ข่าว

‘หมอกฤตไท’ เพจ ‘สู้ดิวะ’ โพสต์เศร้า อำลาทุกคน เดือนหน้าไม่อยู่แล้ว

หมอกฤตไท เจ้าของเพจ สู้ดิวะ โพสต์อำลาทุกคน แจ้งว่ากลางเดือนหน้าไม่อยู่แล้ว หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้ายมานาน

หลังจากออกมาอัปเดตอาการป่วนโรคมะเร็งปอดระยะสุดท้าย “หมอกฤตไท ธนสมบัติกุล” เมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยแจ้งว่าอาการไม่ดีขึ้น อีกทั้งมะเร็งยังลุกลามไปทั่วร่างกายอีกด้วย ทำให้ต้องยกเลิกแผนแจกลายเซ็นหนังสือไปโดยปริยาย

Advertisements

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา หมอกฤตไทก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Krittai Tanasombatkul อัปเดตอาการป่วยของตัวเอง โดยกล่าวว่าน่าจะมีชีวิตอยู่ได้ถึงกลางเดือนหน้าเท่านั้น ทำเอาหลายคนที่ได้ติดตามการต่อสู้ของหมอกฤตไทมาตั้งแต่ต้น รู้สึกเศร้าเกินบรรยาย

“ผมคง อยู่ได้อีกไม่นานแล้วครับ

ใครมีอะไรอยากพูดอยากบอกผม

เชิญได้เลยครับ

ผมน่าจะไปช่วงกลางเดือนหน้า

Advertisements

จากนั้นไว้เจอกันใหม่นะครับ

ณ ตอนนี้ผมพิมพ์ได้เท่านี้ก็เอาละครับ

ขอบคุณสำหรับทุกอย่างตลอดช่วง 30ที่ผ่านมาครับ

ขอโทษถ้าผมทำให้ใครไม่พอใจ

#สู้ดิวะ

#Ktinpalliativecare2023”

หมอกฤตไท สู้ดิวะ

ล่าสุดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 หมอกฤตไทก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านทางแฟนเพจ สู้ดิวะ โดยการรีโพสต์คลิปวิดีโองานแต่งงานของตัวเองกับภรรยา ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2566 พร้อมด้วยแคปชั่นสุดเศร้าว่า

“กว่าจะถึงวันนี้…สู้

เวลาคือสิ่งที่พิสูจน์ว่าสองคนนี้รักกันแค่ไหน

ลูกจ๋า เวลาคือสิ่งสำคัญ

เป็นเวลาที่จะได้ใช้ร่วมกัน

และคนทั้งสองก็ใช้เวลาร่วมกันได้อย่างดีที่สุด”

หมอกฤตไท สู้ดิวะ

ท่ามกลางชาวเน็ตที่เข้ามาให้กำลังใจหมอกฤตไทกันอย่างมากมาย ส่งผลให้แฮชแท็ก #สู้ดิวะ พุ่งติดเทรนด์อันดับ 1 ในโลกทวิตเตอร์ โดยข้อความอำลาทุกคนของหมอกฤตไทมีคนแชร์ไปกว่า 2.8 หมื่นครั้งทางเฟซบุ๊ก ถือเป็นอีกหนึ่งเรื่องน่าเศร้าใจที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ณ วันนี้

หมอกฤตไท สู้ดิวะ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button