“หมอธีระวัฒน์” แนะผู้สูงอายุ เดินอย่างรู้สังขาร ลดสมองเสื่อม-เสียชีวิตจากโรคหัวใจ
“หมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา” เผย ผู้สูงอายุวัย 70 – 90 ปี เดินอย่างรู้สังขาร ไม่ต้องหักโหมออกกำลังกาย ช่วยเรื่องสุขภาพ ลดการตายจากเส้นเลือด หัวใจ สมองได้
เมื่อวันพุธที่ 4 ตุลาคม 2566 นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านสมอง หัวหน้าศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เรื่องการดูแลสุขภาพของผู้สูงวัย เพียงเดินวันละ 4,500 ก้าวเป็นต้นไป
หมอธีระวัฒน์ โพสต์ข้อความในหัวข้อ “70 ยัน 90 ขวบ เพียงเดินเพิ่มแค่ 500 ก้าว” ระบุว่า “ในปัจจุบันนี้ เราทราบกันดีว่า การเดินอย่างรู้สังขาร ไม่ถึงกับต้องหักโหมแบบคาร์ดิโอ หนักหนา หัวใจเต้นเร็ว ช่วยสุขภาพและลดการตาย ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือด หัวใจ สมอง และยังลดสมองเสื่อมได้ด้วย
ทั้งนี้ ถ้าทำให้ได้ถึง 10,000 ก้าวต่อวัน ปัญหาก็คือ ในคนที่อายุมากขึ้น มีปัญหาเรื่อง กระดูกและข้อ ทั้งที่เสื่อมและที่แม้แต่ไปผ่าตัดแล้วก็ตาม ทำให้เดินไม่ได้สะดวก รวมทั้งปวดหลัง การทรงตัว เลยพาลไม่ยอมเคลื่อนไหว
ผลของการศึกษาใหม่นี้เฉพาะเจาะจงในคนที่สูงวัย ตั้งแต่อายุ 71 ยันไปถึง 92 ปีโดยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 78 ปี และเป็นการรายงานในที่ประชุม epidemiology, and prevention/life style and cardiometabolic health โดย ดร. Erin Dooley ผู้เชี่ยวชาญทางระบาดวิทยาและคณะ ที่ university of Alabama at Birmingham
คณะผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์กลุ่มย่อยในการศึกษา ความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดตันในชุมชน atherosclerosis risk in communities (ARIC) ซึ่งเป็นการศึกษาวิเคราะห์วิจัยต่อเนื่องโดย สถาบันหัวใจปอดและเลือดแห่งชาติ (National Heart, Lung and Blood Institute)
กลุ่มการศึกษาย่อยนี้ ประกอบไปด้วยผู้สูงวัยจำนวน 452 รายด้วยกัน มีการเก็บรายละเอียดและวิเคราะห์เป็นระยะในระหว่างช่วง 2016 และ 2017 โดยผู้ที่ร่วมการศึกษานั้นสวมเครื่องวัดการเคลื่อนไหวติดที่บั้นเอว อย่างน้อย 10 ชั่วโมงต่อวัน ติดต่อกันครั้งละสามวัน ในแต่ละครั้ง และเป็นสตรี 59% โดยเป็นคนผิวดำ 20%
ผลลัพธ์ทางสุขภาพที่ได้มีการสรุป จนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม ปี 2019 ซึ่งรวมถึงโรคทางเส้นเลือดหัวใจ และสมองที่ถึงแก่ชีวิตและไม่ถึงกับตายแต่ต้องเข้าโรงพยาบาล และรวมภาวะหัวใจวายไว้ด้วย
ผลจากการศึกษาที่สำคัญชี้ให้เห็นว่า ทุก ๆ 500 ก้าวที่เดินเพิ่มต่อวันจะทำให้ความเสี่ยงของโรคเส้นเลือดดังกล่าว ลดลงถึง 14% ด้วยกัน (hazard ratio, 0.86; 95% confidence interval, 0.76-0.98) ก้าวเดินโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 3,447 ก้าวต่อวัน และมี 34 รายคิดเป็น 7.5% ที่เกิดโรคของเส้นเลือด ในช่วงการติดตาม 1,269 person-years
ความเสี่ยงสะสมของโรคเส้นเลือดสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ คือพบได้ 11.5% ใน quartile ที่เดินน้อยสุด คือน้อยกว่า 2077 เก้าต่อวัน เทียบกับเพียง 3.5% ในกลุ่มที่เดินสูงสุดคืออย่างน้อย 4453 ก้าวต่อวัน ที่น่าดีใจมากขึ้นไปอีกนั้นก็คือในกลุ่มที่เดินเยอะที่สุด (highest quartile) รวมแล้วมีความเสี่ยงลดลง 77% ในระยะ 3.5 ปีในตลอดระยะเวลาการติดตาม (HR,0.23)
ผลของการศึกษานี้สนับสนุนคุณค่าของการเดิน แม้ว่าจะเพิ่มจำนวนก้าวขึ้นแม้ไม่มากก็ตาม ในผู้สูงอายุ โดยเริ่มตั้งแต่ทุก 500 ก้าว จะได้ประโยชน์เพิ่มขึ้น เป็นต้นไป
ทั้งนี้เพื่อเป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตัวให้ได้ง่ายที่สุดเลย ก็คือในผู้สูงวัยตั้งแต่ 70 ปี ขึ้นไปนั้น การเดินตั้งแต่ 3,000 ก้าวต่อวัน ก็จะเริ่มส่งผล ให้ประโยชน์ในการป้องกันโรคของเส้นเลือดหัวใจหรือสมองแล้ว และประโยชน์ที่จะเห็นได้ชัดเลยนั้น ก็คืออยู่ที่ตั้งแต่ 4,500 ก้าว เป็นต้นไป
ในขณะนี้ลูกหลานก็สามารถซื้อนาฬิกาสวมใส่ข้อมือ สมาร์ท วอช ราคาไม่แพง ให้พ่อ แม่ คุณป้า คุณอา คุณน้า ปู่ ย่า ตา ยาย ใส่ เป็นเครื่องวัดและสร้างเสริมกำลังใจให้ญาติผู้ใหญ่ ขยับกายมีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
ข้อสำคัญก็คือ ในวัยกลางคนยังทำแต่งาน นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานในแต่ละวัน เคลื่อนไหวเพียงแค่ 500 – 600 ก้าว เท่านั้น และมีข้ออ้างอยู่เป็นประจำว่าทำงานเหนื่อยแล้วต้องนั่งพักผ่อน ดูทีวี กินขนม
การเคลื่อนไหวออกกำลังต้องเริ่มทุกวัยจะได้ประโยชน์ ไม่ต้องเสียเวลามารักษาตัว เมื่อเกิดโรคภัยไข้เจ็บ และเงินทองที่หามาได้ทั้งชีวิต จบลงในบั้นปลายชีวิต สูญเงินทองแถมยังต้องกู้หนี้ยืมสิน เพื่อรักษาตัวเพียงสองถึงสี่ปีเท่านั้นจนตาย”
เรื่องสุขภาพไม่ต้องรอให้ถึงช่วงสูงวัยแล้วเราค่อยมาดูแล เพียงเดินวันละ 500 – 600 ก้าว ก็สามารถช่วยให้ร่างกายสุขภาพแข็งแรงได้แล้ว
อ้างอิง : Facebook ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha