เผยภาพความหดหู่ สตรีมีครรภ์นั่งขอทาน หาเงินเลี้ยงลูกอยู่บริเวณสถานนีรถไฟฟ้าบีทีเอสใจกลางกรุงเทพ สังคมวิจารณ์ถามทำไมไม่ไปทำงาน ก่อนทราบความจริงว่าสามีติดคุก และต้องเลี้ยงดูลูกอีก 2 คนที่บ้าน
ทั้งนี้จากข้อมูลของผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความพร้อมกับภาพของหญิงสาวท้องแก่สวมเสื้อคลุมคนท้องสีเทาอ่อน ตรงหน้ามีแก้วน้ำพลาสติกสำหรับใส่เงิน ส่วนด้านข้างมีข้าว 2 กล่องวางไว้ กำลังนั่งขอทานอยู่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส คาดการณ์ว่าจะเป็นสถานีพระโขนง โดยผู้ใช้เฟสบุ๊คเจ้าของเรื่องได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า
“ตอนแรกเดินผ่านก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะขอทานเเถวนี้ไม่ช้ำหน้าแต่วันนี้เจอผู้หญิงคนนี้นั่งแต่เช้าจนบ่าย4เรา เสร็จธุระเดินกับมาโรงแรมยังเห็นนั่งที่เดิมทังแดดทังร้อนเราเดินไปแล้วแต่อดสงสารไม่ได้จึ่งเดินกับไปถามกินข้าวไหม? กินอะไรหรือยัง? เขาก็ตอบว่าไม่เราถามว่าจะกินอะไรไหมเขายกมื้อไหว้แล้วน้ำตาคอบอกเราว่าอะไรก็ได้พี่เราก็เดินวนไปชื้อข้าวให้2กล่องกับน้ำลำใย1ขวดและเงิน200บาท แล้วก็ไหว้เเล้วไหว้อีก
ราเลยถามว่าทำไมไม่กิน เขาบอกว่าเก็บไว้ไปกินที่บ้านกับลูกอีก2คนสามีติดคุกทังเล่าทังร้องไห้..ฉันผู้ฟังแล้วก็ร้องไห้ตาม เราไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวเขาเป็นมายังไงบางคนก็บอกว่าไม่น่าสงสารเอาท้องมาหากิน..แต่เราคิดว่าเขาคงไม่มีหนทางแล้วไม่สนว่า
คนจะมองว่ายังไงเลยจำเป็นต้องเอาตัวเองและลูกในท้อง7เดือนมานั่งขอทาน.. #ในความเป็นแม่ต่อให้ตัวเองไม่ได้กินลูกในท้องกับลูกอีก2คนอยู่ที่บ้านต้องไม่อด ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกอิ่ม….ความจนมันน่ากลัว และความเป็นแม่มันยิ่งใหญ่มาก
..เดินกับมาโรงแรมร้องไห้จนตาแดง #BTSพระโขนง”
ภายหลังเรื่องดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ออกไปบนโลกโซเชียล ก็ทำให้มีชาวเน็ตแสดงความคิดเห็นแตกออกเป็นสองฝั่ง โดยกลุ่มแรกได้แสดงความสงสารและเห็นอกเห็นใจต่อสตรีตั้งครรภ์ท่านนี้ ว่ารู้สึกสงสารที่ต้องเห็นคุณแม่คนนี้มานั่งตากแดดตากฝนเพื่อเลี้ยงดูลูกในท้องและอีกสองคนที่บ้าน รวมถึงเข้าใจว่าคนท้องส่วนใหญ่จะหางานค่อนข้างลำบากในสังคมปัจจุบัน บางคนกล่าวว่าเขาอาจไม่รู้จริง ๆ ว่าควรจะต้องไปขอความช่วยเหลือจากใครที่ไหนบ้าง
สำหรับชาวเน็ตอีกกลุ่มได้แสดงทัศนคติว่า คุณแม่ท่านนี้ควรไปขอความช่วยเหลือที่สถานสงเคราะห์จังหวัด และมีบางคนให้ความเห็นว่าอาจเป็นมิจฉาชีพปลอมตัวมาหลอกเอาเงินรึเปล่า
อย่างไรก็ตามยังไม่มีการรายงานหรือแจ้งความคืบหน้าเกี่ยวกับคนท้องที่นั่งขอทานอยู่ใต้สถานีรถไฟฟ้าจากหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างใดก็ต้องรอติดตามข่าวสารกันต่อไป.
