ข่าว

ตำรวจไซเบอร์ เตือนภัยวันฮาโลวีน ระวังถูกหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว

โฆษก บช.สอท. ประกาศเตือนภัยประชาชนช่วงวันฮาโลวีน ระวังมิจฉาชีพหลอกเอาข้อมูลส่วนตัว ผ่านโปรโมชันต่าง ๆ พร้อมเปิดสถิติการรับแจ้งความออนไลน์ และข้อควรระวังเพื่อป้องกันมิจฉาชีพ

ช่วงวันฮาโลวีนเทศกาลปล่อยผีแบบนี้ นอกจากนี้ผีหลอกแล้ว ต้องระวังมิจฉาชีพหลอกด้วย วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม 2566 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ โฆษกกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ บช.สอท. ออกมาเปิดเผยสถิติการรับแจ้งความ ผ่านศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ในช่วงวันฮาโลวีน (Halloween)

Advertisements

พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมายังคงมีผู้เสียหายหลายรายถูกมิจฉาชีพหลอกลวงขายสินค้าและบริการออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลสำคัญต่าง ๆ ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคมของทุกปีเป็นวันฮาโลวีน เหล่ามิจฉาชีพมักฉวยโอกาสใช้ช่วงวันสำคัญดังกล่าวจัดโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อหลอกลวงขายสินค้า หรือบริการให้แก่ประชาชนผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์

กลลวงมิจฉาชีพที่ใช้หลอกผู้เสียหาย

กลลวงของมิจฉาชีพมีหลายรูปแบบ ทั้งจากการสร้างเพจร้านค้าปลอม หรือเพจที่พักปลอม โดยการขายสินค้าหรือบริการในราคาต่ำกว่าปกติ อ้างว่าเป็นโปรโมชันในช่วงดังกล่าว เมื่อหลอกลวงได้ทรัพย์สินของผู้เสียหายแล้ว ก็จะปิดเพจหรือบล็อกบัญชีผู้เสียหายหลบหนีไป

นอกจากนี้ มิจฉาชีพยังใช้บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ ปลอมโพสต์ข้อความหรือส่งข้อความไปยังอีเมลในลักษณะในสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น ผู้โชคดีได้รับโทรศัพท์ฟรีวันฮาโลวีน Halloween Get Free เป็นต้น พร้อมแนบลิงก์ให้เหยื่อติดต่อ หรือให้กรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านเว็บไซต์แปลก ๆ ได้แก่ ชื่อและนามสกุล ที่อยู่ วันเดือนปีเกิด หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรประชาชน หรือข้อมูลทางการเงิน เช่น หมายเลขบัญชีธนาคาร เลขบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิต รหัสหลังบัตร รหัสใช้ครั้งเดียว (OTP) เป็นต้น

ข้อมูลเหล่านี้ มิจฉาชีพจะนำไปใช้ประโยชน์ในทางมิชอบ ทั้งนำข้อมูลที่ได้ไปขายให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หรือนำข้อมูลไปสุ่มแฮ็กเข้าบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ หรือใช้รหัสบัตรเดบิต บัตรเครดิตชำระค่าสินค้า หรือนำไปแอบอ้างทำเรื่องที่ผิดกฎหมายต่าง ๆ นอกจากนี้แล้วยังมีการหลอกลวงให้เหยื่อโอนเงินค่าประกันสินค้าก่อนอีกด้วย

สถิติการแจ้งความออนไลน์

จากสถิติศูนย์บริหารการรับแจ้งความออนไลน์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 ถึงวันที่ 25 ตุลาคม 2566 พบว่า การหลอกลวงซื้อขายสินค้าหรือบริการ มีผู้เสียหายแจ้งความออนไลน์กว่า 140,045 เรื่อง หรือคิดเป็น 40.27% จากเรื่องการรับแจ้งความทั้งหมด สูงเป็นลำดับที่ 1 โดยมีมูลค่าความเสียหายกว่า 2,041 ล้านบาท สูงเป็นลำดับที่ 4 ของมูลค่าความเสียหายทั้งหมด รองลงมาจากการหลอกลวงให้ลงทุน การหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงาน และการข่มขู่ทางโทรศัพท์ (Call Center)

