แนะนำ วิธีการจองตั๋วโดยสารรถไฟออนไลน์ ประจำปี 2566 ผ่านระบบจำหน่ายตั๋ว D-Ticket สามารถซื้อหรือจองตั๋วรถไฟไทยได้ง่าย ๆ ผ่านเว็บไซต์การรถไฟแห่งประเทศไทย State Railway of Thailand หรือ SRT หรือแอปพลิเคชั่นบนโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โดยล่าสุดได้ขยายเวลาจองตั๋วล่วงหน้า สูงสุด 90 วันก่อนเดินทาง เริ่มจองได้ตั้งแต่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นรถไฟตู้ปรับอากาศ หรือ พัดลม รถไฟค้างคืนแบบตู้นอน มาดูกันว่าจะมีขั้นตอนการจองตั๋วรถไฟ การชำระเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ และเอกสารที่ต้องเตรียมอะไรบ้าง
วิธีจองตั๋วโดยสารรถไฟออนไลน์
สำหรับวิธีการจองตั๋วการรถไฟแห่งประเทศไทยออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์ www.dticket.railway.co.th แบ่งออกเป็น 18 ขั้นตอน ดังต่อไปนี้
ขั้นตอนที่ 1 สมัครสมาชิก
ท่านจะต้อง สมัครสมาชิก หรือ ทำการเข้าสู่ระบบ ก่อนทุกครั้งที่จะทำการจองตั๋วโดยสาร
ขั้นตอนที่ 2 ค้นหาเที่ยวรถไฟ
เมื่อท่านเข้าสู่หน้าเว็บไซต์ด้านล่างเมนูของเว็บไซต์จะมีช่องทางให้ท่าน ค้นหาเที่ยวรถ จากนั้นเลือกสายของรถไฟที่ท่านต้องการเดินทาง เช่น ท่านต้องการเดินทางไป เชียงใหม่ ให้เลือก สายเหนือ
เลือกติ๊กที่กล่อง ไป-กลับ หากท่านต้องการจองตั๋วแบบไปกลับ แต่หากต้องการจองแบบเที่ยวเดียว ไม่ต้องติ๊กเลือก
ขั้นตอนที่ 3 เลือกสถานีต้นทาง ปลายทาง
เลือกสถานีต้นทางที่ท่านสะดวกในการเดินทาง แล้วเลือกสถานีปลายทางที่ท่านต้องการ เลือกวันที่ที่ต้องการเดินทาง
ขั้นตอนที่ 4 เลือกจำนวนตั๋ว
ระบุจำนวนผู้โดยสาร
ขั้นตอนที่ 5 ค้นหาขบวนที่ตรงกับความต้องการ
กดปุ่ม ค้นหา ระบบจะนำท่านไปยังหน้าแสดงรายการขบวนรถ ให้ท่านเลือก เวลา และขบวนรถที่ท่านต้องการ
เลือกเวลาที่ท่านต้องการและสะดวกในการเดินทาง หรือ หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลงวันเดินทางหรือเปลี่ยนแปลงต้นทาง ปลายทาง ให้คลิกที่ปุ่ม เปลี่ยนแปลงการค้นหา ระบบจะแสดงหน้าจอให้ท่านป้อนข้อมูลการค้นหาใหม่อีกครั้ง
เมื่อท่านเลือก วันที่ เวลา และขบวนที่ต้องการได้แล้ว ให้คลิกที่ปุ่ม เลือกด้านหลังขบวนรถทีท่านต้องการ
ขั้นตอนที่ 6 เลือกตู้นอนแอร์หรือพัดลม
ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถจองตั๋วรถไฟตู้พัดลม หรือตู้นอน ได้ผ่านระบบออนไลน์ระบบจะนำท่านไปยังหน้าเลือกตู้โดยสาร โดยตู้โดยสารจะมีให้เลือก แบบปรับอากาศ หรือ พัดลม หรือ ตู้นอน แล้วแต่ท่านต้องการ เมื่อเลือกได้แล้วให้ท่าน กดปุ่ม เลือก ที่อยู่ด้านหลังตู้โดยสารที่ท่านต้องการ
ขั้นตอนที่ 7 ระบุข้อมูลผู้โดยสาร
ระบุข้อมูลผู้โดยสาร หากผู้โดยสารท่านแรก คือคนเดียวกันกับท่านซึ่งเป็นผู้จอง ให้ติ๊กเลือกว่าข้อมูลเดียวกับผู้จอง หากไม่ใช่ช่องนี้ไม่ต้องเลือก และให้ระบุข้อมูลจำเป็นของผู้โดยสารให้ครบถ้วนทุกคน
กรุณาระบุรหัสสมาชิก หากผู้โดยสารท่านใดเป็นสมาชิกกับทางเว็บไซต์ เพื่อสิทธิประโยชน์ของท่านในการสะสมคะแนน หรือส่วนลดต่างๆ ที่ทางเว็บไซต์มีไว้ให้
เมื่อท่านป้อนข้อมูลครบถ้วนแล้ว ให้คลิกปุ่ม เลือกที่นั่ง ที่อยู่ด้านล่างของกล่องรายละเอียดผู้โดยสารคนสุดท้ายที่ท่านป้อนข้อมูล **ระบบจะคำนวณราคาค่าโดยสารให้ท่านโดยละเอียด ซึ่งจะแสดงไว้ในแถบสีดำด้านล่าง หากท่านต้องการดูรายละเอียดราคาให้คลิกที่ปุ่ม รายละเอียดการจองเพื่อดูรายละเอียดราคาอีกครั้ง**
ขั้นตอนที่ 8 เลือกที่นั่ง
เมื่อท่านกดที่ปุ่มเลือกที่นั่ง ระบบจะนำท่านไปยังหน้าผังที่นั่ง เพื่อให้ท่านระบุที่นั่งที่ต้องการ ในครั้งแรกระบบจะทำการเลือกที่นั่งให้ท่านโดยอัตโนมัติไว้อยู่แล้วหากท่านไม่ต้องการเปลี่ยนแปลง สามารถเลือกที่ปุ่ม ถัดไป เพื่อทำรายการการจองต่อได้เลย
เมื่อกดปุ่ม ถัดไป จากหน้าระบุที่นั่งแล้ว ระบบจะนำท่านไปยังหน้าสรุปรายละเอียดการจองให้ท่านตรวจสอบความถูกต้องอีกครั้งก่อนทำการจอง หากท่านต้องการแก้ไขข้อมูล ให้คลิกที่ปุ่ม ย้อนกลับ แต่หากท่านต้องการทำรายการต่อ ให้เลือกวิธีการชำระเงินที่ท่านสะดวกในการชำระเงิน เสร็จแล้วให้คลิกที่ปุ่ม ชำระเงิน
ขั้นตอนที่ 9 ชำระเงิน
