เฒ่าวิปริต วางแผนข่มขืนทารก 12 สัปดาห์ พบข้อความใคร่เด็กและภาพอนาจารเพียบ
ช็อค! ตำรวจบุกจับกุม เฒ่าวิปริต เดินทางไปข่มขืนเด็กทารกวัยเพียง 12 สัปดาห์ หลังวางแผนในโลกออนไลน์อยู่นาน พบหลักฐานมีความใคร่เด็กสุดโต่ง
สำนักข่าวต่างประเทศ Mirror ได้ออกมารายงานข่าวว่า ตำรวจได้บุกเข้าจับกุม มาร์ก วอลลีย์ (Mark Whalley) ชายชราวัย 71 ปี ณ โรงแรมแห่งหนึ่ง หลังพบว่าเขามีความตั้งใจจะข่มขืนเด็กทารก 12 สัปดาห์ และพูดคุยเรื่องการมีเพศสัมพันธ์กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีในโลกออนไลน์
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) ได้รับข่าวกรองเกี่ยวกับพฤติกรรมของชายชราคนนี้ ว่าเขามีความสนใจในเรื่องทางเพศของเด็กที่ต่ำกว่า 12 ปี ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ Wickr ทั้งยังได้แบ่งปันภาพอนาจารของเด็ก ให้แก่บัญชีผู้ใช้งานรายอื่นบนเว็บไซต์อีกด้วย
ในหลักฐานพบว่า มาร์ก วอลลีย์ ได้แสดงความประสงค์ที่จะใช้ความรุนแรงและมีเพศสัมพันธ์กับเด็ก ๆ โดยเขาได้ส่งข้อความหาหลายคนที่อ้างว่า สามารถช่วยให้ใกล้ชิดกับเหล่าเด็กทารกได้ โดยมาร์ก วอลลีย์ และคนเหล่านั้น ต่างพากันพูดคุยกันว่าจะทำอย่างไรหากได้พบกับเด็กทารก ก่อนจะนัดแนะกันไปที่โรงแรมในใจกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ประเทศอังกฤษ
หลังทราบพฤติกรรมของมาร์ก วอลลียร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจของอังกฤษ ได้บุกเข้าไปจับกุมตัวเขาที่ห้องโถงของโรงแรมในทันที ซึ่งเขาพยายามอ้างว่า ทั้งหมดเป็นเรื่องเข้าใจผิดและเขาแค่มีประเด็นชู้สาวในโรงแรมเท่านั้น ทว่าศาลก็ได้ตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 6 ปี 8 เดือน
ต่อมา มาร์ก วอลลีย์ ได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา ว่าเขาได้จัดทำและเผยแพร่ภาพอนาจารของเด็กจริง อีกทั้งยังได้วางแผนจะล่วงละเมิดทางเพศเด็กอีกด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สามารถกู้ภาพอนาจารเด็กจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเขาได้ในภายหลัง
ทั้งนี้ ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการของ NCA กล่าวว่า “มาร์ก วอลลีย์ เป็นผู้กระทำความผิดที่เป็นอันตราย ซึ่งเขามีเจตนาชัดเจนที่อยากจะข่มขืนเด็กทารก และจากความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับเพื่อนร่วมงานในสหราชอาณาจักรและต่างประเทศ ทำให้เราสามารถเข้าไปแทรกแซง และจับกุมเขาได้ทันเวลา โดยตอนนี้เขาจะต้องติดคุกหลายปีในข้อหาก่ออาชญากรรมที่เขาก่อด้วยตัวเอง”
พร้อมกันนี้ สำนักงานอาชญากรรมแห่งชาติ (NCA) ยืนยันว่า พวกเขาจะทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เพื่อช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยของเด็ก ๆ ให้ห่างไกลจากการถูกปองร้ายและการล่วงละเมิดทางเพศ โดยจะเดินหน้าระบุตัวตนของผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะก่อเหตุ และลงโทษคนเหล่านี้อย่างถึงที่สุด.