“เทพไท” ชี้ ราชทัณฑ์อย่าเอื้อประโยชน์ให้ “ทักษิณ” แก้ไขระเบียบนักโทษ
เทพไทร่ายยาว ราชทัณฑ์อย่าเอื้อประโยชน์ให้ ทักษิณ แก้ไขระเบียบนักโทษไปถูกคุมขังที่บ้านได้ หลังมีกระแสข่าวจะได้รับอภัยโทษในวันที่ 5 ธันวาคม 2566
วันเสาร์ที่ 2 ธันวาคม 2566 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เทพไท เสนพงศ์-คุยการเมือง ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในประเด็นที่ว่า นายทักษิณจะสามารถพ้นจากคดีและได้รับการอภัยโทษด้วยเหตุใดบ้าง
นายเทพไทระบุว่า “จากกรณีที่คุณอุ๊งอิ๊ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ออกมาปฏิเสธว่าไม่ได้ยินข่าวคุณทักษิณ จะได้รับอภัยโทษในวันที่ 5 ธันวาคมนี้
ผมในฐานะอดีตนักโทษ ที่เคยถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำคนหนึ่ง จะขออธิบายรายละเอียดของการอภัยโทษให้คุณอุ๋งอิ๋ง ได้รับทราบว่า การอภัยโทษให้แก่นักโทษนั้น ต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ซึ่งมีอยู่ 2 แบบคือ การอภัยโทษส่วนบุคคล และการอภัยโทษเป็นการทั่วไป
หมายความว่า ถ้าเป็นการอภัยโทษส่วนบุคคล จะเป็นการอภัยโทษให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งเท่านั้น ส่วนการอภัยโทษเป็นการทั่วไป หมายถึง การอภัยโทษให้แก่นักโทษทุกคน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ และมีเงื่อนไขของการอภัยโทษในพระราชกฤษฎีกา เกี่ยวกับประเภทคดี ลำดับชั้นของนักโทษ และจำนวนโทษจำคุกที่เหลืออยู่ ซึ่งระบุไว้ในพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษชัดเจน
สำหรับการอภัยโทษในปีนี้ ยังไม่เคยมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษ ให้แก่นักโทษเป็นการทั่วไปเลย ซึ่งนักโทษทุกคนต่างคาดหวัง และตั้งความหวังไว้ว่า จะมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันที่ 5 ธันวาคมนี้ ซึ่งเป็นวันสำคัญของชาติ และเคยมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษในวันดังกล่าว เป็นประจำเกือบทุกปี
แต่ถ้าปีนี้จะมีเฉพาะพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษส่วนบุคคล อาจจะสร้างความผิดหวังให้กับนักโทษ ที่ถูกจองจำอยู่ประมาณ 400,000 คนไม่น้อย
ถ้าหากมีพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษเป็นการทั่วไป และใช้เงื่อนไขของมติ ครม.เดิม คือ 1.ต้องเป็นนักโทษชั้นดีขึ้นไป 2.จำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของโทษตามคำพิพากษา (หัวใบแดงเดิม) จะทำให้คุณทักษิณ ไม่ได้รับสิทธิ์อภัยโทษแน่นอน
แต่ถ้าจะให้คุณทักษิณ ได้รับการปล่อยตัวได้ มีเงื่อนไขเดียวคือ ในท้ายพระราชกฤษฎีกา ต้องระบุเงื่อนไขไว้ว่า นักโทษที่เหลือโทษจำคุกไม่ถึงหนึ่งปี ให้ปล่อยตัวพ้นโทษไป ซึ่งคุณทักษิณจะเข้าหลักเกณฑ์ข้อนี้เพียงข้อเดียว และจะทำให้ได้รับการปล่อยตัวไปในทันที ซึ่งหลักเกณฑ์ดังกล่าว เคยมีในท้ายพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษฉบับก่อน ๆ มาแล้ว
ส่วนการพักโทษนั้น ถ้ายึดตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ฉบับปัจจุบัน ไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเพื่อช่วยเหลือบุคคลใดบุคคลหนึ่ง คุณทักษิณยังไม่เข้าเกณฑ์การพักโทษ เพราะต้องจำคุกให้ได้ 2 ใน 3 ของโทษทั้งหมดเสียก่อน ซึ่งคุณทักษิณถูกจำคุกยังไม่ถึง 1 ใน 3 ของโทษด้วยซ้ำไป
เว้นแต่จะมีการแก้ไขให้มีเงื่อนไขจำคุก 1 ใน 3 ของโทษก็สามารถพักโทษได้ เหมือนกับกรณีที่ผ่านมา เคยออกช่วยนักโทษวีไอพีบางคน และเมื่อใช้บังคับแล้ว ก็ประกาศยกเลิกทันที ไม่เคยนำกลับมาใช้เลยจนถึงปัจจุบันนี้
ในฐานะนักโทษคนหนึ่ง ที่เคยได้รับโทษจำคุกในเรือนจำมาก่อน อยากเรียกร้องให้กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ยึดหลักเกณฑ์การอภัยโทษ ในมาตรฐานเดียวกันเหมือนปีที่ผ่านมา ไม่อยากให้เกิดความลักลั่น เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตามความต้องการของผู้มีอำนาจ เพื่อช่วยเหลือ หรือขัดขวาง นักโทษคนใดคนหนึ่ง เป็นการเฉพาะเท่านั้น
ยิ่งตอนนี้มีกระแสข่าวว่า กรมราชทัณฑ์จะแก้ไขระเบียบ ให้นักโทษไปถูกคุมขังที่บ้านได้ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับคุณทักษิณ ถ้าหากเรื่องนี้เป็นความจริง จะเป็นการทำลายความน่าเชื่อถือของกรมราชทัณฑ์ และกระบวนการยุติธรรมไทย ครั้งใหญ่อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”
สรุปแล้ว ทักษิณจะได้รับการปล่อยตัวก็ต่อเมื่อเงื่อนไขตอนท้ายของพระราชกฤษฎีกา อนุญาตให้นักโทษที่จำคุกไม่ถึง 1 ปีพ้นโทษได้ แต่หากมีการเปลี่ยนเกณฑ์การอภัยโทษในปีนี้ อาจทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมต่อนักโทษคนอื่น ๆ ได้