‘โบกี้ ไลอ้อน’ ตอบสื่อชัด ปัดเกาเหลา ส้ม มารี วันนี้จริงใจต่อกัน ส่วนดราม่าโลก 2 ใบแล้วแต่คนจะคิด ตนไม่ประสงค์ชี้แจงว่าอะไรผิดหรือถูก ลั่นศิลปินอาจจะมีชีวิตส่วนตัวบ้าง วอนเสพผลงานมากกว่านิสัย
หลังมีดราม่าถูกขุดอดีตแฉไม่ยั้งที่ศิลปินสาว “โบกี้ ไลอ้อน“ ถูกโยงในประเด็นไม่กินเส้นกันระหว่างเพื่อนร่วมอาชีพอย่าง “ส้ม มารี” อีกทั้งเรื่องพฤติกรรมนอกใจอดีตแฟน ทำเอาชาวเน็ตแห่จับตาท่าทีของสาวโบกี้อยู่พักใหญ่ว่าจะออกมาตอบเรื่องนี้อย่างไร
ล่าสุดในงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง KMA ที่สยามสแควร์วัน โบกี้ ไลอ้อน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนที่เกิดขึ้น เจ้าตัวตอบว่าเป็นเรื่องในอดีต มีทั้งใช่และไม่ใช่ ลั่นหากผิดจริงแค่เรื่องเดียวก็รู้สึกเหนื่อยที่ต้องมาจำแนกทีละอย่าง
“เรื่องจริงก็จะมีเรื่องที่ในชีวิตก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นเหตุการณ์ในอดีตมีการตัดสินใจที่ผิดพลาดของตัวเองในเรื่องส่วนตัว ซึ่งเรื่องไหนจะไม่มานั่งแยกแยะนะ ในส่วนของเรื่องไม่จริงมันก็มี
สมมติผิดหนึ่งอย่างแต่คนกล่าวมาว่าผิด 9 อย่าง ถ้าเราไม่ได้ผิด 9 อย่างแต่เราผิดอันนึงอย่างน้อยมันก็ผิดจริง ๆ แต่เป็นการผิดด้วยประเด็นส่วนตัวที่ไม่เกี่ยวข้องกับสาธารณชนเลย พอผิดอย่างนึงปุ๊บก็คิดว่า 3 4 5 6 7 8 9 ที่ไม่เป็นความจริง เราไม่ได้กระทำอันนั้นจริง ๆ เลยรู้สึกว่าถ้าไปบอกว่าเราไม่ได้ผิดอันนี้ ๆ แต่ฉันผิดข้อหนึ่ง มันน่าเหนื่อยมาก ๆ ที่จะต้องไปแก้ไขอะไรที่ไม่ได้ผิด ทั้งๆ ที่เรามีความผิดอยู่จริง ๆ เหมือนกัน”
นักข่าวถามว่าตอนแรกอ่านแล้วรู้สุกไหมว่าโยงมาถึงเรา
“มีจุดที่รู้สึกว่าอ่านดูดีกว่า กับจุดที่รู้สึกว่าไม่ใช่แล้ว อ่านไม่ไหวแล้ว บางเรื่องก็ไม่รู้จะเข้าไปแก้ยังไง เพราะตัวโบเองไม่ได้มีความสามารถที่จะไปกลั่นกรองข่าวให้ผู้เสพข่าวทราบว่า ‘อันนี้เรื่องจริงนะคะ ของโบเองเป็นเรื่องจริงค่ะ กับอันนี้ไม่จริงนะคะ’ เพราะว่ามันก็มีเรื่องที่ผิดอยู่จริง ๆ ซึ่งเรื่องที่ผิดมันค่อนข้างเป็นเรื่องส่วนตัวสุด ๆ ยอมรับว่าเรื่องงานหรือเรื่องอะไรแบบนี้ไม่ได้มีผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่ตัดสินใจผิดพลาดและเป็นอดีตที่ผ่านมาแล้ว”
โบกี้กล่าวย้ำว่า “บุคคลที่ควรได้รับการแก้ไข โบได้ทำการแก้ไขจบสิ้นทั้งหมดแล้ว เรียกได้ว่าเรื่องต่าง ๆ ที่ได้ทำความผิดได้ถูกแก้ไขไปในตัวของมัน ตัวโบเองรวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องถูกแก้ไขไปทั้งหมดแล้ว ซึ่งได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง ตามแบบฉบับที่ควรจะเป็น การแก้ไขจบสิ้นทั้งหมดแล้ว ก็รู้สึกว่าไม่ได้จะต้องออกมาแก้ตัวหรืออะไร”
