หนุ่มคลั่ง ถือมีดคู่ไล่ฟันตำรวจ ยิงปืนไฟฟ้าเอาไม่อยู่ สุดท้ายถูกยิงวิสามัญดับ
หนุ่มเมียนมาถือมีดคู่ไล่ฟันตำรวจ เจ้าหน้าที่ใช้ปืนไฟฟ้ายิงสกัด แต่ลุกขึ้นมาไล่ฟันต่อ ตำรวจยิงสวน วิสามัญผู้ก่อเหตุเสียชีวิตคาที่
ร.ต.อ.สมยงค์ บานเย็น พนักงานสอบสวน ได้รับแจ้งเหตุว่ามีหนุ่มเมียนมาคลุ้มคลั่ง ถือมีดไล่ฟันชาวบ้าน สายตรวจเข้าระงับเหตุกลับถูกฟันที่แขน จึงยิงสวนเสียชีวิตคาที่ บริเวณหน้าห้องเช่าริมถนนสายบ้านบน – บ้านยางชุม บ้านหนองมะซาง ม.3 ต.กุยบุรี อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ จึงนำกำลังเข้าตรวจสอบ
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงที่เกิดเหตุพบร่างชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่กับพื้น สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งโสร่งสีเขียว หน้าห้องที่ 3 มีร่องรอยถูกยิงด้วยอาวุธปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 2 นัด ที่ขาและใบหน้า ที่มือซ้ายยังกำมีดเหน็บความยาวประมาณ 25-30 ซม. อยู่แน่น ห่างออกไป 2 เมตร พบมีดอีกเล่มความยาว 40 ซม.กระเด็นตกอยู่ที่พื้น ใกล้กันยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอก และวิทยุสื่อสารของตำรวจตกอยู่ ส่วนชายคนที่นอนอยู่ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว ต่อมาทราบชื่อว่าคือ นายอ่าวโก อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า มีชาวบ้านแจ้งไปยัง สภ.กุยบุรีว่า มีคนเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ถือมีดไล่ฟันชาวบ้าน ร.ต.อ.วัฒนชัย คีรีนิล ร้อยเวร 20 นำกำลังชุดสืบสวน เข้าทำการระงับเหตุ แต่นายอ่าวโก เมื่อเห็นตำรวจกลับไม่ได้เกรงกลัว ถือมีด 2 มือวิ่งเข้าใส่ตำรวจ ทำให้ตำรวจใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ ซึ่งนายอ่าวโกก็เพียงแต่ชะงักล้มลงไปชั่วครู่
จากนั้นก็ลุกขึ้นใช้มีดที่อยู่ในมือทั้ง 2 ไล่ฟันตำรวจ ทำให้ต้องถอยหนีตั้งหลัก โดยส.ต.ต.ธีรภัทร จันทร์สุข ตำรวจชุดสืบสวนที่ร่วมระงับเหตุเกิดหกล้ม ทำให้นายอ่าวโก ปรี่เข้ามาใช้มีดฟันที่ต้นแขนซ้ายส.ต.ต.ธนภัทร จึงชักปืนยิงสวนไป 2 นัด เพื่อป้องกันตัว จนนายอ่าวโกล้มลง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจโทรแจ้งรถพยาบาลให้มารับนายอ่าวโกไปรักษา แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้านนายปรีชา โออิด อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นคู่เขยของนายอ่าวโก เล่าว่า ตนเป็นผู้แจ้งตำรวจมาระงับเหตุเอง เนื่องจากนายอ่าวโกคลุ้มคลั่ง เอะอะโวยวาย ถือมีดเดินไปมาหน้าห้อง ตนจึงห้ามปราม ซึ่งปกตินายอ่าวโกจะฟังตน แต่ครั้งนี้กลับไม่ฟัง แถมยังวิ่งไล่ฟันตนอีกด้วย จึงวิ่งหนีและโทรแจ้งตำรวจ
จากนั้นเมื่อตำรวจมาถึงก็เข้าไปสั่งให้นายอ่าวโกวางมีดลง เพื่อมาพูดคุยกัน แต่นายอ่าวโกกลับไม่ฟังท้าทายต่างๆนานา พูดจาภาษาไทยปนพม่า และก็คว้ามีดวิ่งไล่ฟัน ตนเองก็วิ่งหนี จากนั้นได้ยินเสียงปืน จึงทราบว่านายอ่าวโกถูกยิง
นายปรีชา เล่าต่อว่า ก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือนนายอ่าวโกเคยเกิดอาการคลุ้มคลั่งใช้มีดเฉือนแขนตัวเอง และจะไล่ฟันชาวบ้าน ซึ่งครั้งนั้นตนก็แจ้งตำรวจมาระงับเหตุได้ทันก่อน โดยนายอ่าวโกเคยมีอาการคล้ายคนที่ของขึ้น คือขึ้นปีนต้นไม้ได้อย่างคล่องแคล่วรวดเร็วคล้ายกับลิง ซึ่งนายอ่าวโกสักยันต์รูปหนุมานไว้ที่ด้านหลัง
ขณะที่ ร.ต.อ.วัฒนชัย คีรีนิล รอง สวป.สภ.กุยบุรี หัวหน้าชุดระงับเหตุเล่า ว่าตนได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุว่า มีคนคุ้มคลั่งไล่ฟันชาวบ้าน จึงนำกำลังพร้อมอุปกรณ์ไม้ง่ามสำหรับจับผู้ป่วยจิตเวชหรือคนคุ้มคลั่ง มาถึงที่เกิดเหตุก็พบชายอยู่หน้าห้องที่ 3 ในมือทั้ง 2 ข้างถือมีดอยู่ จึงให้ผู้ใต้บังคับบัญชานำอุปกรณ์ไม้ง่ามลงไปเพื่อเตรียมจับ
หลังจากพูดคุยกันไม่รู้เรื่อง นายอ่าวโกวิ่งใส่ตำรวจ ซึ่งทางตำรวจใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ จนทำให้นายอ่าวโกล้มลง ทางตำรวจจึงนำไม้ง่ามเข้าไปจะจับ แต่นายอ่าวโกกลับลุกขึ้นมาได้ และไล่ฟันตำรวจ จนส.ต.ต.ธีรภัทร หกล้มหนีไม่ทัน ถูกฟันแขนซ้าย จึงยิงสวน ทำให้นายอ่าวโกสียชีวิตดังกล่าว
จากการตรวจสอบที่แขนของ ส.ต.ต.ธีรภัทร พบว่ามีรอยถูกฟันจนแขนเสื้อขาด และรอยแดงๆที่แขนเท่านั้น ไม่ได้รับบาดเจ็บมากแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากทางแพทย์ ฝ่ายปกครอง และตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันตรวจสอบแล้วจึงให้กู้ภัยนำร่างผู้ตายนำส่งโรงพยาบาล เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด และดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป