จากประเด็นร้อนออนไลน์ หลังจาก อ๊อฟ ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ นักข่าวชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก แจ้งถึงแนวทางการทำข่าว ก่อนที่สื่อรุ่นพี่อย่าง แยม ฐปณีย์ เอียดศรีไชย จะออกมากล่าวถึงประเด็นการรีไรต์และก๊อปปี้ข่าว จนเป็นเหตุให้ นายแพทย์อิราวัต อารีกิจ หรือ หมออั๊ม ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่งกำลังใจให้อ๊อฟ โดยระบุว่า
“ผมเฉย ๆ นะ เรื่องเพจ Off Chainon เพราะเขาก็ให้เครดิตที่มาของข่าวปกติ ผมตามเพราะการสรุป พาดหัว และอัปเดตให้คละกัน ไวกว่าไปตามอ่านเอง เออ ถ้าไม่ให้เครดิตกัน ก็ว่าไปอย่าง อย่าดัดจริตเรื่องอ้างวิชาชีพ-จรรยาบรรณอะไรมาก
ถ้าเอาจริง ๆ แล้ว คนพูดก็ยังทำไม่ได้ 100% ถ้าตัวเอง ยังเอียงกระเท่เร่ ยังไม่กลาง 100% ก็อย่าไปว่าเขา ว่าไม่ตรงไปตรงมาให้กำลังใจอ๊อฟครับ”
หลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างเข้ามาคอมเมนต์มากมาย บางส่วนมองว่า การนำต้นฉบับไปนำเสนอเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากให้ผู้นำไปเผยแพร่ให้เครดิตอ้างอิงแล้ว ทั้งยังเป็นการกระจายข่าวให้เผยแพร่สู่สายตาประชาชนได้มากขึ้นอีกทางหนึ่งด้วย แต่บางส่วนกลับมองว่า อ๊อฟเคยโดนกล่าวถึงว่าไม่ใส่เครดิตหลายครั้ง และแม้จะใส่เครดิต แต่ก็ถือเป็นการแย่งการเข้าถึงและยอดรับชมของต้นฉบับอย่างชัดเจน
ล่าสุด วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2566 หมออั๊มต้องออกมาชี้แจงประเด็นดรามาในวงการข่าวนี้อีกครั้ง โดยระบุว่า “เห็นดราม่าเลยเถิดเรื่องการเอาข่าวไปลง แล้วหวงแหนเนื้อหาการทำข่าวกัน ไปบอกว่าไม่แฟร์ต่อคนทำงาน ผมตาม อ๊อฟ ชัยนนท์ มาแต่ต้น ผมไม่ตำหนิเขา ถ้ามีที่มาที่ไปของข่าว
จะแปะลิงก์ อ้างถึง หรืออะไรก็ตาม หากมีการให้เครดิต ผมมองว่าเป็นเรื่องปกติ แต่หากคัดลอกมา โดยไม่ให้เครดิต ไม่บอกที่มาที่ไป เหมือนตนเองเขียนเอง ลักไก่ว่าเป็นสำนักข่าว อันนี้สมควรโดนด่า
เหมือนพี่ยุทธ์ สรยุทธ์ นำเทรนด์เล่าข่าวช่วงแรก ๆ หยิบข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์มาอ่านทุกเช้า เขาก็ให้เครดิตหัวข่าว อ่านตามมารยาทปกติ มันเป็นยุคสมัยของสื่อ รูปแบบที่ต้องปรับเปลี่ยน เพราะสำหรับผม ข่าวก็คือข่าว ไม่มีใครเอาผลงานของนักข่าวไปได้
ภาพถ่าย บทสัมภาษณ์ การอัปเดตข้อมูลข่าว มันมี FootPrint ของมันเองอยู่ ถ้าคุณแชร์ข่าวเป็นสาธารณะ แล้วเขาเอามา
ปิดท้ายด้วยให้ที่มาที่ไป ให้เครดิต แปะลิงก์ เจตนารมณ์ของความเป็นข่าว ที่ยิ่งมีคนพูดถึง มันก็ได้ถูกส่งไปตามที่ต้องการแล้ว
จรรยาบรรณข่าว ของคนข่าวที่แท้จริง คือการเสนอข่าวตรงไปตรงมา ไม่บิดเบี้ยว ไม่ผสมอารมณ์ความชอบความเกลียดลงไป ให้คนอ่านตัดสินใจเอง ไม่ชี้นำ เรื่องนี้สำคัญกว่าสิ่งใด ไม่ใช่เรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องเครดิต (ที่ควรติดที่มาให้อยู่แล้ว มันคือมารยาท)
ไม่ใช่เรื่อง Engagement หรือ Reach หรือรายได้ ยอดวิว เอานำหน้า ต้องแยกแยะให้ได้ก่อน
ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่สื่อ ไม่ใช่นักข่าว แต่เผอิญคนตามเพจผม เพราะผมเสนอข่าวตรง ๆ อัปเดตให้คนตามเพจผมอ่าน เหมือนที่ผมอยากอ่าน และผมเป็นคนทำ CG ได้เร็ว (ทุกคนทราบดี) ประกอบข่าว + ข้อมูลให้เข้าใจง่าย เห็นภาพ
มีครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2565 ผมทำ CG ภาพ ๆ หนึ่ง ประกอบข่าว ให้หลายคนเข้าใจเหตุการณ์ง่าย ๆ สำนักข่าวหลายสำนัก แชร์ผมไปเขียนข่าว ทุกที่พูดถึง “หมออั้ม อิราวัต“ ให้เครดิตข่าวครบ
ผมไม่เคยใส่ลายน้ำ ไม่เคยมองว่าเป็นของตน เพราะใจความผม คือ แชร์ข่าวให้สาธารณะ ซึ่งภาพข่าวเดียวกันนี้ (ที่ผมทำ CG) คุณแยม Thapanee Eadsrichai ก๊อปภาพไป แต่กลับเป็นที่เดียว ที่ไม่ให้เครดิตผม (ทั้งที่คนรู้กันทุกสำนัก)
สิ่งที่ผมรู้สึก คือ ดีใจ ที่คุณแยมเอาไปใช้ และยังบอกกับเขาว่า “เอาภาพไปได้เลย” แม้ไม่ให้เครดิต เพราะเจตนารมณ์ข่าวผมบรรลุแล้ว สิ่งที่ผมต้องการ ไม่ใช่เงิน ไม่ใช่ยอดวิว ไม่ใช่ยอดไลก์ แต่คือข่าว ที่สร้างความเข้าใจให้ทุกคน”
หลังจากโพสต์ของหมออั๊มถูกเผยแพร่ ก็ได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอีก เนื่องจากหมออั๊มอ้างว่า แยม ฐปณีย์ เคยนำภาพของตนไปใช้โดยไม่ให้เครดิต ซึ่งแยมก็ได้เข้ามาคอมเมนต์ใต้โพสต์ชี้แจงถึงประเด็นนี้ โดยระบุว่า
“เรื่องภาพของหมออั๊ม กำลังให้ทีมงานตรวจสอบค่ะ ว่าทางเราเคยใช้จริงหรือไม่ หมายถึงใน The Reporters นะคะ ถ้ามีก็อปไปจริงแล้วทางเราไม่ให้เครดิต อันนี้ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า แต่เท่าที่เราทำงานมาจะขอใช้ของใคร ก็จะขอทุกครั้งและให้เครดิต ถ้ามีผิดพลาดไปบ้างต้องขออภัยจริง ๆ เพราะคุณหมอเป็น influencer อาจจะมีงานหรือความเห็นที่ต้องการเผยแพร่เป็นความรู้ในทางสาธารณะ เพื่อให้สื่อนำไปสื่อสาร จะต่างกับสำนักข่าว จึงอยากชี้แจงตรงนี้ และไม่อยากให้เรื่องบานปลายไปค่ะ
ส่วนตัวไม่เคยมีความขัดแย้งใด ๆ กับน้องออฟ Off Chainon และคุณหมอเลยค่ะ สิ่งที่เรากำลังถกเถียงกันก็มาจากหลักการและเหตุผลในการทำงานที่อาจจะมีมุมมองต่างกัน เราอาจจะมีความคิดเห็นอื่นที่ต่างกันบ้าง เรามีวิชาชีพที่ต่างกัน แต่เราก็เคารพซึ่งกันและกัน ด้วยความเคารพค่ะ”
ต่อมาทางแยม ได้อัปเดตสเตตัสผ่านเฟซบุ๊กข้อความว่า “เรื่องกรณีข่าวหมออั๊มมาหาว่าฐปณีย์ อย่าดัดจริตอ้างวิชาชีพเคยก็อปภาพข่าวไปใช้นั้น ได้มีการชี้แจงให้หมออั้มทราบไปแล้วว่า ไม่ใช่การก็อปภาพมาออกข่าว The Reporters แต่ป็นการนำภาพมาแชร์ในเพจส่วนตัว และได้ขอบคุณภาพจากเนต เพราะตอนนั้นไม่ทราบที่มา
ซึ่งหมออั๊มได้รับทราบแล้วว่าข้อเท็จจริงที่กล่าวหาพี่แยมนั้นรุนแรงเกินไปและได้โพสต์ขอโทษไปแล้ว จึงขอให้สื่อที่นำข่าวนี้ไปรายงานข่าวแล้วโปรดแก้ไขหรือเพิ่มเติมข่าวให้ถูกต้องด้วยนะคะ เพราะพาดหัวข่าวแบบนั้น ทำให้แยมเสียหาย ซึ่งนี่เป็นเรื่องหนึ่งที่อยากให้พิจาณาการนำเสนอข่าวข้อความจากโซเซียลมีเดีย ควรต้องรอบด้าน ไม่หวังแค่ยอดวิว ด้วยความเคารพจริงๆค่ะ เพราะยังมีภาพข่าวขึ้นฟีดอันดับหนึ่ง คิดว่าจะโพสต์ประเด็นนี้ไว้เท่านี้แล้ว ขอบคุณค่ะ”
