เผยสถิติ “ไข้หูดับ” โคราช ยอดผู้ป่วย 55 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย
เผยสถิติ “โรคไข้หูดับ” โคราช ยอดผู้ป่วย 55 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ในไทยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 25 กันยายน 2566 เสียชีวิตแล้ว 19 ราย เผยอาชีพเสี่ยงติดโรค
วันที่ 7 ตุลาคม 2566 นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ป่วย โรคหูดับ ในประเทศไทย มากถึง 436 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ราย นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 25 กันยายน 2566
ไทยพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับที่จังหวัดเชียงใหม่ 1 ราย, จังหวัดน่าน 1 ราย, จังหวัดตาก 2 ราย, จังหวัดอุตรดิตถ์ 2 ราย, จังหวัดกำแพงเพชร 1 ราย, จังหวัดอุทัยธานี 2 ราย, จังหวัดนครปฐม 2 ราย, จังหวัดสมุทรสาคร 1 ราย, จังหวัดมหาสารคาม 2 ราย, จังหวัดหนองคาย 1 ราย, จังหวัดนครราชสีมา 3 ราย และจังหวัดชัยภูมิ 1 ราย
ผู้ป่วยโรคไข้หูดับในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 30 กันยายน 2566 พบผู้ป่วยจำนวน 109 คน แยกเป็นที่จังหวัดนครราชสีมา 4 ราย และจังหวัดชัยภูมิ อีก 1 ราย
นอกจากนี้พบว่า จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วยไข้หูดับ 55 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 4 ราย จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วย 11 ราย จังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 10 ราย เสียชีวิต 1 ราย และจังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 3 ราย
อาชีพที่พบผู้ป่วยโรคไข้หูดับสูงสุดคือ เกษตรกร ร้อยละ 32.11 รองลงมาคือ รับจ้าง ร้อยละ 31.19 และทำงานบ้าน ร้อยละ 12.84 สาเหตุของโรคเกิดจากการรับประทานเนื้อหมู หรือเลือดหมูสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ลาบหมูดิบ ลาบเลือดดิบ ที่มีเชื้อสเตปโตค็อกคัสซูอิส (Streptococcus suis) ปนเปื้อนอยู่ เชื้อนี้จะอยู่ในทางเดินหายใจและเลือดของหมูที่ติดเชื้อ
การบริโภคหมูดิบเป็นประแสในโซเชียลมีเดียในช่วงที่ผ่านมา นอกจากการรับประทานหมูดิบแล้ว ยังมีกระแสการบริโภคอกไก่ดิบ เป็นพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ทั้งโรคหูดับ หรือติดเชื้อแบคทีเรีย
นอกจากการบริโภคเนื้อหมูดิบแล้ว โรคไข้หูดับสามารถติดต่อผ่านทางบาดแผล รอยถลอก และทางเยื่อบุตา เมื่อได้รับเชื้อโรคไข้หูดับ จะทำให้มีไข้สูงเฉียบพลัน อุณหภูมิร่างกายมากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเชลเซียส ปวดศีรษะ หนาวสั่น กระสับกระส่าย ปวดข้อ คอแข็ง ตาแดง มองภาพไม่ชัด หูหนวกหรือการได้ยินลดลงอย่างเฉียบพลัน
ประชาชนจึงต้องรับประทานเนื้อหมูหรือเลือดหมูที่ปรุงสุกเท่านั้น โดยปรุงให้สุกผ่านความร้อนมากกว่า 70 องศาเซลเซียส หากรับประทานอาหารประเภทปิ้งย่าง ต้องมีอุปกรณ์คีบเนื้อหมูสุกและเนื้อหมูดิบแยกจากกัน เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อ นำไปสู่โรคหูดับได้
การเลือกซื้อเนื้อหมูสำหรับการประกอบอาหารก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกจากแหล่งที่มีมาตรฐาน เชื่อถือได้ ส่วนผู้ที่เสี่ยงติดโรคจากหมู โดยเฉพาะผู้เลี้ยงหมู ผู้ที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ ผู้ที่ชำแหละเนื้อหมู สัตวบาล สัตวแพทย์ ควรสวมรองเท้าบูตยาง สวมถุงมือ รวมถึงสวมเสื้อผ้าที่รัดกุมระหว่างทำงาน หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิด และล้างมือหลังสัมผัสกับหมูทุกครั้ง
โรคไข้หูดับเกิดขึ้นเป็นประจำ และเกิดจากการติดเชื้อที่มาจากการบริโภคโดยส่วนใหญ่ ดังนั้นจึงไม่ควรบริโภคเนื้อหมูดิบทุกกรณี เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ หากท่านใดมีข้อสงสัยและต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422