เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย นำโดยนายจอห์น ดัลลีย์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฯ ได้มอบเงินสนับสนุนจำนวน 560,600 บาท เพื่อพัฒนาบ้านพักพิงสุนัขจรจัดจังหวัดภูเก็ตแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ในโอกาสต้อนรับการมาเยือนของคณะผู้เข้าประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2018 โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะนำไปสร้างพื้นที่กักกันโรคและระบบกรองน้ำที่ทันสมัยให้กับบ้านพักพิงฯดังกล่าว
โดยหลังจากมอบเงินสนับสนุนแล้ว นายจอห์น ดัลลีย์ ได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับสถานการณ์สุนัขจรจัดในจังหวัดภูเก็ต และแสดงความเป็นห่วงเรื่องจำนวนสุนัขเร่รอนที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในบ้านพักพิงฯ
“นอกจากเงินสนับสนุนจำนวนดังกล่าวซึ่งจะนำไปสร้างพื้นที่กักกันโรค และระบบกรองน้ำแบบไฮเทคแล้ว ทางมูลนิธิฯ ยังสนับสนุนการรักษาพยาบาลให้แก่สุนัขในบ้านพักพิงฯ อีกด้วย เราเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการฉีดวัคซีน การกำจัดเห็บ หมัด รวมถึงการรักษาพยาบาลสุนัขเจ็บป่วย สุนัขจากสวนป่าฯ ที่ป่วยหนักหรือได้รับบาดเจ็บจะถูกส่งตัวไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์ที่มูลนิธิฯ โดยทีมสัตวแพทย์ของมูลนิธิฯ จะเข้ามาที่บ้านพักพิงฯทุกอาทิตย์ เพื่อตรวจเยี่ยมอาการของสุนัขทั้งหมด”
“แม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นด้วยกับการสร้างบ้านพักพิงฯเพื่อนำสุนัขจรจัดมาเก็บไว้ แต่เราก็ยินดีที่จะช่วยพัฒนาบ้านพักพิงฯเพื่อให้สุนัขที่นี่มีสภาพความเป็นอยู่ที่ดี สิ่งที่เราพยายามจะทำอยู่อย่างต่อเนื่องคือ CNVR หรือการ จับ ทำหมัน ฉีดวัคซีน และปล่อยกลับที่เดิม เพื่อให้สุนัขควบคุมประชากรและโรคติดต่อกันเองโดยธรรมชาติ ซึ่งวิธีการนี้ ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรอนามัยโลก (WHO) องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (The Food and Agriculture Organisation of the United Nations) และ องค์กรเพื่อการรณรงค์ควบคุมโรคพิษสุนัขบ้าโลก (Global Alliance for Rabies Control) การจับสุนัขที่ได้รับการฉีดวัคซีนและทำหมันแล้วออกนอกพื้นที่เดิมจะส่งผลเสียต่อการควบคุมประชากรสุนัขจรจัด และการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้า”
“ผมรู้สึกกังวลที่ได้ยินว่าจะมีการสร้างคอนโดสุนัขเพื่อรองรับจำนวนสุนัขเพิ่มที่บ้านพักพิงฯ แน่นอนว่าสุนัขจรจัดที่ดุร้ายนั้นจะต้องถูกจับมาไว้ในบ้านพักพิงฯ แต่สุนัขจำนวนมากที่นี่เป็นสุนัขที่เป็นมิตร และจำนวนหนึ่งกลับเป็นสุนัขมีเจ้าของมาก่อน สังเกตได้ว่าพวกเขาจะมีปลอกคอมาด้วย”
ท้ายสุด นายจอห์นได้ทิ้งท้ายเรื่องการนำเข้าลูกสุนัขที่ไม่ได้รับการฉีดวัคซีนมายังจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า
“เราอยากจะเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสั่งห้ามการนำเข้าลูกสุนัขที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนมายังจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะจากจังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยงโรคพิษสุนัขบ้า ลูกสุนัขเหล่านี้ถูกลำเลียงส่งมาขายตามตลาดนัดและร้านขายสัตว์เลี้ยง และตัวที่ขายไม่ออกก็จะถูกทิ้งให้เป็นสุนัขจรจัดต่อไป หากสามารถควบคุมในเรื่องนี้ได้ การควบคุมประชากรสุนัขจรจัดและการกำจัดโรคพิษสุนัขบ้าในภูเก็ตก็จะมีประสิทธิภาพขึ้นอีกมาก”
