เตรียมพบปรากฏการณ์ สุริยุปราคาวงแหวน หรือ วงแหวนแห่งไฟ รับชมพร้อมกันได้ในสหรัฐอเมริกาและประเทศในทวีปอเมริกากลาง วันนี้ 14 ต.ค. 66 พร้อมเผยกำหนดการสุริยุปราคาครั้งถัดไปเกิดขึ้นเมื่อไหร่
ชวนมองท้องฟ้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ สำหรับสุริยุปราคา หรือสุริยคราส หนึ่งในปรากฏการณ์ที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก จะโคจรมาเรียงกันอยู่ในแนวเดียวกัน ทำให้ดวงอาทิตย์มืดบางส่วน และเป็นวงแหวน จนกลายเป็นปรากฏการณ์ สุริยุปราคาวงแหวน หรือที่รู้จักกันดีว่า วงแหวนแห่งไฟ
ในวันที่ 14 ตุลาคม 2566 เข้าสู่ช่วงที่มีปรากฏการณ์ธรรมชาติสุริยคราส ประชากรที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาจะได้พบกับวงแหวนแห่งไฟ ปรากฏการณ์สำคัญบนท้องฟ้าที่หาชมได้ยากยาก ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เพียงเท่านั้น สามารถพบได้ในบริเวณทางตะวันตกของสหรัฐฯ อเมริกากลาง และอเมริกาใต้
เส้นทางของสุริยุปราคาวงแหวนในครั้งนี้ องค์การนาซา สหรัฐฯ ระบุว่า ปรากฏการณ์วงแหวนแห่งไฟในวันเสาร์นี้ จะเกิดขึ้นเพียงระยะเวลา 5 นาทีเท่านั้น สามารถเห็นเป็นแนวกว้างในระยะกว่า 210 กิโลเมตร เริ่มต้นในพื้นที่เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก จากนั้นจะเข้าสู่สหรัฐฯ ที่รัฐโอเอกอน และมุ่งหน้าไล่ลงผ่านรัฐเนวาดา ยูทาห์ นิวเม็กซิโก เท็กซัส
แถมยังครอบคลุมไปยังพื้นที่ในรัฐไอดาโฮ แคลิฟอร์เนีย อริโซนา จนถึงโคโลราโด และจะผ่านคอร์ปัส คริสตี เมืองชายฝั่งทะเลทางทิศใต้ของรัฐเท็กซัส ที่ตั้งอยู่บนอ่าวเม็กซิโก และจะโลดแล่นไปยังบริเวณคาบสมุทรยูกาตันในเม็กซิโก เบลีซ ฮอนดูรัส นิการากัว คอสตาริกา ปานามา โคลอมเบีย และสุดท้ายคือบราซิล ก่อนจะสิ้นสุดลงที่บริเวณเหนือมหาสมุทรแอตแลนติก
ปรากฏการณ์สุริยคราสครั้งนี้ มีประชากรมากกว่า 6.5 ล้านคนที่ตั้งตารอคอยปรากฏการณ์ธรรมชาติ อเล็กซ์ ล็อกวู้ด นักวิทยาศาสตร์ด้านดาวเคราะห์จากองค์กรนาซ่ากล่าวว่า “หากขับรถเพียงสั้น ๆ ในระยะเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ก็จะมีผู้คนกว่า 70 ล้านคนได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติในครั้งนี้”
แต่น่าเสียดายที่การรับชมสุริยคราสครั้งนี้ แม้คนทั่วทวีปอเมริกาจะสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ในฮาวายกลับไม่สามารถเห็นวงแหวนไฟได้อย่างชัดเจน หากในวันนี้ท้องฟ้าเปิดที่แถบแคนาดา อเมริกากลาง และอเมริกาใต้ ส่วนใหญ่ก็จะได้เห็นสุริยุปราคาบางส่วนเช่นกัน ยิ่งเข้าใกล้วงแหวนแห่งไฟ ดวงจันทร์ก็จะยิ่งโผล่ออกมาจากดวงอาทิตย์มากขึ้นเท่านั้น
สำหรับปรากฏการณ์สุริยุปราคา หรือวงแหวนแห่งไฟ จะเกิดขึ้นอีกครั้งแบบเต็มดวงในอีก 6 เดือนข้างหน้า หรือในวันที่ 8 เมษายน 2567 สามารถมองเห็นได้ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกาและแคนาดา หากพลาดครั้งนี้ไปคงต้องรอดูอีกทีในปีหน้าเลยนะ