“ถามว่ามีเรื่องที่ผิดจริงมีไหม มี แต่ถามว่าผิดทั้งหมดไหม เราก็เห็นอยู่ว่าบางเรื่องมันไม่เป็นความจริงเลย เพราะฉะนั้นการออกมาสัมภาษณ์ใด ๆ ก็ตาม โบจะถือซะว่าออกมาน้อมรับคำพิพากษาทุกชนิดที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง ยินดีที่จะขอโทษทุกอย่าง ไม่ว่าตัวเองผิดหรือไม่ผิด คนจะตัดสินยังไงก็แล้วแต่วิจารณญาณ
อยากให้ทุกเสพข่าวอย่างมีสติมาก ๆ จริงๆ ไม่ว่าโบจะเป็นยังไงหรือว่าจะส่งผลชื่อเสียงด้านไหนในอนาคต โบแล้วแต่จินตนาการของคนที่เสพข่าวรวมถึงเจตนาด้วยดีกว่า โบเองไม่อยากมานั่งแก้ข่าวว่าผิดข้อนี้นะ ข้อนี้ไม่ได้ผิด ไม่ว่าหลังจากนี้ทุกคนจะพิพากษายังไง หรือข่าวใด ๆ จะเกิดขึ้นหลังจากนี้หรืออะไรก็ตามขอให้มันได้เกิดขึ้นไปเลยค่ะ ขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ขอโทษทุกคนที่ทำให้มาเสียเวลากับเรื่องนี้ รวมถึงในอนาคตผลงานเพลงก็จะตั้งใจทำงานเหมือนเดิม อะไรที่มีการติชมเรื่องการทำงาน เรื่องเพลงก็ยังจะตั้งใจทำเหมือนเดิม ยืนยันว่าจริงใจกับเพลงที่ทำเหมือนเดิม”
นักข่าวถามว่าระหว่างโบกี้กับส้ม มารีเป็นอย่างไร เธอตอบว่า “เอาจริง ๆ มันก็ปกติ แอบไม่เข้าใจว่าเรื่องนี้มาเป็นประเด็นได้ยังไงเพราะจริง ๆ แล้วทั้งสองคนไม่ได้มีอะไรต่อกัน แต่หลังจากเกิดกระแสก็ได้เคลียร์กันว่ามีการเข้าใจผิดกัน”
โบกี้ยอมรับว่าก่อนหน้าคอนเสิร์ตได้มีการเคลียร์ไปแล้ว ทุกคนที่เคยผิดพลาดหรือผิดใจอะไรกันมาก็ได้ขอโทษกันและไม่มีอะไร จากนั้นนักข่าวถามว่า แสดงว่าที่ผ่านมาก็มีเรื่องที่ผิดใจกัน?
เรื่องนี้เธอบอก “ไม่ได้อะไรขนาดนั้นมันเรียกได้ว่าเป็นเรื่องปกติที่มันเกิดขึ้น ก็มีการเข้าใจผิดกัน”
“จริง ๆ มันไม่ได้เป็นการเคลียร์เนอะ มันเป็นการพูดคุยกันระหว่างก่อนเกิดคอนเสิร์ต ทุกคนมานั่งเปิดใจร้องไห้กันหมดแล้วมีข่าวในช่วงนั้นพอดีว่าเกิดอันนี้ขึ้น เราก็เออ..อะไรที่ถ้าเราไม่เข้าใจเขาในอดีตก็ขอโทษด้วย จริงๆ มันไม่ใช่เรื่องที่จะต้องเป็นประเด็นขนาดนั้น แต่อย่างที่บอกคือจะไม่ชี้แจงว่าอันไหนจริงไม่จริง เพราะรู้สึกว่าสมมติมีคนติดตาม 1 ล้านคน โบไม่สามารถไปชี้บอกเขาได้ว่า 1 ล้านคนคะอันนี้เรื่องจริงค่ะ อันนี้เรื่องไม่จริง รบกวนเสพอันนี้ด้วย” โบกี้กล่าว
“ปัจจุบันนี้ตั้งใจทำผลงานมาก คนก็เสพผลงานด้วยค่ะอย่าเสพนิสัยหนู ถ้าดูไม่ดีไม่ต้องเสพค่ะนิสัย แต่เอาเป็นว่าปกติค่ะ”
การเคลียร์ใจกันทำให้คอนเสิร์ตผ่านไปได้ด้วยดีด้วยหรือเปล่า?