ระบบจะนำท่านไปยังหน้าจอของการชำระเงินในรูปแบบการชำระเงินที่ท่านเลือก
กรณีชำระเงินผ่านบัตรเครดิต
1. หากชำระเงินผ่านทางบัตรเครดิต เดบิต ระบบจะออกตั๋วโดยสารส่งให้ท่านผ่านทางอีเมล
กรณีชำระเงินที่สถานีรถไฟ
2. หากเลือกชำระเงินที่สถานีรถไฟ สามารถชำระเงินได้ที่ช่องขายตั๋วประจำสถานี ระบบจะออกหมายเลขการจองตั๋วให้ท่าน เพื่อให้ท่านนำเลขการจองนี้ไปชำระเงินอีกครั้ง เมื่อท่านชำระเงินแล้วระบบจะทำการออกตั๋วและส่งให้ท่านผ่านทางอีเมลอีกครั้ง
ต้องพิมพ์เอกสารตั๋วรถไฟไหม?
ทั้งนี้ หากเป็นการสำรองที่นั่งผ่านหน้าระบบ DTicket แล้วเลือกชำระเงินผ่านทางบัตรเดบิตหรือเคดิต ตัดชำระค่าโดยสารเรียบร้อยแล้ว สามารถแสดงไฟล์ภาพตั๋วเดินทางผ่านทางโทรศัพท์มือถือต่อเจ้าหน้าที่บนขบวนรถได้เลย แต่หากเลือกช่องทางการชำระเงินอื่นๆ ต้องนำคิวอาร์โค๊ดแสกนชำระที่สถานีรถไฟเท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตามหากท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับการจองตั๋วรถไฟผ่านระบบออนไลน์เติมสามารถติดต่อได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย เลขที่ 1 ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330 หรือติดต่อสายด่วน โทร.1690
ขยายเวลา จองตั๋วรถไฟล่วงหน้า 90 วัน
การรถไฟฯ ขานรับนโยบายกระทรวงคมนาคม ขยายเวลาเปิดจองตั๋วล่วงหน้า 90 วัน นำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน เริ่มให้บริการวันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป
นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม มอบนโยบายให้การรถไฟฯ เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการในทุกๆ ด้าน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางสูงสุดแก่พี่น้องประชาชน
การรถไฟฯ ได้น้อมรับนโยบายนำมาพัฒนาการให้บริการ โดยล่าสุดได้ขยายเวลาเปิดจองตั๋วโดยสารล่วงหน้าจากเดิม 30 วัน เพิ่มสูงสุดเป็น 90 วัน เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสจองซื้อตั๋วโดยสารล่วงหน้าได้ยาวนานขึ้น
เริ่มนำร่องขบวนรถชุด 115 คัน จำนวน 8 ขบวน ในเส้นทางที่ได้รับความนิยมสูงสุดทั้งสายเหนือ สายตะวันออกเฉียงเหนือ แล
สายใต้
เริ่มต้น ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2566 เป็นต้นไป มีรายละเอียด ดังนี้
สายเหนือ จำนวน 2 ขบวน
– เที่ยวไป : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีเชียงใหม่
– เที่ยวกลับ : ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 สถานีเชียงใหม่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 4 ขบวน
– เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 23 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีอุบลราชธานี
– เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 24 สถานีอุบลราชธานี – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
– เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 25 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีหนองคาย
– เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 26 สถานีหนองคาย – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
สายใต้ จำนวน 2 ขบวน
– เที่ยวไป : ขบวนด่วนพิเศษที่ 31 สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ – สถานีหาดใหญ่
– เที่ยวกลับ : ขบวนด่วนพิเศษที่ 32 สถานีหาดใหญ่ – สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์
ผู้โดยสารสามารถ ซื้อตั๋วได้จาก 3 ช่องทาง ได้แก่
- – D-Ticket : https://www.dticket.railway.co.th
- – ช่องจำหน่ายตั๋ว ทุกสถานีรถไฟ ทั่วประเทศ
- – Call Center การรถไฟแห่งประเทศไทย : 1690
ผู้โดยสาร สามารถตรวจสอบสถานะ ตำแหน่ง และเวลาประมาณในการถึงจุดหมายปลายทาง ได้จากระบบ TTS (Train Tracking System) : https://ttsview.railway.co.th
- การรถไฟไทย ขออภัยประชาชน ยืนยันจองตั๋วรถไฟแบบใหม่ไม่ยุ่งยากซับซ้อน
- หมดเวลานั่งฟรี กทม. เคาะเก็บค่าโดยสาร รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียว 15 บาท
อ้างอิง : การรถไฟแห่งประเทศไทย
