‘จิ๊บ ปกฉัตร’ ขอรับผิดชอบ ปมอัดคลิปหนีตาย เหตุกราดยิงพารากอน ถูกติงหนักเป็นวิธีเอาตัวรอดไม่ถูกต้อง ไม่ควรลอกเลียนแบบ เปิดใจตอนนั้นระแวงจนแพนิก จึงไม่ทันคิด
ออกมาชี้แจงเรียบร้อยแล้ว หลังจากดาราสาว ‘จิ๊บ ปกฉัตร เทียมชัย’ และ ‘เอ็ม’ ผู้จัดการส่วนตัว ได้ตกอยู่ในเหตุการณ์เด็กชายวัย 14 ปี กราดยิงพารากอน ก่อนจะทำการบันทึกวีดีโอขณะหนีตายกลางห้างเผยแพร่ลงบนโซเซียล จนกลายเป็นกระแสไวรัลในช่วงพริบตา แต่ชาวเน็ตกลับไม่เห็นด้วย พร้อมติติงถึงวิธีเอาตัวรอดที่ไม่ถูกต้อง
ล่าสุด 4 ตุลาคม 2566 นักแสดงสาว ‘จิ๊บ ปกฉัตร’ พร้อมด้วย ‘เอ็ม’ ผู้จัดการส่วนตัว ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ นาทีชีวิตจากการเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญกลางห้างดัง ผ่านรายการง คุยแซ่บ Show ออกอากาศทางช่อง One31 โดยมี ‘พีเค ปิยะวัฒน์’ และ ‘เบนซ์ พรชิตา’ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ
โดย ‘จิ๊บ ปกฉัตร’ และ ‘เอ็ม’ ได้กล่าวแสดงความเสียใจแก่ผู้เสียชีวิตและภาวนาให้ผู้บาดเจ็บที่เหลือปลอดภัย ก่อนเปิดใจว่า “ในฐานะที่เราเจอเหตุการณ์มาเมื่อวาน ก็อยากโอบกอดทุกคนที่อยู่ร่วมเหตุการณ์กัน ณ บริเวณนั้น เราเข้าใจความแพนิกที่เกิดขึ้น เพราะตอนนี้เราเองก็เป็น”
นอกจากนี้ สาวจิ๊บยังเผยถึงสาเหตุที่ได้ตัดสินใจออกมาพูดในครั้งนี้ว่า อยากจะออกมารับผิดชอบ เนื่องจากคลิปหนีตายของเธอได้กลายเป็นไวรัลบนโซเซียล และมีหลาย ๆ คนออกมาท้วงติงถึงวิธีเอาตัวรอดที่ไม่ถูกต้อง เพราะการหนีเข้าไปอยู่ในลิฟต์ เป็นการกระทำที่ไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง จึงอยากจะใช้พื้นที่สื่อผ่านรายการแจ้งทุกคนว่า “ห้ามทำเลียนแบบทุกอย่างในคลิปนี้”
เมื่อพิธีกรได้ถามถึงสาเหตุของการออกมาชี้แจง เนื่องจากเกิดข้อผิดพลาดที่มาจากความกลัวแล้ว การการะทำทุกอย่างกลับผิดหมด ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง สาวจิ๊บก็ได้ให้คำตอบว่า
“คุณห้ามเข้าไปในลิฟต์ เพราะลิฟต์คือทางตัน เราไม่รู้ว่าเหตุเกิดชั้นไหน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”
จากนั้น พิธีกรก็ได้สอบถามถึงสถานการณ์ในขณะนั้น ตอนที่จิ๊บไปถึงและจอดรถลง นั่นคือจังหวะที่พอดีกัน ไม่ได้อยู่ในพารากอนมาก่อน ทางคุณเอ็มก็ตอบว่า
“ณ ตอนนั้นเราไปทำธุระกันมาก่อน แล้วไปเดินห้างกันมาก่อนที่เอ็มควอเทียร์ แล้วกลับมาห้างนี้ 4 โมงตรงเป๊ะเลย เราจอดรถชั้นเอ็มแล้วเดินขึ้นชั้น 1 พอขึ้นมาชั้น 1 เราก็ตกลงกันว่าจะทานอะไรกันดี จิ๊บบอกว่าไปชั้น 4 แล้วกัน เรากำลังเดินขึ้นบันไดเลื่อน จังหวะเดินอยู่มีคนวิ่งแล้ว เราก็พูดเล่นกับเพื่อนว่าตามดารา ข้างบนมีงาน เราคิดอย่างนี้ พอขึ้นชั้น 2 เฮ้ย วิ่งอีกแล้ว จิ๊บ ตามเธอแล้วละ ไม่ใช่หรอก ขึ้นชั้น 3 ก็วิ่งอีก ชั้น 4 ก็วิ่งอีก เราไม่รู้จริงๆ เราก็เดินไปตรงกลางของห้างที่จะมองลงไปว่ามันมีอะไร มองปุ๊บวิ่งทุกชั้นเลย ในทิศทางเดียวกัน ก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ดาราแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคืออะไร”
ตอนนั้นจิ๊บรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้น
ทางนักแสดงสาวได้ตอบว่า “ตอนนั้นไม่รู้ว่ายังไง ก็เขาดูข่าวในทวิตเตอร์แล้วบอกว่าเขายิงกัน ก็คิดว่าเป็นแบบยิงกันเฉยๆ ไม่รู้ว่ามันคือเหตุการณ์อะไร คิดว่าเขาคงตกใจเสียงปืนก็เลยวิ่ง เราก็เริ่มมูฟออน”
จากนั้นผู้จัดการก็ได้อธิบายต่อว่า “เราไม่เคยคิดว่าเหตุการณ์จะใกล้ตัว เราก็เลยไม่สนใจว่าทางออกควรอยู่ตรงไหน ทางออกฉุกเฉินอยู่ยังไง เราไม่รู้ว่ามันใกล้ตัว เรางง และไม่มีสติ”
ได้ยินเสียงปืนตอนไหน
เอ็ม : “ตอนที่วิ่งเข้าลิฟต์แล้วเปิดชั้น 1 จะวิ่งเข้ารถ เสียงปืนไล่ตามหลัง เสียงปืนมันก้องมาก มันใกล้หลังเรามาก ทีนี้วิ่งเร็วมาก ๆ ไม่คิดชีวิตแล้ว ถ้าเห็นในคลิปที่เอ็มวิ่ง มันไม่ได้วิ่งนะ มันถูกผลักจนไหลไปเองหมดแล้ว ทุกคนหนีตายกันหมด”
จิ๊บ : “จะบอกว่าอย่าเอาเยี่ยงอย่างนะคะ ถ้าจะหนีห้ามหนีเข้าลิฟต์ สองไม่ควรหนีแล้วไปขึ้นรถ คุณควรหนีจนสุดทางออกจากบริเวณนั้นให้ได้ ไม่ใช่หนีไปขึ้นรถแบบที่เราทำ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง ตอนนั้นเราทุกคนบริเวณนั้นขาดสติ มันคิดไม่ออก ต้องยอมรับตรง ๆ คำว่าสติมันสำคัญมาก ก็ต้องขอบคุณหลายคนที่เตือน ว่าการเข้าไปบริเวณลิฟต์ เราไม่รู้เขาอยู่ตรงไหน ถ้าเปิดลิฟต์มาแล้วเจอเขาเลยทำไง เราไม่ได้คิดเลยจริง ๆ ฉะนั้นอย่าทำเป็นเยี่ยงอย่างนะคะ”
ในฐานะพี่ชายและรู้จักเอ็ม ตอนขาดสติทุกคนเป็นแบบนี้ ฉะนั้นไม่ต้องโทษตัวเองมาก ถ้าเป็นพี่ อะไรใกล้ตัวสุดก็ไปตรงนั้น
“พอผ่านมาแล้วเราก็คิดได้ ก็ขอรับผิดชอบว่าอย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่าง” สาวจิ๊บกล่าว
อย่างไรก็ตาม ‘จิ๊บ ปกฉัตร’ ก็ได้ทราบถึงการกระทำที่ผิดพลาดของตนเอง และยินดีรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น อีกทั้งยังมอบความห่วงใยถึงผู้อยู่ในเหตุการณ์ทุกท่าน ในฐานะของคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์สุดสะเทือนขวัญที่ผ่านมา