‘จ๊ะ นงผณี’ เผยเรื่องราวชีวิตแบบหมดเปลือก เล่าประสบการณ์โดยลูกค้าเมายืนด่าหน้าเวที หลายครั้งที่อยากร้องไห้แต่ต้องกลั้นไว้เก็บไปร้องไห้คนเดียว
นักร้องลูกทุ่งสาวรุ่นใหม่สุดฮอต จ๊ะ นงผณี มหาดไทย เป็นหนึ่งในคนบันเทิงที่โดนดราม่ารุนแรงมากไม่น้อย ตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง แม้จะหนักหนาเพียงใดเธอก็ฟันฝ่าทุกเรื่องราวมาได้อย่างเข้มแข็งอยู่เสมอ ๆ แต่ไม่เคยมีใครรู้เลยว่าเบื้องลึกเบื้องหลังในชีวิตแต่วันของเธอนั้นยากลำบากมากแค่ไหน
ในรายการ WOODY INTERVIEW ของพิธีกรมากความสามารถ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ที่ออกอากาศผ่านช่องทางยูทูบ WOODY เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา จ๊ะ นงผณีได้มีโอกาสให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความจริงของชีวิตนักร้องสาวที่ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครคิด พร้อมเล่าถึงเรื่องราวความเจ็บปวดที่เคยเผชิญอย่างการโดนแฟนคลับยืนด่าหน้าเวที ทั้งที่ไม่ได้ทำอะไรผิด
ความตอนหนึ่งของรายการ วู้ดดี้ได้สอบถามถีงความเป็นตัวตนของเธอ หลายครั้งที่เราเห็นภาพว่า จ๊ะ นงผณี เป็นคนที่สตรองมาก เจออะไรก็ทนได้หมด ดูเหมือนโนสนโนแคร์ แต่บางทีมันก็มีมุมที่อ่อนไหวมากขนาดไหนเล่าให้ฟังหน่อย
ทางสาวจ๊ะก็ได้ให้คำตอบว่า “โอ้โห เราอยู่ในจุดที่เราร้องไห้กับใครไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง พ่อแม่ เพราะรู้สึกว่าถ้าหนูร้องไห้ไปพ่อแม่เป็นห่วงหนูเลย กับพี่เราก็ร้องไม่ได้ เพราะรู้สึกว่าเราเป็นหัวหน้าคน มันจะนั่งร้องไห้กับคนทุกคนไม่ได้ สุดท้ายแล้วต้องมาร้องไห้กับตัวเอง เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าทำไมมันต้องเป็นเรานะ ไม่น่าจะเป็นเราเลยเรื่องนี้ ก็ทำได้แค่ร้องไห้ในห้องคนเดียว
ความเปลี่ยนของสังคมแล้วก็ตัวเราทุกวันนี้ คือเมื่อก่อนเราเป็นนักร้องลูกทุ่งเราจะได้เล่นงานวัด งานเทศบาล เลานจ์ก็มีบ้าง แล้วความชัดเจนของเราคือ ร้อง เซ็กซี่ เต้น แต่ทุกวันนี้ตั้งแต่เรามีเพลงคอแห้ง Target ลูกค้าเราเปลี่ยน แฟนคลับเราเปลี่ยนคือคนที่ชอบดื่ม แล้วพี่คิดดูว่าต้องไปเล่นให้คนชอบดื่มดูเป็น 500-1000 คนในผับ
แล้วเวลาที่ขึ้นมาตั้งแต่เที่ยงคืนตีหนึ่ง ณ ตอนนั้นทุกคนส่วนมากจะไม่ค่อยมีสติ ก็จะได้เจออะไรที่มันแปลก ๆ มีไปเจองานหนึ่งแล้วกลับมารู้สึกว่าไม่อยากอยู่ในวงการนี้เลย เขาให้หนูขึ้นเวลาตี 1 ผับที่นั้นปิดตี 4 หนูขึ้นเพลงแรก ปุ๊บ! มีคนเดินมาแล้วด่าหนู เอารางวัลมาให้หนู 500 บาท แล้วบอกว่าเป็นอะไรมาขึ้นช้าจัง มารอตั้งแต่ 3 ทุ่มแล้ว
