ตร.แจ้ง 2 ข้อหาคนขับรถบรรทุก ทำถนนยุบ พร้อมสอบคลิปถ่ายน้ำมันกลางดึก
เจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้ง 2 ข้อหาคนขับ หลังชั่งน้ำหนักรถเกิน 12.45 ตัน ทำถนนใจกลางกทม.ยุบ พร้อมสอบประเด็นคลิปถ่ายน้ำมัน การต่อเติมรถ และส่วยสติกเกอร์
จากกรณีรถบรรทุกตกท่อบริเวณปากซอยสุขุมวิท 64/1 เป็นเหตุให้ถนนยุบตัวลงจนได้รับความเสียหาย วันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และพ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 ประชุมร่วมกับพ.ต.อ.โอภาส หาญณรงค์ ผู้กำกับการ สน.พระโขนง และคณะทำงาน ที่สน.พระโขนง ติดตามความคืบหน้าทางคดี พร้อมแจ้ง 2 ข้อหากับคนขับรถบรรทุก
แจ้ง 2 ข้อหากับคนขับรถบรรทุก
พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า หลังชั่งน้ำหนักรถพบว่าบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และได้แจ้งข้อหากับคนขับรถ 2 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหาย และทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ส่วนเจ้าของรถ ตำรวจติดต่อมาสอบปากคำในวันนี้ สาเหตุที่เชิญมาล่าช้าเนื่องจากเจ้าของรถอ้างว่าตกใจ และยังไม่พร้อมให้ข้อมูล
ประเด็นคลิปวิดีโอคนงานถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุก
จากกรณีที่ผู้สื่อข่าวช่อง 3 ได้รับคลิปวิดีโอ จากทีมงานผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยในคลิปวิดีโอเผยให้เห็นว่า ในช่วงกลางดึกของคืนวันเกิดเหตุ มีคนงานนำถังแกลลอนมาถ่ายน้ำมันออกจากรถบรรทุกคันเกิดเหตุที่จอดไว้ตรงข้าม สน.พระโขนง ฝ่ายสืบสวนได้ติดตามตัวบุคคลในคลิปมาสอบปากคำแล้ว
บุคคลในคลิปให้การว่า ได้รับคำสั่งมาให้ถ่ายน้ำมันออกจากถัง เนื่องจากตัวถังได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุ จึงเกรงว่าน้ำมันอาจรั่วจนเกิดอันตราย และได้นำน้ำมันของกลางมาส่งคืนให้กับพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมยืนยันว่าไม่มีเจตนาจะอำพรางทำให้น้ำหนักรถลดลง แต่ก็ยังต้องสอบสวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมหากพบว่าพยายามถ่ายน้ำหนักรถเพื่อเลี่ยงการถูกตรวจสอบก็จะดำเนินคดี
ยืนยันดำเนินการตรวจสอบการต่อเติมรถและส่วยสติกเกอร์
พล.ต.ต.พัลลภ กล่าวว่า หลังจากนี้จะตรวจสอบประเด็นความผิดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแจ้งข้อหาเพิ่มเติม โดยแบ่งเป็น 2 ส่วน ทั้งเรื่องการดัดแปลงต่อเติมอุปกรณ์เสริมพ่วงส่วนอื่น ๆ ว่าฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่ และบ่อพักที่อยู่ในความรับผิดชอบของการไฟฟ้านครหลวง การก่อสร้างมีความถูกต้องตามหลักวิศวกรรมหรือไม่ โดยหลังจากนี้จะต้องให้ทางสภาวิศวกรรมเข้ามาตรวจสอบ
ส่วนเรื่องส่วยสติกเกอร์ ทางพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้กำชับและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในเรื่องนี้แล้ว รวมถึงพล.ต.อ.ต่อศกดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้มีคำสั่งมอบหมายให้จเรตำรวจแห่งชาติตรวจสอบเรื่องนี้ควบคู่กันไปด้วย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการสอบสวนเบื้องต้น คนขับรถให้การว่า ทางผู้ประกอบการเจ้าของรถบรรทุกได้ติดสติกเกอร์ทำสัญลักษณ์ให้รู้ว่าเป็นรถของตัวเองที่จะเข้ามาตักดินภายในไซต์งาน เนื่องจากมีรถจำนวนหลายคัน หากพบหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตรับผลประโยชน์ หรือส่วยสติกเกอร์ จะดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ละเว้น แต่ต้องใช้เวลาในการทำงาน
ขณะที่รถคันอื่น ๆ ของผู้ประกอบการเจ้าของรถบรรทุกที่มีรายงานข่าวว่ามีจำนวนอยู่ประมาณ 6 ถึง 7 คัน หากไม่ได้บรรทุกน้ำหนักเกินที่กฎหมายกำหนด หรือไม่มีสิ่งใดผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินประกอบการได้ตามปกติ แต่เจ้าหน้าที่อาจจะต้องเข้มงวดตรวจตราตามเส้นทางเพิ่มมากขึ้น ส่วนเส้นทางที่รถบรรทุกคันดังกล่าวจะนำดินไปไว้พื้นที่ไหนนั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนเพื่อความชัดเจน
ตอนท้ายได้กล่าวย้ำว่า กรณีการสอบปากคำคนขับรถบรรทุก หากให้การไปถึงเจ้าของรถว่า บังคับให้ขนส่งน้ำหนักเกินกฎหมายกำหนด เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดีเจ้าของรถบรรทุกด้วย แต่การสอบปากคำในเบื้องต้นยังไม่มีการซักทอดถึงเจ้าของรถบรรทุกแต่อย่างใด