Advertisements

เตือนภัย วันฮาโลวีน

วิธีป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพหลอก

สำหรับวิธีการป้องกันการโดนหลอก พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ในปัจจุบันการใช้งานหรือเข้าถึงบริการต่าง ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์ ควรระมัดระวังตรวจสอบให้ดี ตระหนักถึงการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งมิจฉาชีพมักจะใช้ความโลภของเหยื่อเป็นเครื่องมือในการหลอกลวงใช้สถานการณ์สำคัญ ๆ สับเปลี่ยนหมุนเวียนไปตามวันเวลาเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ หลอกเอาข้อมูลส่วนตัวสร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง

นอกจากนี้การซื้อสินค้าหรือบริการผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ก็เป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มิจฉาชีพฉวยโอกาสเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ หลอกลวงเอาทรัพย์สินของประชาชนโดยมิชอบ จึงขอฝากประชาสัมพันธ์แนวทางการป้องกันการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว ดังนี้

1. ระมัดระวังการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลหรือวันสำคัญ ๆ ควรหลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่ไม่มีหน้าร้าน ควรติดต่อซื้อจากบริษัทหรือตัวแทนจำหน่ายโดยตรง รวมถึงการจองที่พักควรจองผ่านช่องทางที่เป็นทางการ หรือผ่านผู้ให้บริการออนไลน์ที่น่าเชื่อถือเท่านั้น

2. ระมัดระวังการซื้อสินค้าหรือบริการที่ราคาถูกกว่าปกติ หรือมีการจัดโปรโมชัน ลดแลก แจก แถม

3. หากจะซื้อสินค้าหรือบริการใด ๆ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก ต้องระมัดระวังเพจปลอมหรือเพจลอกเลียนแบบ โดยเพจจริงจะได้รับเครื่องหมายยืนยันตัวตน มีผู้ติดตามสูงกว่าเพจปลอม สร้างมาเป็นเวลานาน และมีรายละเอียดการติดต่อที่ชัดเจน อย่างน้อยต้องสามารถโทรศัพท์ติดต่อไปสอบถามข้อมูลได้ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบความโปร่งใสของเพจ ว่ามีการเปลี่ยนชื่อมาก่อนหรือไม่ ผู้จัดการเพจอยู่ในประเทศหรือไม่

4. ระวังการเข้าสู่เว็บไซต์ปลอมหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนบุคคลในการเข้าใช้งานเว็บไซต์ใด ๆ ขอให้พิมพ์หรือกรอกชื่อเว็บไซต์ด้วยตนเอง

5. ไม่คลิกลิงก์ที่แนบมากับอีเมล หรือข้อความสั้น (SMS) ไม่ทราบแหล่งที่มาและไม่น่าเชื่อถือ โดยเฉพาะที่เป็นการสำรวจข้อมูล กรอกแบบสอบถามต่าง ๆ เพราะอาจเป็นการดักรับข้อมูลของมิจฉาชีพ

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. ได้เร่งรัดขับเคลื่อนตามนโยบายของรัฐบาล และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในด้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมออนไลน์ในทุกรูปแบบ รวมถึงการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงขายสินค้าหรือบริการผ่านสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ

Kamonlak

นักเขียนข่าวประจำ Thaiger ผู้มีความสนใจที่หลากหลาย มีประสบการณ์เชี่ยวชาญเขียนข่าวการเงิน เศรษฐกิจ จบการศึกษาจากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ งานอดิเรก ติดตามข่าวสารความบันเทิง โดยเฉพาะภาพยนตร์และแอนิเมชัน เขียนงานโดยมีแนวคิดที่ต้องการถ่ายทอดมุมมองของตัวเองและถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นในสังคม ช่องทางติดต่อ kamonlak@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button