‘โชค รถแห่’ เปิดใจหลังหย่าเมีย บทเรียนชีวิตครั้งนี้ เจ็บจนร้องไห้ กินข้าวไม่ลง
‘โชค รถแห่’ เปิดใจพูดถึงบทเรียนครั้งใหญ่ในชีวิต หลังตัดสินใจหย่า ‘นัส จุฑารัตน์’ เจ็บหนักจนร้องไห้ เครียดหนัก กินข้าวแทบไม่ลง
ถือเป็นข่าวใหญ่ของโลกบันเทิงอยู่ไม่น้อย สำหรับประเด็นรักร้าวของคู่รักนักร้องลูกทุ่งอินดี้ ‘โชค รถแห่’ และอดีตภรรยา ‘นัส จุฑารัตน์’ ที่ก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงได้ออกมาแฉว่าโชคนอกใจหลายครั้ง อีกทั้งยังแจ้งความจับนัสในข้อหาหมิ่นประมาท แถมฝ่ายชายยังได้บุกมาไลฟ์สดที่หน้าบ้านของนัส จึงเป็นเหตุให้ทั้งคู่ตัดสินใจหย่ากันในทันที
ล่าสุด โชค รถแห่ ได้ออกมาเปิดใจครั้งแรกในรายการ โต๊ะหนูแหม่ม ถึงประเด็นร้อนหย่าอดีตภรรยา นัส จุฑารัตน์ งานนี้พิธีการอย่าง หนูแม่ม สุริวิภา ได้เปิดโหมดยิงคำถามแบบจัดเต็มจนต้องร้องซี๊ดเลยทีเดียว
ตอนนี้เปลี่ยนชื่อจากโชค รถแห่เป็น โชค ไหทองคำแล้ว?
“ก็ตั้งแต่มีดราม่า และช่วงนั้นก็กำลังว้าเหว่อยู่ว่าเราจะไปทางไหนดี หาคิดทางออกไม่รู้ว่าจะไปทางไหนดี จะรับงานเองหรือว่าจะไปหาผู้จัดการหรือว่าจะไปอยู่ค่าย พอดีเป็นจังหวะเหมาะเจาะที่นายห้างโทรเข้ามาพอดี ก็เลยได้นัดคุยกัน เลยได้มาอยู่ด้วยกัน”
พอเข้ามาอยู่ค่ายปุ๊บ นายห้างถอยรถใหม่ให้ 2 คันเลย?
“คือทุกวันนี้ผมยังไม่เคยมีรถตู้เป็นของตัวเอง เวลาไปงานจะเช่ารถตู้ ก็เลยพูดเรื่องนี้ให้นายห้างฟัง นายห้างก็เลยบอกว่าถ้าโชคมาเซ็นสัญญาปุ๊บเดี๋ยวออกรถให้เลย เพื่อจะรับงานได้สะดวก”
พอได้รถมา รับงานเต็มทุกวันไหม?
“งานน่าจะเริ่มเต็มเดือนหน้า เดือนหน้าเต็มแล้วครับ ตอนนี้ก็มีประปรายบ้าง”
หัวใจข้างในแข็งแรงพอที่จะรับงานได้กี่เปอร์เซ็น?
“สำหรับเรื่องงาน ผมว่าหัวใจผมพร้อม 100 เปอร์เซ็นครับ เพราะว่าผมเป็นคนแยกแยะได้ แต่ถ้าเรื่องส่วนตัวมันก็อาจจะมีเอามาคิดบ้าง เอามานอนคิดบ้าง ทำใจบ้าง แต่พอเวลาทำงานเราก็ทำเต็มที่มากครับ ไม่มีบกพร่องแน่นอน”
จบเรื่องความสัมพันธ์หย่าเมียยังไง?
“ก็ตามที่ข่าวออกไปครับ หลังจากนี้ก็คือทำหน้าที่พ่อที่ดี กับลูกถ้ามีเวลาก็จะไปหาลูก ซื้อของไปให้ลูกบ้าง แล้วก็อาจจะต้องส่งเงินให้ลูกทุกเดือน แต่ทางครอบครัวเขาบอกว่าแล้วแต่เรานะ เราจะส่งก็ได้ไม่ส่งก็ได้ แต่ผมรู้สึกว่าผมทำงานผมส่งให้ลูกแน่นอน”
ได้รับบทเรียนอะไรจากการตัดสินใจเรื่องนี้?
“ผมได้รับบทเรียนอะไรหลายอย่างมาก ๆ เลยครับที่ถาถมเข้ามา ในช่วงที่ผมมีปัญหาชีวิตหย่ากับภรรยา ทั้งดราม่าเอย ทั้งคนว่านู้นนี่นั่น หลายอย่างมากเลย บ้างครั้งบ้างที เรื่องบ้างเรื่องมันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนของครอบครัว บางครั้งผมก็ไม่สามารถที่จะอธิบายอะไรให้ทุกคนฟังให้ทุกคนเข้าใจได้ บางทีมันอาจจะมีอะไรภายในลึก ๆ แต่ผมไม่อยากพูดถึงตรงนั้น เขาก็เป็นแม่ที่ดีของลูกอยู่แล้ว
ถามว่าบทเรียนที่ผมได้รับคืออะไร มีหลายอย่างมาก ๆ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต หรือว่าเรื่องอารมณ์ ก็ตั้งแต่เลิกกับแม่ของลูกไป เราแทบจะไปต่อไม่ได้ ข้าวแทบไม่ได้กินเลย กลุ้มมอยู่ตั้งหลายวัน ทั้งกลุ้ม ทั้งเครียด บางทีอาจจะมีร้องไห้บ้างคนเดียว ก็เลยคิดว่าต่อไปนี้เราจะต้องวางแผน จะคิดอะไรก็ต้องคิดหน้าคิดหลัง ถ้าเราตัดสินใจไปแล้วมันไม่สามารถกลับมาย้อนหลังได้ บางทีเราใช้อารมณ์ตัดสินใจอะไรไปโดยไม่ได้ยั้งคิด
อีกอย่างหนึ่งคือเรามีประสบการณ์ชีวิตน้อยด้วย เรื่องทำงานผมมีประสบการณ์ชีวิตเยอะมาก แต่เรื่องชีวิตส่วนตัวผมอาจจะมีน้อยมาก ๆ บทเรียนครั้งนี้ก็คือครั้งแรกในชีวิตเลยที่หนักหน่วง”
มาอยู่กับนายห้างเป็นยังไงบ้าง?
“อันดับแรกเลยคือเรื่องการใช้ชีวิต เรื่องการทำงานและเรื่องการวางตัว อีกอย่างเลยคือเรื่องผลงานเพลงอันนี้สำคัญมาก เขาก็ให้คำแนะนำว่าช่วงนี้เราอาจจะต้องทำเพลงออกมาบ่อยขึ้น เพื่อที่จะให้เอฟซีและแฟนคลับติดตาม”
การดูแลตัวเองกับการมีค่ายแตกต่างกันยังไงบ้าง?
“การที่อยู่ค่ายมันก็สบายใจหลายเรื่อง หลายอย่างมาก ๆ เรามีหน้าที่เตรียมตัวให้พร้อมกับการลุยคอนเสิร์ตกับการทำงาน และก็ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี ไม่เจ็บไม่ป่วย ผมจะต้องทำงานให้เต็มที่ อยากอยู่ตรงนี้ให้ได้นานที่สุด เพราะว่าผมมีพ่อแม่และลูกที่ต้องดูแล ก็เลยอยากจะรักษาโอกาสตรงนี้ให้ดีที่สุด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสดี ๆ แบบนี้อีกไหม ชีวิตคนเราก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสดี ๆ แบบนี้อีกสักกี่ครั้ง”
ภาพจาก Instagram : chol889
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง