ครอบครัวในฉนวนกาซา เล่า ทุกวันนี้นอนด้วยกัน ถ้าตายก็ตายด้วยกัน
ครอบครัวในฉนวนกาซา เล่า อาศัยด้วยความกลัว ทุกวันนี้นอนด้วยกัน ถ้าตายก็ตายด้วยกัน ชี้อิสราเอลโหดร้าย ลงโทษประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม สำนักข่าว BBC ได้สัมภาษณ์นาง บูชา คาลิดี หญิงที่มีครอบครัวอาศัยในฉนวนกาซา โดยเธอกล่าวว่าครอบครัวของเธออาศัยในพื้นที่นี้มาเป็นปี และอาศัยอยู่ใต้การปิดล้อมของทหารอิสราเอล ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถออกจากพื้นที่ดังกล่าวหรือออกไปเรียนหนังสือได้
โดยเธอเล่าว่าขณะนี้ครอบครัวเธอไม่มีน้ำ ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำมัน และเสบียงอาหารเหลือน้อยลงทุกที นอกจากนี้การติดต่อกับครอบครัวก็เป็นไปอย่างยากลำบาก เนื่องจากอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายมือถือไม่สามารถใช้งานได้ในฉนวนกาซา
นาง คาลิดี แสดงความเห็นว่าสถานการณ์การปิดกั้นครั้งนี้เลวร้ายมาก และระบุว่าการตัดสินใจของอิสราเอลที่ลงโทษประชาชนทั้งหมดเป็นการตัดสินใจที่โหดร้ายมาก
“หลานชายของดิชั้นอาศัยด้วยความหวาดกลัว ทั้งชีวิตเขารู้จักแค่การถูกปิดล้อมและสงคราม พวกเขาไม่ยอมไปไหนโดยไม่มีแม่ แม้ว่าจะอยู่ในบ้านก็ตาม พวกเขาบอกดิชั้นว่า พวกเรานอนอยู่ด้วยกัน เพราะถ้าตายจะได้ตายด้วยกัน”
ขณะที่หน่วยงานอ๊อกแฟม (Oxfam) หน่วยงานช่วยเหลือประชาชนที่ตั้งอยู่ในเวสต์แบงก์ กล่าวว่าประชาชนในฉนวนกาซาหลายคนบอกว่าการทิ้งระเบิดของอิสราเอลไม่เคยเลวร้ายเท่านี้มาก่อน
จากความรุนแรงครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้วมากกว่า 1,000 ศพ แบ่งเป็นถูกสังหารในอิสราเอลอย่างน้อย 700 ศพ และมีมากกว่า 570 ศพที่ถูกสังหารในกาซาและเวสต์แบงก์
เผยข้อความสุดท้าย ก่อนครอบครัวชาวยิว 5 ชีวิตถูกสังหารโดยกลุ่มฮามาส
คู่สามีภรรยาอิสราเอล ซ่อนลูกแฝด 10 เดือน ก่อนถูกกลุ่มฮามาสสังหารในบ้านพัก
‘ฮามาส’ ฮึ่มจะประหารชีวิตตัวประกัน หากอิสราเอลโจมตีพลเรือนในฉนวนกาซ่า