ตายายร้องทุกข์ โดนลูกสาวคนเล็กหลอกกินยากล่อมประสาทนาน 3 ปี พบความจริงสมบัติถูกโอนเกลี้ยง 500 ล้านบาท หวั่นไม่ปลอดภัย หลังเห็นลูกเอาที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพล
เมื่อวานนี้ (19 ต.ค. 66) เพจสายไหมต้องรอด ไปพาคุณตาวัย 83 ปี และยายวัย 69 ปี ไปร้องทุกข์กับผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ หลังพบว่าถูกลูกคนเล็กโอนสมบัติไปกว่า 500 ล้านบาท
ตากับยายเล่าว่า ตนเกือบเสียสติเพราะลูกสาวให้กินยากล่อมประสาทนานถึง 3 ปี โดยอ้างเป็นยาแก้สมองเสื่อม ซึ่งจะนำมาให้ทานครั้งละ 1 เม็ด วันละ 3 ครั้ง หลังกินเสร็จตนจะมีอาการปากแห้ง คอแห้ง ตาค้าง และชักเกร็ง จนแทบจะเสียสติคล้ายคนเป็นบ้า
ด้านหลานสาวได้เล่าเสริมว่า เดิมทีตากับยายมีลูกสาวทั้งหมด 2 คน โดยลูกคนโตคือแม่ของตน ส่วนลูกคนเล็กก็คือน้าสาว ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็อยู่พร้อมหน้ากันเป็นครอบครัวใหญ่ แต่เริ่มมีปัญหาเรื่องการแบ่งมรดก จนตายายเข้าใจลูกสาวคนโตซึ่งเป็นแม่ของตนผิด และตัดขาดกันไป ทำให้ตากับยายอยู่กับลูกคนเล็กมาตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากที่ตายายตัดขาดกับลูกคนโต ก็ไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีก ทราบเพียงแต่ว่าลูกคนเล็กได้สร้างกำแพงสูง 2 เมตร ปิดกั้นบ้านของทั้งคู่เอาไว้ ทว่าวันหนึ่งแม่ของตนบังเอิญได้ยินเสียงยายมานั่งร้องไห้ข้างกำแพง จึงได้เข้าไปพูดคุยจนทราบความจริงว่า ตายายถูกลูกคนเล็กหลอกกินยามานาน 3 ปี
นอกจากนี้เงินในบัญชีกว่า 10 ล้านบาท และที่ดินจำนวน 100 กว่าไร่ที่ปากช่อง มูลค่ารวมกว่า 500 ล้านบาท ก็ถูกโอนไปเป็นชื่อของลูกสาวคนเล็กหมดแล้ว
ทำให้ลูกสาวคนโตต้องรีบพาตากับยายไปแจ้งความลูกคนเล็กฐานลักทรัพย์ เนื่องจากทางครอบครัวหวั่นเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หลังพบว่าลูกคนเล็กได้นำที่ดินไปจำนองกับผู้มีอิทธิพล ก่อนจะพบความจริงเพิ่มเติมว่า ลูกคนเล็กได้ฟ้องตายายให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถด้วย แต่ล่าสุดได้พาตายายไปตรวจสุขภาพแล้ว พบว่ายังปกติดีไม่ได้ไร้ความสามารถดังที่โดนกล่าวอ้าง
ด้านผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าที่ร้อยตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ กล่าวว่าจะช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และส่งตายายไปตรวจหาสารต่าง ๆ ว่าได้ทานยาอะไรไปแล้วบ้าง พร้อมยืนยันจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายอย่างแน่นอน.
