สรุปดราม่า #ศิลปินเกาหลีโกงค่าบั้ม ย้อนไทม์ไลน์ประเด็นร้อนฉ่าบนทวิตเตอร์
ย้อนไทมไลน์ประเด็นดราม่าสุดร้อนฉ่า #ศิลปินเกาหลีโกงค่าบั้ม หลังขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์ (X) ในประเทศไทย สรุปดราม่าจากแฮชแท็ก ล้วงลึกพฤติกรรมอื้อฉาวของศิลปิน
ในวันนี้ (31 ตุลาคม 2566) แฮชแท็กจั่วหัวสุดฉาว แฉพฤติกรรมของศิลปินเกาหลีท่านหนึ่ง #ศิลปินเกาหลีโกงค่าบั้ม กลับมาได้รับความสนใจจากชาวเน็ตแพลตฟอร์ม Twitter (X) อีกครั้ง หลังในช่วงกลางเดือนกันยายน 2566 มีผู้ใช้งานรายหนึ่งออกมาทวีตถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเหตุการณ์และพฤติกรรมที่ศิลปินเกาหลีได้กระทำต่อแฟนคลับ
เมื่อเดือนกันยายน 2566 มีผู้ใช้งาน Twitter รายหนึ่งออกมาทวีตข้อความไล่เรียงประเด็นจากการกระทำของศิลปินชายชาวเกาหลีใต้ โดยเริ่มต้นจากการกล่าวว่า ขณะนี้มีแฟนคลับเกาหลีถูกศิลปินที่ตนเองรักและสนับสนุนโกงเงินค่าอัลบั้ม กล่าวคือ แฟนคลับชำระค่าสินค้า (อัลบั้ม) แต่ทางบริษัทและศิลปินกลับไม่ส่งสินค้าให้ เหตุที่เป็นเช่นนี้เกิดจากการที่ศิลปินเกาหลีคนนี้ตกลงเซ็นต์สัญญาทำอัลบั้มกับบริษัทแห่งหนึ่ง ที่เคยมีประวัติไม่ดีเกี่ยวกับการทำงานไม่โปร่งใส
ถึงอย่างนั้นแฟนคลับก็ยังคงสนับสนุนการตัดสินใจของศิลปินคนดังกล่าวและสั่งของอัลบั้มกับบริษัทแห่งนี้ ภายหลังเกิดปัญหา บริษัทไม่ส่งอัลบั้มให้ลูกค้า ไม่คืนเงิน และปิดบริษัทหนี ทั้งนี้ศิลปินอ้างว่าไม่มีส่วนรู้เห็นถึงปัญหาดังกล่าว จะดำเนินการฟ้องต่อความเสียหายทั้งหมด แต่จวบจนขณะนี้ศิลปินก็ยังไม่เคยออกแถลงการณ์ฟ้องร้องแต่อย่างใด จนเหล่าแฟนคลับต้องดำเนินเรื่องด้วยตนเอง
อย่างไรก็ดี บริษัทต้นสังกัดในปัจจุบันอ้างว่าจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบค่าเสียหายทั้งหมดให้แฟนคลับภายในปีนี้ หลังเวลาล่วงเลยมาจนสี่เดือนสุดท้ายของปี แฟนคลับคนหนึ่งรับหน้าที่เป็นตัวแทนไปสอบถามถึงประเด็นดังกล่าวที่เคยรับปากไว้ แต่ทางผู้จัดการของศิลปินเกาหลีกลับบอกว่า กำลังจัดหาทนายคนใหม่ในการรับผิดชอบเรื่องนี้ เหตุเพราะทนายคนเก่าไม่ดำเนินการยื่นฟ้องให้
จากนั้นตัวแทนแฟนคลับส่งอีเมลแจ้งเรื่องให้กับผู้เสียหายที่โดนโกงค่าอัลบั้ม แต่ในวันรุ่งขึ้น (11 กันยายน 2566) ผู้จัดการแจ้งว่าศิลปินคนดังกล่าวกำลังจะออกจากต้นสังกัด ซึ่งทางแฟนคลับกลับมองว่า ในเมื่อต้นสังกัดเดิมยินดีที่รับผิดชอบปัยหาทั้งหมด เหตุใดศิลปินจึงหมายมั่นที่จะย้ายต้นสังกัด อีกทั้งการย้ายบริษัทอาจส่งผลให้การดำเนินการรับผิดชอบถูกเพิกเฉยหรือยืดยาวออกไปอีก ขณะนี้ศิลปินคนดังกล่าวยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย
ล่าสุด ประเด็นดังกล่าวมีความคืบหน้าอีกครั้ง โดยบริษัทต้นสังกัดได้ออกมาแถลงการณ์ถึงเรื่องราวของผู้จัดการ ซึ่งโดนศิลปินเกาหลีท่านนี้กู้เงินไปจำนวน 8 ล้านบาท ไม่รวมค่าเช่าบ้าน ค่ารถ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ทางผู้จัดการขอเงินคืน แต่ศิลปินกลับไม่คืนและยืนยันจะเปลี่ยนบริษัทสังกัด เพื่อหนีปัญหา จากใจความหนึ่งของคำแถลงการณ์ได้ระบุว่า เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ศิลปินขอร้องให้ย้ายวีซ่าจากบริษัท เนื่องด้วยเขาต้องการย้ายไปยังบริษัทของแฟนสาวที่หมายหมั่นจะแต่งงานด้วยกัน ภายหลังการย้ายวีซ่า ศิลปินกลับบอกว่าแยากจะพักจากวงการบันเทิงสักระยะหนึ่ง
ในเดือนกันยายน ศิลปินได้แจ้งกับแฟน ๆ ว่าเขาจะทำสัญญากับบริษัทของพี่ชาย โดยไม่แจ้งให้บริษัทเดิมทราบ และในวันนั้นเอง ปม่ของแฟนสาวของเขาได้ติดต่อเจ้าหน้าที่ชาวไทยและบอกให้ยุติการดำเนินงานทั้งหมด และข่มขู่ให้พนักงานของบริษัทย้ายออกจากประเทศไทย
อย่างไรก็ดี เรื่องราวทั้งหมดยังไม่สามารถอธิบายถึงบทสรุปที่แน่ชัดได้ อีกทั้งยังไม่สามารถกล่าวโทษได้อย่างชัดเจนว่าเป็นความผิดของบุคคลใด หรือบริษัทใด หากเรื่องราวได้รับการไขความจริงอย่างกระจ่าง Thaiger จะมาอัปเดตให้ผู้อ่านทราบอีกครั้ง
- ‘จีดราก้อน’ ไม่ได้โดนเรียกสอบ ปมยาเสพติด เผยสื่อเกาหลีตีข่าวมั่ว
- Golden Disc Awards ครั้งที่ 38 จะจัดขึ้น ณ กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย 6 ม.ค. 67