เฉลย ทำไมคนไทยสมัยอยุธยากลัวการไปเที่ยวทะเล หลังมีบันทึกถึงพระเจ้าเสือโหดร้ายยิ่งกว่าที่เห็นในละครพรหมลิขิต
ต้องยอมรับด้วยประการทั้งปวงว่า กระแส “ละครพรหมลิขิต” นั้นยังคงแรงทะยานติดลมบนชนิดอะไรก็มาฉุดไม่น่าจะอยู่เสียแล้ว โดยล่าสุดก็มีประเด็นตั้งข้อสงสัยซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการที่แฟน ๆ ละครได้รับชมตอนประทับใจเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาแล้วเกิดคำถาม ทำไมคนสมัยอยุธยาจึงกลัวการไปทะเลจนน้ำตาไหล ?
งานนี้ เฟซบุ๊กแฟนเพจ ไทวาด สื่อโซเชียลที่นำเสนอเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยผ่านตัวลายเส้นการ์ตูน ได้วาดภาพการ์ตูน 2 ช่องขึ้นมา โดยช่องแรก เป็นรูปตัวการ์ตูนผู้หญิงไทยในปัจัจจุบัน ส่วนอีกช่องข้าง ๆ กันนั้น เป็นหญิงไทยสมัยอยุธยาซึ่งเขียนระบุรายละเอียดไว้ด้วยว่าเป็น นางสมนยุคพระเจ้าเสือ โดยจั่วหัวคำบรรยายตัวโต ๆ ไว้ว่า “เมื่อแฟนบอกว่าจะพาคุณไปเที่ยวทะเล”
ทั้งนี้ เนื้อหาบรรยายเพิ่มเติมในโพสต์จากเพจไทวาด ระบุว่า ฉลามนะชอบงับคุณ (เพิ่มเติมข้อความ) เพิ่งได้กลับมาดูเพจเมื่อเช้า ยังงงว่าโพสต์นี้มัน mass ได้ไง คนกด Like 2 หมื่นกว่า แอดมินขออนุญาตตกตะลึง มือทาบอกแป๊บ
แถมคนมาเม้นต์เยอะมาก คงตอบไม่หมด แต่เห็นมีบางคำถามประเด็นน่าสนใจ จึงจะขอยกมาตอบในโพสต์เลยนะครับ
1. เมืองไทยมีปลาฉลามด้วยเหรอ?
ตอบ – มีสิครับ แต่อย่าไปนึกถึงฉลามตัวใหญ่ ๆ แบบในหนังเรื่อง JAWS นะ รายนั้นเค้าเป็นสายพันธุ์ปลาฉลามขาว (Carcharodon carcharias) อยู่ในทะเลลึกเขตอบอุ่น กินแมวน้ำเป็นอาหาร ไม่เห็นในบ้านเราหรอก แต่ฉลามพวกที่อยู่ในทะเลบ้านเรา ใช่ว่าจะไม่มีตัวที่อันตรายนะครับ ยกตัวอย่างเช่น ฉลามเสือ (Galeocerdo cuvier), ฉลามหัวค้อน (Sphyrna mokarran), ฉลามหัวบาตร (Carcharhinus leucas) เป็นต้น แต่เดี๋ยวนี้เหลือน้อย โดนล่าส่งภัตตาคารหูฉลามซะเยอะ
อันนี้ภาพฉลามในน่านน้ำทะเลไทยครับ คลิก
2. สมเด็จพระเจ้าเสือโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ?
