ข่าวข่าวการเมือง

ทางการ ‘ปดิพัทธ์’ แถลงร่วมงานพรรคเป็นธรรม ‘กัณวีร์’ ตอบปมโดนมองเป็น ก.ก. สาขา 2

หมออ๋อง ปดิพัทธ์ ย้ายร่วมพรรคเป็นธรรมอย่างเป็๋นทางการ โดยมี ปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรค กัณวีร์ เลขาธิการ ร่วมตั้งโต๊ะแถลง ยันชัดไม่ใช่พรรคสาขาของใคร

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 พร้อมด้วย นายปิติพงศ์ เต็มเจริญ หัวหน้าพรรคเป็นธรรม นายกัณวีร์ สืบแสง เลขาธิการพรรคเป็นธรรม ร่วมกันแถลงข่าววันนี้ (10 ต.ค. 66) เวลา 10.00 น. ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภาว่า ตามที่เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 66 พรรคก้าวไกลมีมติขับ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ออกจากการเป็นสมาชิกพรรค และจากนี้ไปต้องหาสังกัดพรรคการเมืองให้ได้ภายใน 30 วันนั้น จึงจะสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรคเป็นธรรม ซึ่งเป็นพรรคที่มีแนวทางในการดำเนินการทางการเมืองคล้ายกัน

โดยเน้นย้ำว่า มีเหตุผล 3 ข้อ คือ 1. สนับสนุนการปฏิรูปรัฐสภาให้โปร่งใส มีประสิทธิภาพสูง และเป็นของประชาชน 2. ผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จากประชาชน และข้อที่ 3. สนับสนุนกระบวนการสันติภาพที่แท้จริงในภาคใต้

นอกจากนี้ยังแถลงร่วมกันถึงการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น รัฐธรรมนูญกำหนดให้วางตนเป็นกลาง ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ควบคุมการรักษาความสงบเรียบร้อยในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตลอดถึงดำเนินการใดๆ อันเป็นประโยชน์ต่อกิจการของสภาผู้แทนราษฎร

ด้าน นายปิติพงศ์ กล่าวในฐานะหัวหน้าพรรคเป็นธรรมว่า วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีของพรรคเป็นธรรม เรามีความภูมิใจและได้รับเกียรติจากรองประธานสภาฯ มาร่วมงานกัน พรรคเป็นธรรมนั้นมีแนวทางที่ชัดเจนในการเดินตามอุดมการณ์ ได้แก่ ประชาธิปไตย ประเทศชาติ ประชาชน ด้วยความเป็นธรรม ดังนั้น เมื่อทำงานร่วมกันกับรองประธานสภาฯ ก็หวังอย่างยิ่งว่าการทำงานของพรรคหลังจากนี้ จะมีบริบทด้านการบริหารกิจการสภาเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

สำหรับขั้นตอนการสมัครสมาชิกพรรคหลังจากนี้ เมื่อปดิพัทธ์ได้ส่งเอกสารสมัครสมาชิกพรรค จะมีนายทะเบียนพรรคเป็นผู้รับมอบใบสมัครและตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมาย จากนั้นจะเข้าสู่การรับรองของคณะกรรมการบริหารพรรค เหตุผลที่ต้องมีขั้นตอนนี้ เพราะปดิพัทธ์ไม่ใช่สมาชิกทั่วไป มีตำแหน่งรองประธานสภาฯ จึงต้องให้กรรมการบริหารพรรคเป็นผู้รับทราบตามข้อบังคับของพรรคเป็นธรรม

โดยในวาระที่ปดิพัทธ์ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ได้พูดคุยกันแล้วว่าปดิพัทธ์จะไม่สามารถเป็นกรรมการบริหารพรรคหรือมีตำแหน่งใด ๆ ในพรรคได้ จะสนับสนุนการทำงานของพรรคในนามสมาชิกพรรคเท่านั้น

ส่วน กัณวีร์ กล่าวว่า การทำงานของพรรคเป็นธรรมนั้นชัดเจน ในการทำการเมืองที่ตรงไปตรงมา ไม่บิดเบี้ยว เราจะทำให้ทุกคนเห็นว่าต่อไปนี้ระบอบประชาธิปไตยในประเทศไทยจะสามารถปักหลักปักธง ปดิพัทธ์จะทำหน้าที่รองประธานสภาคนที่ 1 ด้วยความโปร่งใส เป็นกลาง และเป็นธรรม ไม่มีการเลือกข้าง เป็นการทำงานของพรรคร่วมฝ่ายค้านเชิงรุกที่จะตรวจสอบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล ทำให้การบริหารราชการแผ่นดินมีประสิทธิภาพมากขึ้น นี่เป็นสิ่งที่เรามุ่งหวังและประชาชนจะเห็นต่อไปเร็ว ๆ นี้

ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคเป็นธรรมจะถูกมองเป็นพรรคสาขาของพรรคก้าวไกลหรือไม่ กัณวีร์ กล่าวว่า ตอนหาเสียง พรรคก้าวไกลและพรรคเป็นธรรมก็แข่งขันกันมา ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เราชัดเจนว่าร่วมอุดมการณ์กันก็จริง แต่เรื่องการหาเสียงหรือการทำงานทางการเมืองนั้น พรรคเป็นธรรมเรามีจุดยืนของตัวเอง ทำให้ประชาชนเห็นชัดเจนว่าเราไม่ใช่พรรคสาขา แต่เราทำงานเป็นตัวเลือกให้พี่น้องประชาชน ดังนั้น เชื่อว่าพรรคสาขาไม่น่าจะเป็นคำถามของสังคม เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำงานของพรรคร่วมอุดมการณ์ ในการสร้างประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นในประเทศไทย เป็นสิ่งที่ประชาชนจะมั่นใจและภูมิใจในการทำงานของเราได้.

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button