หนุ่มชาวจีนรายหนึ่ง มีนิสัยแคะจมูกบ่อย จนเกิดอาการใบหน้าบวม แดง ไม่สามารถลืมตาได้ แพทย์วินิจฉัย เกิดจากการติดเชื้อไฟลามทุ่ง
ท่านใดที่มีพฤติกรรมชอบแคะจมูกบ่อย ๆ นอกจากจะทำให้เกิดการถลอกในบริเวณโพรงจมูก ยังอาจทำให้เกิดการอักเสบ เนื่องจากติดเชื้อได้ เช่นเดียวกับ หนุ่มจีนรายหนึ่ง มีพฤติกรรมชอบแคะขี้มูก จนภายในโพรงจมูกติดเชื้อ ส่งผลให้ใบหน้าบวมเป่ง
เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ รายงานว่า นายเจิ้ง ชายวัย 33 ปี จากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน มีนิสัยชอบแคะจมูกเป็นเวลานาน วันหนึ่งใบหน้าเขากลับบวมขึ้นเรื่อย ๆ จนลืมตาไม่ได้ในที่สุด
จากภาพจะเห็นว่า ใบหน้าของหนุ่มชาวจีนมีสภาพบวมเป่ง มีผื่นแดง อีกทั้งจมูกเริ่มบวมและต่อมน้ำเหลืองก็บวมเช่นกัน เขาจึงไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง และได้รับการวินิจฉัยในตอนแรกว่าเป็นต่อมทอนซิลอักเสบ
แม้จะไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการวินิจฉัยเบื้องต้นแล้ว แต่เช้าวันรุ่งใบหน้าของเขากลับบวมขึ้น จนเขาไม่สามารถลืมตาได้ เพราะพยายามลืมตาแล้วแต่รู้สึกเจ็บ สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจไปตรวจที่โรงพยาบาล ซึ่งแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นการติดเชื้อ “ไฟลามทุ่ง”
ไฟลามทุ่ง (Erysipelas) คือโรคจากการติดเชื้อแบคทีเรียบริเวณผิวหนัง ในชั้นหนังแท้ (Dermis) หรือการอักเสบของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนังชั้นตื้น และในส่วนท่อน้ำเหลืองใกล้เคียงอื่น ๆ ส่งผลให้ผิวหนังเกิดการลุกลามเป็นผื่น บวมแดง อาจเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงไปยังกล้ามเนื้อ หรือโรคแบคทีเรียกินเนื้อ และเชื้อนี้สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้
หลังจากการวินิจฉัย แพทย์ระบุว่า อาการนี้เกิดจากท้องผูกและความเครียด ร่างกายของหนุ่มจีนจึงไม่สามารถขับสารพิษออกมาได้เท่าที่ควร อีกทั้งเขายังมีนิสัยชอบแคะรูจมูก ทำให้ไวรัสสามารถเข้าสู่เซลล์เนื้อเยื่อภายในจมูกได้ โดยที่ตัวเขาเองไม่เคยคิดเลยว่าการแคะรูจมูกจะส่งผลร้ายแรงเช่นนี้
หลังจากภาพอาการป่วยจากติดเชื้อของเขาถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตต่างตกใจเมื่อเห็นภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังอาการติดเชื้อ โดยคอมเมนต์ชาวเน็ต อาทิ “มันยากที่จะจินตนาการว่านี่คือคนคนเดียวกัน”, “ฉันรู้สึกตัวสั่นขณะแคะจมูก”, “อย่าแคะหูของคุณด้วย” เป็นต้น
ถือเป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ที่มีนิสัยแคะจมูกบ่อย ๆ เนื่องจากเล็บและนิ้วมือเป็นแหล่งรวมเชื้อโรค ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย หากต้องการทำความสะอาดรูจมูก ควรใช้วิธีฉีดน้ำเกลือใส่จมูก หรือล้างด้วยน้ำอุ่นแทนจะดีกว่า
