ข่าวภูมิภาค

ศรีวราห์ ไล่บี้พนักงานสอบสวน ขอออกหมายจับเจ้าของเรือมรณะ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ ( 13 ก.ค.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต – พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คณะ ลงพื้นที่ติดตามความคือหน้าการสอบสวนดำเนินคดีกรณีเรือ “ฟีนิกซ์” ล่ม จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 47 ราย และ มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งกรณี เรือ “เซเรนาต้า” ที่ประสบอุบัติเหตุเรือล่ม เช่นเดียวกัน โดยประชุมร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค 8 ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจน้ำ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดที่ที่เกี่ยวข้องกับกรณีเรือล่มทั้ง 2 ลำ
พล.ต.ท.ศรีวราห์ กล่าวว่า ได้เน้นย้ำให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนคดีนี้อย่างรัดกุมและจะต้องดำเนินการสอบสอบให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะต้องสอบสอบให้ครอบคลุมในทุกประเด็นในเรื่อง
ทั้งในเรื่องของการตรวจพิสูจน์หลักฐานซึ่งกองพิสูจน์หลังฐานได้ชี้แจงถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบศพของผู้เสียชีวิต ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีประมาณ 27 ราย ที่ไม่มีเสื้อชูชีพติดตัว โดย พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้สั่งการให้พนักงานสอบปากคำทางเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน รวมทั้งเจ้าภูเก็ตในเรื่องของเสื้อชูชีพ
ส่วนเรือที่เกิดเหตุสั่งการให้พนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงเจ้าของเรือให้นำเรือลำที่เกิดเหตุซึ่งเป็นของกลางมามอบให้กับทางพนักงานสอบสวน ซึ่งเรื่องนี้ทางตำรวจน้ำแจ้งว่า ในส่วนของเรือเซเรนาต้า ทางเจ้าของเรือกำลังอยู่ระหว่างการเร่งกู้คาดว่าเร็วๆนี้จะสามารถกู้ได้ ขณะที่ในส่วนของเรือฟีนิกซ์ก็จะมีการประสานกับทางเจ้าของเรือว่าจะกู้เองหรือไม่ถ้าไม่กู้เองก็จะต้องเป็นในส่วนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการบังคับให้กู้เรือขึ้นมาโดยทางเจ้าของเรือจะต้องเป็นคนจ่ายค่าดำเนินการในการกู้เรือทั้งหมด ซึ่งในส่วนของเรือฟีนิกซ์คาดว่าจะใช้เวลากู้เรือประมาณ 10 วัน หลังจากเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆพร้อม
ขณะที่เรือสำคัญอีกเรื่องที่ทาง พล.ต.ท.ศรีวราห์ ได้สั่งการในการประชุมครั้งนี้ คือการตรวจสอบในส่วนของอู่ต่อเรือ ฟีนิกซ์ ซึ่งวันนี้ได้ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการขอหม้ายค้นเข้าตรวจค้นอู่ต่อเรือธนวัตน์ เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่งตั้งอยู่ ในพื้นที่ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อตรวจสอบเอกสารหลังฐาน เกี่ยวกับการต่อเรือ ฟีนิกซ์ ทั้งหมด เพื่อให้เกิดความชัดเจนถึงที่มาที่ไปของการต่อเรือ โดยย้ำให้สอบปากคำหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นการต่อเรือ การตรวจสอบก่อนนำเรือไปใช้ เพราะการจะนำเรือออกไปใช้ได้จะต้องผ่านการตรวจสอบของหน่วยงานของกรมเจ้าท่าซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องนี้
พล.ต.ท.ศรีวราห์ ยังได้ย้ำในเรื่องของการสอบปากคำพยาน ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บ เด็กเรือ เจ้าของเรือ ผู้เห็นเหตุการณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน หากสอบไปสวนแล้วพบว่าใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดจนเป็นเหตุให้เกิดเรือล่มในครั้งนี้จะต้องมีการดำเนินคดีกับทุกคน ซึ่งตอนนี้ในส่วนของ เรือเซเรนาต้า ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 2 ราย คือ กับตันเรือ และผู้จัดการบริษัทที่สั่งปล่อยเรือ รวมทั้งได้มีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 24 ปาก โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยว 10 คน ส่วนนักท่องเที่ยวที่เหลือไม่ให้ความร่วมมือ บางส่วนเดินทางกลับไปแล้ว บางส่วนยังไม่พร้อม โดยทางพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือแจ้งไปยังกงศุลก็ให้ประสานเรื่องนี้แล้ว
ส่วนกรณีเรือฟีนิกซ์ ขณะนี้ได้แจ้งข้อหาในส่วนของกัปตันเรือไปแล้ว และมีการสอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก อย่างไรก็ตามในส่วนของเรือฟีนิกซ์ ทางรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งให้ให้ทางพนักงานสอบสวนเร่งสอบสอบให้เสร็จโดยเร็ว และจะต้องขอออกหมายจับในส่วนของผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ 1 ในนั้นคือ เจ้าของเรือ ลำที่เกิดเหตุ และจะต้องมีการดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะสอบไปถึงใครก็ตาม ถ้าเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินคดีทั้งหมด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button