ตอบ – ตรงนี้ฟันธงยากครับ เพราะหลักฐานเอกสารประวัติศาสตร์แต่ละฉบับบรรยายไว้ไม่เหมือนกัน เช่น
“บุคคลผู้นั้น (ออกหลวงสรศักดิ์) เป็นที่เกลียดชังของพวกขุนนางอยู่ด้วยได้ไปประกอบกรรมอันบัดสี (ต่อลูกเมียของพวกเขา) อยู่เนืองๆ” (บันทึกบาทหลวง โกล๊ด เดอ แบซ (Claude de Bèze) ชาวฝรั่งเศส)
“.พระเจ้าสุริเยนทราธิบดีนี้มีบุญญาภินิหารแลอิทธิฤทธิ์ ชำนาญในทางเวทมนต์กายสิทธิ์มาก เวลากลางคืนก็ทรงกำบังพระกายเสด็จประพาศฟังกิจศุขทุกข์ของราษฎร แลทรงตรวจตราโจรผู้ร้ายมิได้ขาด ..” (คำให้การชาวกรุงเก่า)
“.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพอพระทัยเสวยน้ำจัณฑ์ แล้วเสพสังวาสด้วยดรุณีอิตถีสตรีเด็กอายุ ๑๑- ๑๒ ปี ถ้าสตรีใดเสือกดิ้นโคลงไป ทรงพระโกรธ ลงพระราชอาชญาถองยอดอกตายกับที่ ถ้าสตรีใดไม่ดิ้นเสือกโคลงนิ่งอยู่ ชอบพระอัชฌาสัย พระราชทานบำเหน็จรางวัล ประการหนึ่งถ้าเสด็จไปประพาสมัจฉาชาติฉนากฉลามในชลมารคทางทะเลเกาะสีชังเขาสามมุข แลประเทศที่ใด ย่อมเสวยน้ำจัณฑ์พลาง ถ้าหมู่พระสนมนิกรนางในแลมหาดเล็กชาวที่ ทำให้เรือพระที่นั่งโคลงไหวไป มิได้มีพระวิจารณะ ปราศจากพระกรุณาญาณ ลุอำนาจแก่พระโทโส ดำรัสสั่งให้เอาผู้นั้นเกี่ยวเบ็ดทิ้งลงไปกลางทะเล ให้ปลาฉนากฉลามกินเป็นอาหาร ประการหนึ่งปราศจากพระเบญจางคิกศีล มักพอพระทัยทำอนาจารเสพสังวาสกับภรรยาขุนนาง แต่นั้นมาพระนามปรากฎเรียกว่า พระเจ้าเสือ”(พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม))
แต่ที่น่าสังเกต คือ พงศาวดารที่ชำระขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ ค่อนข้างเขียนถึงสมเด็จพระเจ้าเสือในแง่ลบเป็นพิเศษ โดยเน้นเล่ารายละเอียดพฤติกรรมโหดร้ายวิปริต ในขณะที่เอกสารร่วมสมัยจะเล่าในเชิงว่าเป็นคนดุร้ายเฉย ๆ
อ่านเพิ่มเติมที่เพจของอาจารย์ศรีสรรเพชญ์ครับ https://www.facebook.com/WipakHistory/posts/2620274734702647
3. ผมติดตามพี่ XXXX อยู่ สเต็ปบอลแม่นมาก
ตอบ – ส่งเอาไปให้ผู้ปกครองของน้องเล่นเองดีกว่านะครับ
ต่อมาเฟซบุ๊กเพจ วิพากษ์ประวัติศาสตร์ ได้กล่าวถึงความโหดร้ายของพระเจ้าเสือ พระราชพงศาวดารฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) ที่ชำระในรัชกาลที่ 1 ที่กล่าวถึงพระเจ้าเสือตอนหนึ่งว่า “ประการหนึ่งถ้าเสด็จไปประพาสมัจฉาชาติฉนากฉลามในชลมารคทางทะเลเกาะสีชัง เขาสามมุข แลประเทศที่ใด ย่อมเสวยน้ำจัณฑ์พลาง ถ้าหมู่พระสนมนิกรนางในแลมหาดเล็กชาวที่ ทำให้เรือพระที่นั่งโคลงไหวไป มิได้มีพระวิจารณะ ปราศจากพระกรุณาญาณ ลุอำนาจแก่พระโทโส ดำรัสสั่งให้เอาผู้นั้นเกี่ยวเบ็ดทิ้งลงไปกลางทะเล ให้ปลาฉนากฉลามกินเป็นอาหาร ประการหนึ่ง ปราศจากพระเบญจางคิกศีล มักพอพระทัยทำอนาจารเสพสังวาสกับภรรยาขุนนาง แต่นั้นมาพระนามปรากฏเรียกว่า พระเจ้าเสือ”
สำหรับหมายความของเนื้อหาด้านบน สามารถถอดความเป็นภาษาปัจจุบันได้ว่า ถ้าพระเจ้าเสือเสด็จไปที่เกาะสีชัง เขาสามมุข ก็จะการดื่มเหล้า และถ้าพระสนมหรือมหาดเล็กคนใดที่ทำให้เรือพระที่นั่งโคลงเคลง พระเจ้าเสือที่บันดาลโทสะ ก็จะสั่งให้เอาผู้นั้นโยนลงไปในทะเลเพื่อเป็นอาหารให้แก่ฉลาม และเป็นคนที่ไม่มีศีล 5 มักจะลักลอบเป็นชู้มีอะไรกับภรรยาขุนนางอยู่เสมอนั่นเอง.
- เขมรดูพรหมลิขิต เคลม ปลาตะเพียนสาน-หมูกระทะ ไม่ได้มาจากไทย
- ตารางออกอากาศ พรหมลิขิต ประกาศปรับผังใหม่ เริ่ม 30 ต.ค. 66 เป็นต้นไป
- เรื่องย่อ “พรหมลิขิต” ตอน 3 พุดตานย้อนเวลากลับไปอยุธยา
