แม่ชาวจีนฟ้องร้องลูกชายวัย 19 ปี หลังจากใช้เงินที่แม่เก็บไว้จ่ายค่าเล่าเรียน ไปซื้อรถคันใหม่ให้แฟนสาว ชาวเน็ตคอมเมนต์วิจารณ์สนั่น
วันศุกร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2566 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ DOCNHANH รายงานว่า แม่ชาวจีนคนหนึ่งฟ้องร้องลูกชายวัย 19 ปี หลังจากที่ลูกชายใช้เงินที่แม่เก็บไว้ สำหรับจ่ายค่าเล่าเรียน นำไปซื้อรถยนต์คันใหม่ให้แฟนสาว
แม่ชาวจีนรายนั้นนามว่า หลิว ปัจจุบันอายุ 41 ปี ส่วนลูกชายของเธอชื่อ เสี่ยวเว่ย เธออาศัยอยู่ที่มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ภายหลังจากที่เธอหย่าร้างกับสามี เธอก็เลี้ยงลูกเพียงลำพังคนเดียว
ต่อมาหลิวแต่งงานใหม่ เธอนำเงินเก็บกว่า 500,000 หยวน (ราว 2,400,000 บาท) โอนเข้าบัญชีลูกชายของเธอ เพื่อให้ลูกชายใช้ในอนาคต เนื่องจากเธอไม่ต้องการให้สามีใหม่มีส่วนแบ่งจากเงินเก็บตรงนี้ และเพื่อป้องกันการเกิดข้อพิพาททางการเงินในอนาคตอีกด้วย
หลิวเก็บเงินจำนวนนั้นเป็นเวลานานหลายปี เนื่องจากเธอเชื่อมั่นในความสามารถทางวิชาการของลูกชาย และต้องการให้ลูกชายไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ หากเขาตั้งใจกับการเรียนมากพอ อย่างไรก็ตาม เธอยังคงเก็บสมุดบัญชีธนาคารของลูกชายเอาไว้ เพราะคิดว่าเขายังเด็กเกินไป
แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น หลังจากที่เสี่ยวเว่ยลูกชายของเธอเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย เขากลับถอนเงินทั้งหมดออกจากบัญชีออมทรัพย์ หลิวจึงติดต่อไปยังธนาคาร และนั่นทำให้เธอทราบว่า เสี่ยวเว่ยไปแจ้งเรื่องทำสมุดบัญชีออมทรัพย์หาย และตั้งรหัสผ่านใหม่เพื่อถอนเงินออกจากบัญชี หลังจากนั้นเสี่ยวเว่ยก็โอนเงินให้แฟนสาวประมาณ 200,000 หยวน เพื่อซื้อรถยนต์และเดินทางไปกับแฟนสาว
หลังจากเรื่องทุกอย่างกระจ่างชัด หลิวขอให้ลูกชายและแฟนสาวคืนเงินให้ 300,000 หยวน แต่พวกเขากลับปฏิเสธ อ้างว่าเป็นเงินที่แม่เก็บไว้ให้เขา เมื่อคุยกันไม่ได้ความ หลิวจึงตัดสินใจฟ้องร้องลูกชายต่อศาลทันที
ศาลพยายามที่จะประนีประนอมระหว่างแม่และลูกชาย โดยโน้มน้าวเสี่ยวเว่ยว่า เงินที่หลิวเก็บไว้เป็นเงินสำหรับอนาคตของเขา ไม่ใช่ของขวัญ ขณะเดียวกันก็โน้มน้าวหลิว โดยบอกเธอว่า เธอต้องเคารพความต้องการของลูกด้วย
ในท้ายที่สุด หลิวและเสี่ยวเว่ยก็ตกลงกันได้สำเร็จ โดยเขาจะคืนเงินส่วนที่เหลือให้กับแม่ ส่วนหลิวก็ยังยืนยันว่าจะจ่ายค่าเล่าเรียน และค่าครองชีพรายเดือนให้กับลูกชายต่อไป
ภายหลังจากข่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจและเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย อาทิ “แม่คงเสียใจมาก เพราะเสียทั้งเงินเสียทั้งลูกชาย”, “ถ้าเป็นฉัน คงไม่ให้เงินลูกชายอีก เพราะเขาคงโตพอที่จะเลี้ยงดูตัวเองได้แล้ว” เป็นต้น
แม้เรื่องราวตอนท้ายจะจบลงด้วยความเข้าใจทั้งสองฝ่าย เนื่องจากสามารถตกลงกันได้สำเร็จ แต่ถึงกระนั้นความรู้สึกของคนเป็นแม่คงเจ็บช้ำไม่น้อย ที่ลูกชายนำเงินที่ตั้งใจไว้ให้ศึกษาเล่าเรียน ไปซื้อรถให้กับแฟนสาว เพราะนั่นไม่ใช่ความตั้งใจที่แท้จริงของคนเป็นแม่นั่นเอง
อ้างอิง : docnhanh
