ศิริกัญญา ชี้เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต เหมือน “เฆี่ยนลาให้วิ่งไวเท่าม้า” หมอเลี้ยบ ย้ำไทยเป็นม้าไม่ใช่ลา
ศิริกัญญา ชี้เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต เหมือนเฆี่ยนลาให้วิ่งเร็วเท่าม้า หมอเลี้ยบย้ำประเทศไทยไม่ได้เกิดมาเป็นลาแต่เป็นม้าที่ป่วยมา 10 กว่าปี คาดการณ์โตเต็มศักภาพหมายถึง ณ วันนี้
รายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอของสรยุทธ สุทัศนะจินดา วันนี้ (16 พ.ย.66) เชิญ “ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล อดีตว่าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กับ นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มาเปิดหน้าแลกหมัดแนวคิดไปจนชุดข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่กำลังถูกจับตามองต่อเนื่อง แม้จะมีแถลงความชัดเจนไปแล้วจากนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ไปแล้วก็ตาม
“เพราะฉะนั้นวันนี้ได้มาคุยพร้อม ๆ กันนะ ก่อนจะว่ากันเนี่ย เอาเป็นว่าคุณไหมตั้งคำถามตรงไหนที่มันวิกฤตผ่านวิธีการกู้เงิน” สิ้นเสียงโปรยหัวข้อก่อนเข้าสัมภาษณ์แบบจริง ๆ จัง ๆ กับแขกรับเชิญทั้งสองของสรยุทธ ทาง “ไหม ศิริกัญญา” ก็ไม่รอช้ารับลูกด้วยการร่ายยาวประเด็นข้อสงสัยสืบเนื่องที่เคยคุยค้างไว้ ว่า ตรงไหนที่วิกฤตถึงต้องออกพระราชบัญญัติเงินกู้ 5 แสนล้าน ที่ตอนนี้เงื่อนไขที่สำคัญที่สุด คือ ตัวโครงการขัดกับรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561
“อันนี้ก็เป็นการตั้งคำถามนะคะว่า ตกลงจะทำได้หรือไม่ได้ เพราะว่าการที่จะกู้ตามพรบ.มาเนี่ย ก็มีกฎหมายที่ต้องทำตามอยู่นะคะ ไม่ว่าจะเป็นมาตรา 140 ของรัฐธรรมนูญที่บอกว่า จะต้องทำตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการคลังอีก 5 ฉบับ ซึ่งในนั้นตัวสำคัญที่สุดก็คือ พรบ.วินัยการเงินการคลัง มาตรา 53 ที่เราบอกว่า กู้ได้ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน วิกฤต และต้องตั้งงบประมาณร่ายจ่ายประจำปีไม่ทัน”
“อันนี้ก็จะเป็นเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด ที่จะทำให้พรบ. ฉบับนี้ อาจจะไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถ้าไม่ถูกต้องตามเงื่อนไขทั้ง 4 ข้อ ภาระหนี้อะไรต่าง ๆ เดี๋ยวพอโครงการนี้ถ้าผ่านกฤษฎีกาได้จริง เข้าสู่ครม. คงมีรายละเอียดเพิ่มเติม ยังคงรอคำตอบเรื่อง 4 ประเด็นนี้ว่าจะทำให้ พ.ร.บ.นี้ ถูกกฎหมายจะทำได้หรือไม่ได้” ศิริกัญญา กล่าวเปิดประเด็นสงสัยที่เธอเองตั้งคำถามมาโดยตลอด แต่ดูจะยังไม่มีทีท่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนในเรื่องของรายละเอียด โดยเฉพาะกับตัวเลขข้อมูลและสถิติต่าง ๆ
ตัดภาพมาที่หมอเลี้ยบ นพ.สุรพงษ์ ซึ่งถูกโยนหน้าที่ชี้แจงข้อสงสัยของทางหัวหน้าทีมเศรษฐกิจและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกลตั้งไว้ก็เข้าประเด็นชี้แจงทันที โดยระบุ หากมองในแง่มุมของกฎหมายกำหนดไว้นั้นมีหลายอย่าง แต่ส่วนตัวก็มองเรื่องนี้น่าจะเริ่มต้นที่ความจำเป็นก่อน เพราะในส่วนของทั้งพรบ. หรือ พรก. นั้นเป็นเรื่องของ “วิธีการ”
“หนึ่งคือเรากำลังคุยกันว่าวิกฤตไหม ? สองคือ มีเงินรึเปล่า เรื่องกฎหมายนี่ตามมาทีหลัง” น.พ.สุรพงษ์ ระบุ
ฟังจบ ศิริกัญญาตั้งคำถามต่อโดยชี้เศรษฐกิจฟื้นตัวช้าจริง แต่จะเป็นวิกฤตแล้วจริง ๆ ตามที่นายแพทย์สุรพงษ์กล่าวหรือไม่นั้นจะต้องมีนิยามที่ชัดเจนว่าอะไรคือวิกฤต ! จะตัดสินยังไง ก่อนจะยกตัวอย่างที่นายแพทย์อ้างข้อมูลของประเทศญี่ปุ่นกับฮ่องกง ที่มีการแจกเงิน มีแพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ปรากฏต่อมาของญี่ปุ่น ผลไตรมาส 3 ของญี่ปุ่น จีดีพี (GDP) โตติดลบ 2.1 ขณะที่ฮ่องกง เริ่มแจกตั้งแต่เมษา ปี 2565 ปีที่แล้วฮ่องกงโตติดลบ 3.5 เปอร์เซนต์
“ดิจิตอลวอลเล็ต ทำไม่ทำมีอยู่แค่ 2 ทาง เท่านั้นใช่ไหมคะ คืออาจะใช้เงินในปริมาณน้อยหลงหรือเปลี่ยนวิธีการที่จะทำก็ได้ถูกไหมคะ แต่อาจต้องพุ่งมาที่ว่า สรุปแล้วเนี่ยวัตถุประสงค์หลักของอันนี้คืออะไร แล้วเราหวังผลที่จะเกิดขึ้นยังไง ไม่งั้นคุยกันไม่จบ”
“ก็เลยต้องขอร้องว่าอยากที่จะได้ยินว่า วางแผนไว้อย่างไร ว่าจะเกิดผลอย่างไร เพราะว่าเสียงที่คัดค้านบางส่วนก็บอกวิธีการนี้อาจไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้จีดีพีเติบโตได้ดี แล้วอย่างที่บอกว่าเม็ดเงินทุ่มลงไปประมาณ 3% ของจีดีพี แต่ว่า เมื่อวานนี้คุณหมอพรหมินทร์ก็พูดว่าอาจทำให้จีดีพีโตประมาณ 1-1.5% เฉพาะดิจิทัลวอลเล็ต แต่ว่า 5 แสนล้าน นี่มันประมาณ 3 เปอร์เซนต์ของจีดีพี แต่ว่าทำให้เศรษฐกิจโตได้เพียง 1-3% ของจีดีพีเท่านั้น
“เราจึงต้องมานั่งตั้งคำถามถึงความคุ้มค่า เพราะวันนี้มาถึงทางสุดท้ายที่ต้องกู้เงินแล้ว จึงต้องคิดให้ถี่ถ้วนจะคุ้มค่ากับผลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือเปล่า”
“ถ้าจะดีขนาดนั้นทำให้จีดีพีกลับขึ้นมา 5% ได้ บวกกับเรื่องอื่น ดิฉันยังมองไม่เห็นว่า แล้วของอันนี้จะเป็นเท่าไหร่ ท่องเที่ยวจะเป็นเท่าไหร่ ก็ต้องยอมรับว่าการบริหารต้องมีข้อมูลตัวเลขมายืนยันให้มันชัดเจนเช่นเดียวกัน
“ไม่อย่างนั้นเนี่ย เราอาจต้องไปหาทางเลือกอื่นไหมที่ไม่จำเป็นต้องกู้ เพราะมีต้นทุนที่เกิดจากการกู้เช่นเดียยวกัน เมื่อเทียบกับถ้าเราใช้งบประมาณตามปกติที่อาจไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มหรือไปแย่งชิงสภาพคล่องกับเอกชน” รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจก้าวไกล ระบุ.
รับชมเทปสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ที่ Live “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” 16 พฤศจิกายน 2566 (ขอบคุณคลิป สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว / @sorrayuth9115.)
ทั้งนี้ ช่วงหนึ่ง ศิริกัญญา ถามกลับฝั่งหมอเลี้ยบว่า ทางรัฐบาลคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า 2567 จะเติบโตไปในทิศทางไหน ? โดยหมอเลี้ยบออกตัวก่อนว่า ตนไม่ได้พูดคุยกับคนที่ดูเรื่องรายละเอียดการคาดการณ์ตัวเลขจีดีพีในปีหน้า แต่ถ้าดูจากความตั้งใจ ความมุ่งหมายคืออยากให้ได้ 5% ในปีหน้า
ดังนั้นการจะไปให้ถึงเป้าดังกล่าว ต้องมาดูว่ามีอะไรที่สามารถทำได้บ้าง
ศิริกัญญาจึงกล่าวต่อว่า เป้า 5 เปอร์เซนต์นี้ สมเหตุสมผลหรือไม่ ? ซึ่งคำนวณจากศักยภาพโตเต็มศักยภาพของไทย เวิลด์แบงก์ระบุไว้ที่ 3% ศูนย์วิจัยไทยพาณิชย์ก็เท่ากัน มากกว่าเล็กน้อยเป็นของแบงค์ชาติซึ่งก็ปรับลงมาจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4%
ด้วยเหตุนี้นักการเมืองหญิงจากก้าวไกลจึงมองว่าคล้ายกับเป็นการ “เฆี่ยนลาให้วิ่งเร็วเท่าม้า” โดยที่ไม่ดูพื้นฐานเลยว่าเราโตได้เท่าไหร่ !
อย่างไรก็ตาม ประเด็นตั้งเป้าตัวเลขจีดีพีไทยโต 5% หอมเลี้ยบเองก็ชี้แจงโดยสวนกลับวลีของศิริกัญญาว่า “ไทยไม่ใช่ลา” แต่เป็นม้า ทว่าเป็นม้าที่ป่วยมากว่า 10 ปี จึงต้องเร่งรักษาเพื่อห้อตะบึงไปข้างหน้าโดยเร็ว
“เราบอกเราเป็นม้าต่างหากที่จะต้องพยายามรักษาอาการป่วยที่มันมีอยู่ กลับมาแข็งแรงแล้ววิ่งตะบึงไปให้เร็วที่สุด เพราะที่ผ่านมาเพื่อนบ้านเรามาจ่ออยู่ข้างหลังแล้วนะครับ ดังนั้นผมเรียนว่า การคาดการณ์ต่าง ๆ คือโตเต็มศักยภาพ
“คือ เต็มศักยภาพวันนี้ คือ เป็นการมองภาพ ณ ปัจจุบัน” นพ.สุรพงษ์ หรือ หมอเลี้ยบ ระบุ.
- คำ ผกา ชี้โครงการเงินดิจิทัล หากสำเร็จ เป็นผลงาน 11 พรรคร่วม
- คำ ผกาบอกทำเหมือน ศิริกัญญา ปมดูแบบปิดเสียง สรยุทธ ช่วยขยี้ปิดมาปิดกลับไม่โกง
- จุลพันธ์ เผยแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่ทันสงกรานต์ เร็วสุดคือ พ.ค.