ปลอดประสพ โพสต์เดือดถึงกลุ่มนกหวีด ชี้เศรษฐกิจซบเซา การลงทุนนิ่ง แต่ทำไมถึงออกมาค้านโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่กระจายรายได้ให้ประชาชน
นอกจากเงื่อนไขที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแล้ว เหล่านักการเมืองยังออกมาตั้งคำถาม เกี่ยวกับประเด็นโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาทกันอยู่บ่อย ๆ วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม 2566 นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาตั้งคำถามถึงประเด็นนี้ด้วยเช่นกัน
นายปลอดประสพโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ตั้งประเด็นว่า นกหวีดขัดขวางคนจนรับ 10,000 บาท ทำไม โดยระบุว่า “ในที่สุดสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และธนาคารชาติ ก็ดามาออกมาประกาศลดการขยายตัวทางเศรษฐกิจเหลือเพียง 2.7 ต่อปี แทน 3.3 ที่เคยประกาศไว้
เหตุผลก็คือ การบริโภคของภาคเอกชนและของรัฐบาลลด การลงทุนนิ่ง การส่งออกถดถอย การท่องเที่ยวที่หวังกันนักหนาไม่เป็นตามคาด สรุปคือ เจ๊งครบทุกด้าน
ที่น่าสมเพชก็คือ กลุ่มของชนชั้นสูงหรือชั้นกลางบางกลุ่ม และนักวิชาการศีรษะลีบ ต่างออกมาประกาศหน้าตาเฉยว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่ได้เสียหายเสื่อมทรามอะไรจาก 9 ปี ของกลุ่มนกหวีด กลุ่มแต่งแฟนซีรักชาติ พวกชัตดาวน์กทม. ความผิดใหญ่หลวงเหล่านี้เกิดจากพวกคุณนี่แหละ
เมื่อวานนี้เอง รองนายกภูมิธรรมและผมเพิ่งประกาศยกเลิกกฎข้อบังคับทาสที่ทำให้การประมงไทยฉิบหายไป 32 ล้านล้านบาท เรือประมงหายไป 40,000 ลำ แรงงานประมงไม่มีงานทำ 100,000 คน เรือประมงนอกน่านน้ำเหลือ 0 ลำ เป็นไงครับระบบลุง ฉิบหายเท่านี้พอใจหรือยัง
มาตอนนี้ ยังกล้าดาหน้าออกมาค้านรัฐบาลที่พยายามจะแจกเงิน 10,000 บาทให้ประชาชน เพื่อบรรเทาความยากจนและพลิกฟื้นเศรษฐกิจทุกระดับให้ดีขึ้น อยากบอกว่า ถ้าใครขืนเชื่อพวกคุณอีก ตัวคุณเองนั่นแหละจะยากจนเอง”
หลังจากโพสต์ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตบางส่วนเข้ามาแสดงความคิดเห็น โดยส่วนหนึ่งเห็นด้วยกับนายปลอดประสพ เนื่องจากเชื่อมั่นในการทำงานรัฐบาล แต่บางส่วนให้ความเห็นว่า ฝ่ายที่ออกมาโจมตีรัฐบาลคือฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับพรรคเพื่อไทย
อย่างไรก็ตาม บางส่วนเลือกที่จะตั้งคำถามกลับ เนื่องจากดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่เงินสด หากจะแลกเป็นเงินบาทต้องเสียค่าธรรมเนียม แล้วเงินค่าธรรมเนียมที่ได้จากประชาชนใครจะเป็นผู้ได้รับไป พร้อมให้ความเห็นว่า ไม่ติงกับโครงการแต่ควรจ่ายเป็นเงินสดจะดีกว่าหรือไม่
สำหรับนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ขณะนี้ยังคงเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมต่อไป ทั้งนักการเมืองและประชาชน เนื่องจากมีทั้งฝั่งที่ต้องการให้ดำเนินโครงการต่อ และฝั่งที่ต้องการให้ยุติโครงการ
อ้างอิง : Facebook ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี
