบำรุงรากผมและป้องกันผมร่วง โดยผสมกากกาแฟกับน้ำผึ้งหรือไข่ แล้วนวดให้ทั่วหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออก
2. ประโยชน์ด้านการทำอาหาร
ทำขนม กากกาแฟสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำขนม เช่น คุกกี้ เค้กโรล ไอศกรีม เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มกลิ่นและรสชาติที่กลมกล่อมให้กับขนม
ทำอาหาร กากกาแฟสามารถนำมาประกอบอาหารคาว เช่น ซอส น้ำสลัด น้ำซุป เป็นต้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมให้กับอาหาร
3. ประโยชน์ด้านงานบ้าน
กากกาแฟดับกลิ่น กากกาแฟสามารถช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น เช่น กลิ่นอาหาร กลิ่นสัตว์เลี้ยง เป็นต้น โดยนำกากกาแฟไปใส่ในถ้วยหรือถุง แล้ววางไว้ในบริเวณที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
กำจัดแมลงสาบ กากกาแฟมีกลิ่นฉุน แมลงสาบจึงไม่ชอบ โดยนำกากกาแฟไปใส่ในถ้วยหรือถุง แล้ววางไว้ในบริเวณที่มีแมลงสาบ
ใช้ทำความสะอาดหม้อ กระทะ วิธีคือให้นำกากกาแฟมาขัดให้ทั่วบริเวณที่มีคราบสกปรก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
เคลียร์ท่อน้ำอุดตัน กากกาแฟผสมกับน้ำร้อนสามารถช่วยเคลียร์ท่อน้ำอุดตันได้ โดยเทกากกาแฟผสมน้ำร้อนลงไปในท่อน้ำอุดตัน แล้วทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที แล้วเทน้ำอุ่นตามลงไป
4. ประโยชน์ด้านการทำสวน
กากกาแฟใส่ต้นไม้ กากกาแฟสามารถเป็นปุ๋ยบำรุงดินสำหรับพืชผักสวนครัวได้ โดยนำกากกาแฟไปใส่ในดิน กากกาแฟจะค่อยๆ ย่อยสลายกลายเป็นธาตุอาหารให้กับพืชผัก พืชที่แนะนำให้ใช้กับกากกาแฟ เช่น กุหลาบ กัญชา บอนสี ทุเรียน
ไล่แมลง กากกาแฟมีกลิ่นฉุน แมลงจึงไม่ชอบ โดยนำกากกาแฟไปโรยรอบๆ ต้นพืชผัก จะช่วยป้องกันแมลงต่างๆ เข้าทำลายพืชผัก
กากกาแฟสดซื้อได้ที่ไหน มีขายรึเปล่า
เมื่อเห็นคุณประโยชน์หลากหลายขนาดนี้แล้วก็อยากลองใช้บ้าง แต่หลายคนไม่ได้ชงกาแฟกินเอง จึงไม่มีตัวกากมาใช้ แต่ไม่ต้องกังวล เพราะสมัยนี้กากกาแฟสด หาได้ตามทั่วไป มี 2 วิธีคือ ได้ฟรี กับ เสียเงินซื้อ
ถ้าอยากได้กากกาแฟฟรี ๆ ให้ไปสอบถามตามร้านกาแฟ เช่น Starbucks, Coffee Beans by Dao, Espresso Lab เป็นต้น บางแห่งให้เราแบบไม่คิดเงิน ใส่ไว้เป็นถุงให้หยิบ ขณะที่บางร้าน จำหน่ายเป็นกิโลกรัมหรือถุงเล็ก ๆ ราคาจะแตกต่างกันไป
ส่วนคนที่ไม่สะดวกดั้นด้นไปหาเอง เดี๋ยวนี้มีขายออนไลน์ตามร้านค้าต่าง ๆ เช่น Shopee, Lazada ราคาเพียงหลักร้อยบาท
กากกาแฟต้องตากแห้งก่อนใช้หรือไม่
ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาไปทำอะไร หากต้องการใช้กากกาแฟทันที เช่น นำไปขัดผิว ใส่แจกันดอกไม้ ใส่ดินปลูกต้นไม้ ฯลฯ ไม่จำเป็นต้องตากแห้งก็ได้ แต่ควรนำกากกาแฟไปสะเด็ดน้ำออกให้หมดก่อน เพื่อไม่ให้กากกาแฟเปียกชื้นจนเกินไป จะทำให้ใช้ไม่สะดวกและอาจทำให้ขึ้นราได้
แต่หากต้องการเก็บกากกาแฟไว้ใช้ทีหลัง เช่น นำไปทำปุ๋ย นำไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ฯลฯ ควรตากกากกาแฟให้แห้งสนิทก่อน เพราะกากกาแฟแบบสด ๆ จะมีความชื้นสูง และขึ้นราได้ง่ายมาก กากกาแฟที่แห้งสนิทจะเก็บรักษาได้นานกว่าและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีตากกากกาแฟให้แห้งสนิท สามารถทำได้ดังนี้
- เทกากกาแฟใส่ถาดหรือตะแกรงตาข่าย
- วางถาดหรือตะแกรงตาข่ายในที่ร่มที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
- ตากกากกาแฟทิ้งไว้ประมาณ 2-3 วัน หรือจนกว่ากากกาแฟจะแห้งสนิท
เมื่อกากกาแฟแห้งสนิทแล้วจะมีสีน้ำตาลเข้ม มีลักษณะร่วนซุย ไม่จับตัวเป็นก้อน สามารถเก็บใส่ขวดโหลหรือถุงพลาสติกปิดสนิทได้ เก็บไว้ในที่แห้งและเย็น กากกาแฟจะเก็บรักษาได้นานหลายเดือน
นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปตากแห้งโดยใช้เตาอบได้อีกด้วย โดยตั้งอุณหภูมิเตาอบที่ 100 องศาเซลเซียส อบกากกาแฟประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือจนกว่ากากกาแฟจะแห้งสนิท
กากกาแฟมีวันหมดอายุไหม
กากกาแฟที่ตากแห้งสนิทแล้ว สามารถเก็บรักษาได้นานหลายเดือน โดยไม่เน่าเสีย แต่หากเก็บรักษาไม่ดี เช่น เก็บไว้ในที่ชื้นหรือมีความชื้นสูง กากกาแฟอาจขึ้นราได้ จะสังเกตได้จากกลิ่นเหม็นและลักษณะของกากกาแฟที่เปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นสีดำคล้ำหรือมีเส้นใยสีขาว
ตามค่าเฉลี่ยแล้ว กากกาแฟที่เก็บรักษาไว้ในที่แห้งและเย็น สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่หากเก็บรักษาไว้ในตู้เย็น สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานประมาณ 1 ปี ถึง 1.5 ปี
ดังนั้นกากกาแฟจึงไม่มีวันหมดอายุอย่างตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับวิธีเก็บรักษาและสภาพแวดล้อม ก่อนใช้งานต้องตรวจสอบสภาพของมันว่าเป็นตามที่บอกข้างต้นไหม
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- ชา กับ กาแฟ ดื่มอะไรได้ ‘คาเฟอีน’ มากกว่า สัญญาณเตือนเสพติดคาเฟอีน
- คำนวณแคลอรี่ กาแฟลาเต้ไม่หวาน ดื่มแล้วเสี่ยงอ้วนจริงหรือไม่
- หมอธีระวัฒน์ เผย ดื่มกาแฟช่วยให้ร่างกายอึด เพิ่มประสิทธิภาพในการเบิร์นไขมันดีขึ้น
