พยากรณ์อากาศวันนี้ 2 พ.ย. 66 กรมอุตุฯ เตือน ไทยเริ่มมีหมอก มีฝนเพิ่ม ภาคใต้ระวังฝนตกหนัก
กรมอุตุนิยมวิทยา ประกาศ 2 พ.ย. 2566 ทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ภาคใต้ฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำทั่วฉับพลัน เตือนประชาชนให้ระมัดระวัง
เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีหมอกในตอนเช้า มีฝนตกเพิ่มขึ้น และภาคใต้ มีฝนตกหนักบางแห่ง เสี่ยงต่อการเกิดน้ำป่าไหลหลาก ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน
บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนเริ่มมีกำลังอ่อนลง ในขณะที่ลมตะวันออกพัดปกคลุมประเทศไทย อ่าวไทย และทะเลอันดามัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีหมอกในตอนเช้าและเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น
ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามัน มีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย
พยากรณ์อากาศทั่วไทย 2 พฤศจิกายน 2566
ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และตาก อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 31-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
กทม. และปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20 ของพื้นที่ ฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งอ่าวไทย)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 80 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา และปัตตานี อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียส
- ตั้งแต่ จ.ชุมพร ขึ้นมา : ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
- ตั้งแต่ จ.สุราษฎร์ธานี ลงไป : ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลคลื่นสูงประมาณ 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งอันดามัน)
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ และฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนมากที่บริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดอยู่ที่ 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 15-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร