คนบ้านไกลอาจได้เฮ คณะอนุกรรมการฯ เงินดิจิทัล 10,000 บาท เตรียมขยายรัศมีการใช้จ่ายเงิน จาก 4 กิโลเมตร เป็นภายในเขตอำเภอ อ้างอิงตามรหัสไปรษณีย์
เริ่มมีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นแล้วสำหรับระยะรัศมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่เตรียมแจกให้ประชาชนคนไทยอายุ 16 ขึ้นไปซึ่งลงทะเบียนยืนยันตัวตน เริ่มใช้งานวันแรก 1 กุมภาพันธ์ 2567 ผ่านซุปเปอร์แอปที่กำลังพัฒนาระบบ โดยก่อนหน้านี้เงื่อนไขโครงการวางไว้ว่าใช้จ่ายได้ในระยะ 4 กิโลเมตรจากทะเบียนบ้าน ทำให้ประชาชนหลายคนกังวลเรื่องติดปัญหา ไม่สามารถไปใช้จ่ายยังบ้านเกิดได้ รวมถึงภายในละแวกบ้านไม่มีร้านค้าในพื้นที่
ล่าสุด ภายหลังการประชุมของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังในฐานะประธานฯ ได้ให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนถึงความชัดเจนที่สุดตอนนี้คือ มีแนวคิดจะเปลี่ยนระยะรัศมีการซื้อของด้วยเงินดิจิทัลวอลเลต จาก 4 กิโลเมตร เป็นภายในอำเภอตามทะเบียนบ้าน แบ่งขอบเขตด้วยรหัสไปรษณีย์
คาดว่าแนวคิดนี้จะเคาะชัดเจนว่าจะปรับหรือไม่ปรับในการประชุมครั้งถัดไปคือวันที่ 19 ตุลาคม 2566 ส่วนเงื่อนไขว่าซื้อของอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ใช้เงินผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง แต่สร้างซุปเปอร์แอปขึ้นมา แลกเปลี่ยนเงินผ่านระบบบล็อกเชน เนื่องจากตอบโจทย์วัตถุประสงค์ของการดำเนินโครงการมากกว่า
ส่วนรูปแบบการยืนยันตัวตนจะใช้ระบบ KYC เช่นเดิม โดยต้องการรหัสประชาชน 13 หลักและการสแกนใบหน้า
ปล. จากความเห็นของทีมไทยเกอร์การเงิน มองว่าการกำหนดระยะรัศมีใช้จ่ายเงินมีข้อดี ช่วยให้เม็ดเงินกระจายลงซึมซาบสู่ทุกหย่อมหญ้าโดยแม้จริง ไม่กระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ใหญ่ๆ เพียงอย่างเดียว การอัดฉีดเม็ดเงินจึงเห็นผลกว่า แต่ก็ติดเรื่องปัญหาประชากรแฝงที่ไม่สามารถกลับบ้านไปใช้เงินได้ ทำให้รัฐต้องเสียโอกาสลำเลียงเงินสู่ท้องถิ่นอย่างน่าเสียดาย
การพบกันครึ่งทางที่ขยายรัศมีเป็นในระดับอำเภอถือว่าเป็นไอเดียที่ดี เพราะยังคงเป้าประสงค์แรกเริ่มไว้ได้ และคลายความตึงเครียดของประชาชนเรื่องพื้นที่ไปพร้อม ๆ กัน