โบกี้ตอบ “มันไม่ได้เกี่ยวข้องที่จะต้องผ่านหรือไม่ผ่าน ทุกคนมีเจตนาที่จะทำสิ่งนี้ให้ดีที่สุดไม่เกี่ยวว่าเคลียร์ใจเรื่องนี้ ไม่เกี่ยวว่าฉันทะเลาะกับเธอแล้วเธอต้องอันนี้ ๆ มันไม่ใช่
นักข่าวถามต่อถึงสิ่งที่เกิดขึ้นบนเวที พวกโมเมนต์ต่าง ๆ โบกี้ตอบว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นบนเวทีทุกอย่างเป็นเรื่องจริงค่ะ พี่ ๆ (นักข่าว) น่าจะอยากรู้คำตอบที่ตรงไปตรงมาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันแสดงหรือเรื่องจริง คือมันไม่มีสคริปต์ หมายความว่ามันอาจจะมีสคริปต์ว่าเราต้องบล็อกกิ้งยังไง แต่คนเรามันไม่สามารถเดินไปกอดกันด้วยความที่แบบ เข้าใจไหม มันเกิดการตกผลึกกันแล้วว่าชีวิตเราเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทุกอย่างเป็นความจริงค่ะมันไม่จำเป็นต้องเดินไปแล้วฉันจับมือเธอ ฉันไม่ได้เล่นละครอยู่”
สำหรับเรื่องโลก 2 ใบโบกี้บอกว่า “ต่อให้สร้างโลกกี่ใบแต่ทุกคนไม่ได้เข้าไปอยู่ในนั้น นี่คืออันดับแรก โบไม่ได้บอกว่าโบจะมาสร้างโลกสองใบนะ แต่อันนี้คือการที่โบจะไม่นั่งชี้แล้วว่าโบผิดอะไร เหรียญมีสองด้านใช่ปะ แต่โบไม่ได้เป็นเหรียญโบเป็นคน เพราะฉะนั้นโบจะปล่อยให้ความจริงมันเป็นด้านเดียวแบบนี้โดยที่จะไม่ออกมาตอบโต้อะไร รวมถึงไม่ประสงค์ที่จะบอกความจริงและชี้แจงอีกว่าอันไหนคือผิดหรืออันไหนคือไม่ผิด เพราะฉะนั้นแล้วแต่คนเสพข่าวจินตนาการคิดว่าประเด็นไหนผิดจริง ประเด็นไหนไม่ผิด”
“สิ่งนั้นมันผ่านมาแล้วแล้วเราก็แก้ไขตัวเองทุกอย่างที่ควรจะทำไปแล้ว ถามว่าติดใจไหมเหรอ ทำอะไรผิดมันก็คงติดใจแต่หนูรู้สึกว่าต่อให้เราจะมีผลงานแต่เราก็มีชีวิตส่วนตัว (ยิ้ม) ที่เราอาจจะอะไรของเราบ้าง อย่างที่บอกหนูอยากให้ทุกคนเสพผลงานอย่าเสพนิสัยหนูค่ะ”
หลังสัมภาษณ์ไปถ้าจะขุดเพิ่มก็ได้หมด ไม่รู้จะรับมือได้ไหมแต่ดีใจที่ได้พูดแล้ว “หนูไม่รู้เลยค่ะ แต่ว่าได้หมดเลย หนูไม่รู้หนูรับมือได้ดีไหม ตอนนี้แล้วหนูก็ไม่รู้ที่หนูพูดไปมันมีอะไรถูกไม่ถูกแต่ว่าหนูก็ดีใจที่ได้พูดในความเห็นของหนูซึ่งความเห็นของหนูก็จะไม่พูดอะไรไม่แก้ตัวอะไร”
ส่วนกับส้ม มารียังร่วมงานกันได้ปกติ บอกทุกคนอย่าห่วงพวกหนูห่วงตัวเองดีกว่า
“ร่วมค่ะ อย่าเป็นห่วงพวกหนูเลยค่ะ (หัวเราะ) ทุกคนต้องห่วงตัวเองกันก่อนไม่ต้องเป็นห่วงพวกหนู พวกหนูปกติโอเคกันดีค่ะ เอาจริงไม่ว่าใครเขาจะถูกกันหรือไม่ถูกกันเขาร่วมงานกันได้อยู่แล้ว แล้วหนูเองก็ไม่ได้บอกว่าไม่ถูกกัน แต่หมายถึงว่าอันนี้มันเป็นเรื่องปกติของการทำงาน มันจบมันเคลียร์ใจทุกอย่างโอเคมาก ๆ”
รับข่าวนี้มีผลกระทบเยอะ โดยเฉพาะกับจิตใจ
“จริง ๆ ก็มีเยอะค่ะ อย่างที่สำคัญสุดน่าจะเป็นจิตใจค่ะ แต่ว่าตอนนี้ได้พูดอะไรแบบนี้ไปแล้ว ก็ถือว่าโอเคมากๆ แล้วค่ะ”