ซึ่งเรากำลังอยู่บนเวทีจึงรู้สึกงงว่าต้องทำอย่างไรต่อ เลยได้แต่พูดว่าพี่คะใจเย็นนะคะ เราก็รู้นะว่าเขาสติมันไม่มีแล้ว เขาให้หนูขึ้นตี 1 ค่ะ แต่เขาก็ยังด่าหนู โดยเหตุการณ์นี้เพิ่งเกิดเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มันเป็นอะไรที่แบบฉันจะรับมือยังไงให้ไปต่อได้ รู้สึกว่าฉันเฟลอ่ะ ก็เลยพูดว่าพี่คะพี่พูดใส่ไมค์เลย ซึ่งเขาก็ยังพูดคำเดิมของเขา เราก็ดึงไมค์กลับมาแล้วบอกพี่เขาว่า หนูขอโทษนะคะ หนูเป็นแค่ลูกจ้างเขาจ้างหนูมาให้เล่นตี 1 ก็ต้องขึ้นตี 1 จากนั้นการ์ดในร้านก็เลยมาดึงเขาไป แต่ยังไงเหตุการณ์นั้นก็ทำให้เรารู้สึกว่าเหนื่อยจังเลยไม่อยากอยู่แล้ววงการนี้”
วู้ดดี้ก็ได้ถามต่อว่า แล้วจ๊ะทำอย่างไรต่อ
“จ๊ะก็กลับมาสวดมนต์ คือหนูสวดมนต์นอนทุกคืน สวดมา 8 – 9 ปีแล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกว่าผับนี้ฉันจะเมานะ จะสวดมนต์บนรถไปก่อนเลยที่กำลังไปงาน แต่วันนั้นด้วยความที่อารมณ์เรามันไม่ได้แล้วเพลงแรกหนูก็ไม่ได้ดื่มเลย คือเหมือนเราอั้นไว้ขึ้นรถก็ร้องไห้ไม่ได้ กลับมาร้องไห้โฮในห้องน้ำ ทำยังไงดีอยากกรี๊ด ทำไมมันต้องเกิดกับเรา จากนั้นก็ค่อย ๆ หายใจเข้า และก็ออกไปสวดมนต์ในห้องพระ แล้วก็พูดกับพ่อแก่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพว่าทำไมมันต้องเกิดขึ้นกับเรา อันนี้คือวิธีแก้ของหนูที่ดีที่สุด แต่มันก็ไม่ได้หายเลยนะ ในขณะที่เราพูดก็ยังรู้สึก”
แล้วจ๊ะโอเคกับจุดยืนตรงนี้ไหม
“โอเคมากพี่ แต่ ณ ตอนนั้นที่เราเจอกับคนนั้น เราไม่โอเคเลย แล้วเราก็เอาคนนั้นตัดสินทุกคนเลย แต่พอเวลามันผ่านมารู้สึกว่าคนที่เขาดีกับเรา งานที่เราไปเล่นที่ผ่านมาใน 2 ปีเกิน 600-700 งาน เราเจอคนเป็นหมื่นเป็นแสนเป็นล้าน คนที่เขาดีกับเราเยอะมาก แต่เรากลายไปโฟกัสกับคน ๆ เดียวทำไม เราจะมานั่งถามตัวเอง จึงเปลี่ยนความคิดไป”
จากเรื่องราวของสาวจ๊ะทำให้ผู้ฟังหลาย ๆ คนได้ฉุกคิดว่าแท้จริงแล้วภาพที่เกิดขึ้นหน้าฉากนั้น ไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมดที่ดาราหรือศิลปินต้องพบเจอ เบื้องลึกเบื้องหลังของสิ่งที่เราเคยเห็นอาจลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น เช่นนี้แล้ว ไม่ควรไปตัดสินภาพหรือการกระทำของศิลปินหลังจากได้เห็นเพียงด้านเดียว สุดท้ายนี้ Thaiger ก็ขอเป็นกำลังใจให้กับสาวจ๊ะด้วยนะคะ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘จ๊ะ นงผณี’ เคลื่อนไหว ฝากข้อคิดเตือนใจ รักตัวเองคืออะไร อ่านแล้วมีเศร้า
- ‘ตั๊กแตน’ มอบดอกไม้ร่วมยินดี ‘หญิง ธิติกานต์’ ทำบุญบ้านหลังใหม่ อวยพรให้อยู่แล้วรวย
- นักแสดงนางอาย “จอย-เบนซ์-แหม่ม” ย้อนวันวานรอบ 28 ปี แฟน ๆ ปลื้มมาก