อัปเดตล่าสุด เงินดิจิทัล 10,000 บาท ต้องลงทะเบียน ยืนยันตัวตนด้วย ร้านค้าเริ่มกลางเดือนพฤศจิกายน ประชาชนรอเร็ว ๆ นี้ เผยใช้ผ่านแอปพลิเคชั่นใหม่ แต่ยังไม่มีชื่อ
ได้เงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท ต้องลงทะเบียนก่อน
ความคืบหน้าหนึ่งในโปรเจกใหญ่กระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลเพื่อไทยอย่าง “เงินดิจิทัล 10,000 บาท” ที่ตอนแรกกำหนดคุณสมบัติแจกถ้วนหน้าประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไป ใช้จ่ายผ่านบล็อกเชนนั้น ล่าสุด นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกมาชี้แจงว่า คนที่จะได้รับเงิน 1 หมื่นบาท จะต้องมีการยืนยันตัวตัว (KYC) แบบโครงการรัฐในอดีต เช่น เราชนะ เป็นต้น
หลักการในการยืนยันตัวตนคือต้องใช้บัตรประชาชนและใบหน้า เบื้องต้นมีฐานข้อมูลเดิม 40 ล้านคน และยังมีผู้อยู่นอกกระบวนการอีก 10 ล้านคน
ส่วนกำหนดการเริ่มต้นโครงการ จะใช้เงินได้เริ่มในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 โดยจะเปิดให้ร้านค้าเริ่มลงทะเบียนกลางเดือนพฤศจิกายน รายละเอียดรอเปิดเผยเร็วๆ นี้ ส่วนการจ่ายเงินให้ประชาชนไม่มีแบ่งจ่าย จะจ่ายทีเดียว 1 หมื่นบาท เพราะเป้าประสงค์โครงการคือเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
ส่วนบล็อกเชน (Blockchain) เป็นการรวบรวมข้อมูลที่ปลอดภัย แต่การใช้งานจะทำผ่านกลไกอื่น ๆ ในแอปพลิเคชั่นปกติ ซึ่งตอนนี้มีแอปเคชั่นใหม่แล้วแต่ยังไม่มีชื่อเรียก
ยังไม่ยืนยันขยายรัศมีจาก 4 กิโลเมตร เป็นครอบคลุมระดับจังหวัด
นอกจากนี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยังได้พูดถึงรัศมีการใช้งานเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่มีกระแสข่าวว่าจะขยายครอบคลุมระดับจังหวัด โดยได้กล่าวว่า ปัจจุบันมีความโน้มเอียง แต่ขึ้นอยู่กับกรรมการพิจารณา ซึ่งเปิดรับฟังความเห็นจากทุกฝ่าย
ด้านการจ่ายเงิน นายจุลพันธ์ ยืนยันจะจ่าย 10,000 บาทตามที่แจ้งไป แม้จะมีบางส่วนเสนอเรื่องการแบ่งจ่าย ซึ่งตนมองว่าหากทยอยจ่ายจะไม่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ และไม่ต่างจากโครงการรัฐในอดีต โดยรัฐบาลมีความหวังให้เกิดการลงทุนมาขึ้นด้วย.
ได้เงินมาแล้วใช้อะไรได้บ้าง
เงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น นายจุลพันธ์ย้ำว่า สามารถใช้ซื้อของที่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภคกับร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการได้ แต่ไม่สามารถแลกเป็นเงินสดหรือเก็บไว้เป็นเงินออมได้ เพราะต้องใช้ให้หมดภายใน 6 เดือน ถ้าเกินกว่านั้นทางรัฐบาลจะดึงเงินกลับคืน นอกจากนี้ยังไม่สามารถนำเงินดิจิทัล ไปใช้หนี้หรือซื้อของที่เกี่ยวข้องอบายมุขได้เช่นกัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง