ซีรี่ย์บันเทิง

อธิบายตอนจบ The Fall of the House of Usher วงจรกรรมของบ้านอัชเชอร์ (สปอยล์)

อธิบายตอนจบ The Fall of the House of Usher บ้านปีศาจ สำหรับคนที่ยังงง ซีรีส์สดุดีผลงานวรรณกรรมเจ้าพ่อเรื่องสยองขวัญ เอ็ดการ์ อัลลัน โพ มีสปอยล์เนื้อหา ต้องไปดูมาก่อน

The Fall of the House of Usher เป็นซีรีส์ที่ได้ดัดแปลงมาจากวรรณกรรม House of Usher ของราชาเรื่องเล่าสยองขวัญชาวอเมริกันอย่าง เอ็ดการ์ อัลลัน โพ (Edgar Allan Poe) กำกับโดยผู้กำกับมือทอง ไมก์ ฟลานาแกน (Mike Flanagan) เล่าเรื่องการล่มสลายของตระกูลอัชเชอร์ที่ร่ำรวยมหาศาลจากบริษัทยาทุจริต Fortunato Pharmaceuticals

เปิดซีรีส์ตอนแรกมาด้วยการโฟกัสไปที่ตัวละครหลักอย่าง ร็อดเดอริก อัชเชอร์ ที่เรียกตัวอัยการรัฐนามว่า ซี. ออกัสต์ ดูแปง มาฟังคำสารภาพของเขาเกี่ยวกับการตายแบบผิดธรรมชาติของลูก ๆ ทั้ง 6 คน หลังจากตระกูลอัชเชอร์ถูกรัฐบาลฟ้องว่ายาที่พวกเขาผลิตมีผลข้างเคียงร้ายแรง

ร็อดเดอริกเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเองให้ดูแปงฟังภายในบ้านร้างที่เขาเคยอาศัยช่วงวัยเด็ก และในขณะที่เขาสารภาพบาปกับอัยการคู่ปรับถึงจุดจบการเสียชีวิตอันน่าสยดสยองของลูก ๆ แต่ละคน นิมิตของทายาทที่เสียชีวิตไปแล้วก็คอยตามมาหลอกหลอนอยู่ร่ำไป รวมไปถึงเสียงทุบที่ดังมาจากห้องใต้ดินของบ้าน ซึ่งร็อดเดอริกเผยว่าเป็นเสียงของน้องสาวฝาแฝด แมเดอลีน อัชเชอร์

ขณะที่ร็อดเดอริกกำลังจะเข้าสู่บทสรุปของเรื่องราวหายนะที่ตระกูลเขาต้องเผชิญ ภาพก็ตัดย้อนกลับไปในช่วงปีแรก ๆ ที่เขาได้ทำงานในบริษัทยา Fortunato โดยคืนที่ตัดสินชะตาชีวิตของเขาไปตลอดกาลคือวันสิ้นปีในปี 1979 ร็อดเดอริกเผยว่าหลังจากวางแผนที่จะทรยศดูแปง ทั้งร็อดเดอริกและแมเดอลีนก็ได้ทำตามแผนการขั้นตอนสุดท้าย

พวกเขาจัดการวางยาและฝังร่างของ รูฟัส กริสวอลด์ ซีอีโอของ Fortunato ในขณะนั้นทั้งเป็นภายในกำแพงชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่ที่ตั้งบริษัทยา โดยฉากนี้ถือเป็นการยกย่องผลงานของเอ็ดการ์ที่เขียนขึ้นในปี 1846 เรื่อง The Cask of Amontillado

หลังจากที่ฝังศพซีอีโอตัวจริงแล้ว สองพี่น้องอัชเชอร์เดินทางไปที่บาร์แถวบ้าน และที่นั่นพวกเขาก็ได้พบกับ เวอร์นา บาร์เทนเดอร์สาวลึกลับที่พร้อมรับผิดชอบเรื่องการฆาตกรรมของพี่น้องอัชเชอร์ และทั้งสองฝ่ายทำข้อตกลงที่เปลี่ยนแปลงตระกูลอัชเชอร์ไปตลอดกาล

สปอยล์ตอนจบ The Fall of the House of Usher

ตระกูลอัชเชอร์ทำข้อตกลงอะไรกับเวอร์นา?

หลังจากร่ำสุราทั้งคืน สองพี่น้องตระกูลอัชเชอร์ก็เป็นเพียงคนกลุ่มเดียวที่ยังนั่งอยู่ในบาร์ ก่อนที่บาร์เทนเดอร์สาวเวอร์นาจะเปิดเผยให้แฝดอัชเชอร์รู้ว่า “เธอรู้ว่าพวกเขาทำอะไรลงไป” ดังนั้นเวอร์นาจึงยื่นข้อเสนอให้กับสองพี่น้องอัชเชอร์ โดยหากพวกเขาตกลงทำตามเงื่อนไขก็จะรอดพ้นจากคดีฆาตกรรมรูฟัส รวมถึงได้ครอบครองบริษัทยามูลค่าหลายพันล้านอีกด้วย

เพื่อการแลกเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่นี้ ทั้งร็อดเดอริกและแมเดอลีนต้องยินยอมข้อตกลงที่ว่า ก่อนที่พวกเขาจะตาย พวกเขาต้องเผชิญกับชะตากรรมอันโหดร้าย คือการเฝ้ามองดูทายาทของตัวเองจากไปอย่างไม่มีวันกลับ และสองพี่น้องฝาแฝดก็จะต้องตายไปพร้อมกันในแบบเดียวกับฉากฆาตกรรมที่ทั้งคู่ก่อไว้

สองพี่น้องเห็นด้วยกับข้อตกลงก่อนจะทำสัญญากับเวอร์นาและเดินออกจากบาร์ไป ทว่าหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นแค่เพียงอาการอุปทานหมู่ร่วมกัน

สรุปตอนจบ The Fall of the House of Usher

สรุปตอนจบ (สปอยล์) The Fall of the House of Usher

จากเรื่องราวที่ผ่านมา เห็นได้ชัดว่าเวอร์นาเป็นคนจัดการปลิดชีพเหล่าทายาทตระกูลอัชเชอร์ เหตุนี้ทำให้แมเดอลีนพยายามแหกข้อตกลงโดยการโน้มน้าวให้ร็อดเดอริกฆ่าตัวตาย แต่เวอร์นาไม่ยอมให้เป็นเช่นนั้น เธอนำเขากลับมาเผชิญหน้ากับการตายของหลานสาว เลนอร์ ทายาทหนึ่งเดียวแห่งตระกูลอัชเชอร์ที่ยังคงมีศีลธรรมอยู่ในจิตใจ

ในฉากบ้านหลังเก่าของร็อดเดอริก ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนเชิญแมเดอลีนมาที่บ้านด้วย ที่ซึ่งเขาวางแผนจะสังหารเธอ โดยหลังจากนั้นดูแปงก็เดินทางมาถึงบ้านเพื่อฟังคำสารภาพบาปของร็อดเดอริก ทว่าเสียงทุบตึงตังจากห้องใต้ดินบ่งบอกว่าแมเดอลีนยังมีลมหายใจอยู่ ซึ่งหลังจากร็อดเดอริกเล่าบาปของตัวเองจบ ทันใดนั้นแมเดอลีนก็โผล่มาในสภาพโชกเลือดและไร้ดวงตา

แมเดอลีนพุ่งเข้าโจมตีร็อดเดอริกในขณะที่บ้านเริ่มพังทลายลงมา ชะตากรรมของร็อดเดอริกถูกแมเดอลีนรัดคอจนตาย ในขณะที่ดูแปงหนีออกมาได้ก่อนที่ตัวบ้านจะพังทลายลง ซึ่งเป็นฉากที่สะท้อนตอนจบของวรรณกรรมต้นฉบับเรื่อง House of Usher ของเอ็ดการ์

ในตอนท้ายสุดของซีรีส์เรื่องนี้ เผิดเผยว่า จูโน ภรรยาคนที่ 2 ของร็อดเดอริกได้สืบทอดตำแหน่งบริษัทยา Fortunato และเปลี่ยนรูปแบบองค์กรเป็นมูลนิธิ Phoenix Foundation เพื่อเป็นทุนแก่โครงการฟื้นฟู ใขณะเดียวกันทนายความ อาร์เธอร์ พิม ผู้คอยรับใช้ตระกูลอัชเชอร์กลับกลายเป็นคนเดียวที่ต้องเผชิญหน้ากับคำพิพากษาคดีทุจริตบริษัทยา โดยเขาปฏิเสธข้อเสนอของเวอร์นาและพร้อมที่จะชดใช้กรรมในคุก

อย่างไรก็ดี คำว่า Verna (เวอร์นา) มาจากการแผลงคำในบทประพันธ์ร้อยกรองคลาสสิกของเอ็ดการ์เมื่อปี 1845 เรื่อง The Raven (อีกา) ซึ่งแสดงการวางสิ่งของไว้ที่หลุมศพของคนในตระกูลอัชเชอร์เพื่อเรียงลำดับการแสดงให้เห็นถึงความหายนะ เป็นการปิดวงจรกรรมของเธอเอง

สปอยล์ตอนจบ The Fall of the House of Usher

ข้อมูลจาก : TIME

Mothana

นักเขียนข่าวที่ Thaiger การศึกษาทางด้านภาษา จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความเชี่ยวชาญด้านมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ จึงรับหน้าที่เขียนบทความไลฟ์สไตล์บันเทิง เศรษฐกิจ อยากเป็นสื่อกลางคอยขุดคุ้ยประเด็นตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงใหญ่โตมาเขียนให้ทุกคนได้อ่าน เพราะมีความเชื่อว่าสื่อที่ดีย่อมเป็นหนทางนำผู้อ่านไปสู่งานเขียนที่ดีได้ ติดต่อได้ทาง tangmo@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button