Stanley Chen

  • ข่าวต่างประเทศหนุ่มแกล้งเปิดร้านราเมงหรู คนแห่ชื่นชมอร่อยเลิศ แต่หารู้ไม่ เสิร์ฟบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

    หนุ่มแกล้งเปิดร้านราเมงหรู คนแห่ชื่นชมอร่อยเลิศ แต่หารู้ไม่ เสิร์ฟบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

    บททดสอบสังคมสุดแยบยล หนุ่มรังสรรค์ร้านราเมงสุดหรู ปั่นรีวิวปลอมเพื่อดึงดูดลูกค้า สุดท้ายคนเชื่อนับร้อย แห่ต่อคิวกันยาวเหยียด ซ้ำยังชื่นชมรสชาติอาหารว่าเลิศ แต่หารู้ไม่ นำบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาเสิร์ฟ สำนักข่าวต่างประเทศ unilad รายงานถึงเนื้อหาในคลิปยูทูบจากช่อง Stanley Chen ซึ่งกำลังเป็นไวรัลอยู่ในขณะนี้ ชายคนหนึ่งสร้างความฮือฮาด้วยการเปิด “ร้านราเมงปลอม” ที่เสิร์ฟบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นจานหลัก เพื่อจุดประสงค์ในการทดสอบสังคม และแน่นอนว่าผลลัพธ์ที่ได้ก็น่าทึ่งมาก เพราะผู้คนต่างหลั่งไหลเข้ามาลิ้มลองบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่เขาเสิร์ฟ สแตนลีย์ เฉิน เจ้าของช่อง ได้อธิบายไว้ในตอนต้นของวีดีโอว่า ในอดีตเขาเคยทำงานในร้านอาหารที่โปรโมทว่าขายอาหารสด แต่แท้จริงกลับปรุงอาหารไว้ล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์ จากนั้นก็นำไปแช่แข็ง เตรียมพร้อมสำหรับอุ่นเสิร์ฟให้ลูกค้า และก็เหมือนที่กอร์ดอน แรมซีย์ เคยพูดไว้ว่า “ไม่มีอาหารสดแช่แข็ง” ซึ่งนั่นก็แปลว่าที่ทำงานเก่าของเขาโกหกลูกค้า แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก แต่สิ่งนี้กลับจุดประกายความคิดเจ๋ง ๆ ในสมองของเขา ในวันนี้เขาอยากจะลองทำในสิ่งเดียวกันเพื่อดูว่า เขาจะสามารถหลอกให้สาธารณชนเชื่อได้หรือไม่ว่า สิ่งที่พวกเขากำลังกินนั้นเป็นอาหารสดระดับห้าดาว ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมันเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ขั้นแรกของแผน ‘เฉิน’ ได้สร้างเว็บไซต์สำหรับร้านราเมงของเขา พร้อมกับตกแต่งภาพอาหารให้ดูสะดุดตาและดูน่าเชื่อถือ ซึ่งยูทูบเบอร์หนุ่มเลือกที่จะเด็ดดอกไม้จากสวนของเขา ไม้ไผ่ และคุกกี้แช่แข็ง มาใช้ประดับตกแต่งจาน จากนั้นก็ถึงเวลาคิดชื่อ แทนที่จะเลือกใช้ชื่อที่ดูโอ่อ่า แต่เขากลับตัดสินใจที่จะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา ด้วยการตั้งชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า Nise (ที่แปลว่า ปลอม) Jangara (ชื่อที่แท้จริงของชื่อร้านอาหาร) Ramen นอกจากนั้น ในส่วนของเนื้อหาบนเว็บไซต์ยังได้มุ่งอธิบายให้แขกเชื่อว่าเป็นร้านอาหารป๊อปอัปสุดพิเศษ “ประสบการณ์ราเมง Omakase มีให้บริการเพียง 2 คืนเท่านั้นในแต่ละปี ร้านอาหาร Nise Jangaru Ramen เดินทางไปทั่วโลกเพื่อนำเสนอราเมงแบบป๊อปอัปตั้งแต่ปี 1953 จนถึงขณะนี้ได้จัดงานทั้งในญี่ปุ่น เบลเยียม อเมริกา และอีก 50 แห่ง และตอนนี้ก็มาเยือนออสเตรเลีย “เราเปรียบงานของเรากับงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ ดังนั้น เช่นเดียวกับพิพิธภัณฑ์หลายแห่ง บริการของเราจึงไม่เสียค่าใช้จ่าย เราให้บริการแบบวอล์กอินเท่านั้น” พร้อมแนบท้ายด้วยอีเมลติดต่อและหมายเลขโทรศัพท์ ไม่จบเท่านั้น หนุ่มยูทูบเบอร์ยังได้วางแผนโปรโมทโดยการส่งอีเมลจำนวนมากไปยังคนดัง และเสนอให้พวกเขาลองชิมอาหารฟรีเพื่อแลกกับการรีวิว เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามแผน เขาก็ตัดสินใจเช่าร้านอาหารทั้งร้าน ตกแต่งให้เข้าถึงความเป็นร้านราเมงเก่าแก่ และรอให้ลูกค้าเดินทางมา และก็ปรากฎว่าร้านอาหารเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย โดยบางคนถึงขั้นรอถึง 90 นาทีเพื่อลิ้มรสราเมง ซึ่งแปลว่าทุกคนถูกหลอกเข้าเต็มเปา เพราะต่างเชื่อว่านี่เป็นประสบการณ์การรับประทานอาหารชั้นเลิศอย่างแท้จริง เมื่อสอบถามนักทานคนหนึ่งว่า เธอรู้สึกอย่างไรหลังได้ชิมอาหารเหล่านั้น ซึ่งเธอตอบว่า “เขาต้องทำอีกชามให้ฉัน” ในขณะที่อีกคนหนึ่งกล่าวว่า “รสชาติอร่อยและเหมือนทำเองที่บ้าน น้ำซุปอร่อยมาก” อย่างไรก็ดี หลังเผยแพร่คลิปนี้ออกไป ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนใหญ่ชื่นชมว่าเป็นการทดลองทางสังคมที่สุดยอด และสะท้อนทัศนคติของคนยุคนี้ออกมาได้ดีเยี่ยม อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง แขกโวยแหลก คู่บ่าวสาวเสิร์ฟบะหมี่ถ้วยในงานแต่ง แถมเจ้าสาวเป็นเชฟ เดนมาร์ก เรียกคืนบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเกาหลี “ซัมยัง” เหตุเผ็ดเกินไป เสี่ยงถึงชีวิต หมอเตือนถึงตาย สาวกิน “บะหมี่เผ็ดเกาหลี” ทุกวัน ทำป่วย “นิ่วในไต”

Back to top button