‘บิ๊กต่อ’ ยืนยัน ‘เสี่ยแป้ง’ ติดต่อขอมอบตัวจริง ลั่นไม่วิสามัญ เว้นแต่จะยิงสู้
บิ๊กต่อ ยืนยัน เสี่ยแป้ง ติดต่อขอมอบตัวจริง แต่ขอมอบตัวแบบมีเงื่อนไข ย้ำคนร้ายจะขอเงื่อนไขไม่ได้ ยืนยันไม่วิสามัญ เว้นแต่จะยิงสู้
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการติดตามตัวเสี่ยแป้ง นาโหนด หรือนาย ชวลิต ทองด้วง ว่าการติดตามตัว เสี่ยแป้ง มีปัญหาอุปสรรคเกี่ยวกับพื้นที่ สภาพอากาศ ซึ่งช่วงที่ผ่านมามีฝนตกหนักในจังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายที่หลบหนี อย่ามองว่า ตำรวจจับไม่ได้ จริงๆ แล้ว ตำรวจไม่ใช่จำเลยของสังคม ตำรวจทำตามหน้าที่ที่ต้องตามจับคนร้ายให้ได้ เพราะเป็นอันตรายต่อประชาชนผู้บริสุทธิ หรือไม่ เป็นหน้าที่หลักของตำรวจ
“จะไปบอกว่าผมใช้งบประมาณเท่าไหร่ ชีวิตคนเทียบเป็นเงินไม่ได้ ผมกำลังทำหน้าที่ของผม เพื่อตามจับคนร้ายคดีอุกฉกรรจ์ เป็นหน้าที่ ส่วนวิธีการว่า ทำไปถึงไหนแล้ว หากบอกไป คนร้ายก็รู้หมด ยืนยันว่าทำเต็มที่ คนร้ายไม่มอบตัว ตำรวจก็ติดตามตัวคนร้ายให้ได้ ตำรวจยังมั่นใจว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ หน้าที่ของตำรวจคือ การจับกุมตัวคนร้ายให้ได้“ ผบ.ตร. กล่าว
ส่วนกระแสข่าวที่ระบุว่า เสี่ยแป้ง ได้ติดต่อตนเข้ามาเพื่อประสานขอมอบตัวนั้น บิ๊กต่อ กล่าวว่ามีการติดต่อมาจริง แต่ไม่ได้ติดต่อมาที่ตนเองโดยตรง ซึ่งผ่านอีกคนมา จึงบอกไปว่า ไม่มีเงื่อนไข คนร้ายจะมาขอเงื่อนไขไม่ได้ ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย คนร้ายจะมามีเงื่อนไขไม่ได้ ให้มามอบตัวเท่านั้น
ยืนยันความปลอดภัยว่า จะไม่วิสามัญฆาตกรรม แต่ไม่ยืนยัน หากยังให้ตำรวจไล่ติดตามอยู่อย่างนี้แล้วยังมีการต่อสู้ ตำรวจจะต้องกระทำตามกฎหมาย หากญาติมั่นใจว่าจะพาเข้ามอบตัว ขอยืนยันในเรื่องความปลอดภัยให้นัดหมายสถานที่แล้วไปกับเจ้าหน้าที่ และญาติ ตำรวจพร้อมจะรับมอบตัวอยู่แล้ว
ผบ.ตร. กล่าวว่า ตำรวจจะต้องปลอดภัย เพราะไม่ใช่พื้นที่ของเรา หากเกิดการสูญเสียจะคุ้มกัน หรือไม่ ขอให้อย่าบีบการทำงานของตำรวจ เพราะทุกชีวิตมีค่าทุกคน เมื่อเกิดการสูญเสียตำรวจ ก็จะตกเป็นจำเลยของสังคม ตำรวจไม่ใช่จำเลย ตำรวจกระทำหน้าที่จับคนร้ายที่หนีการควบคุมมา อย่ากดดัน หน้าที่ของตำรวจคือ ติดตามจับกุมเท่านั้น ตำรวจทำงานตามหน้าที่ และพร้อมรับมอบตัว คุณจะหนีไปทั้งชีวิตหรือ
หากมีอะไรที่ยืนยันด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ทุกอย่างที่จะบ่งชี้ว่าคนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ หรือไม่ หรือหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ขอให้รอการพิสูจน์ทราบว่า คนร้ายยังอยู่ในพื้นที่ หรือไม่ ซึ่งจะต้องยืนยันทั้งนิติวิทยาศาสตร์ พยานวัตถุที่เขาทิ้งไว้ และประจักษ์พยาน หากยืนยันได้แล้วว่า ไม่อยู่ในพื้นที่ก็จะถอนกำลัง จากนั้นก็ต้องไปไล่ตรวจสอบกันใหม่หากไม่อยู่ในพื้นที่แล้วจะหลบหนีไปที่ใด เป้าหมายของตำรวจคือ จะต้องนำตัวคนร้ายกลับมาให้ได้