กินเจ อะไรกินได้และอะไรกินไม่ได้ เช็กแนวทางปฏิบัติตัว เพื่อไม่ให้บุญตกหล่นในช่วงถือศีลที่กำลังจะมาถึงนี้
ใกล้ช่วง “เทศกาลกินเจ” เข้ามาทุกที ซึ่งในปีนี้ก็ตรงกับช่วงวันที่ 2-11 ตุลาคม 2567 เป็นวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ ตามระบบปฏิทินจีน ดังนั้นช่วงล้างท้องก็จะเป็นวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พอดี ใครที่อยากจะเข้าร่วมเทศกาลนี้ก็เตรียมตัวได้เลย
แต่ก่อนที่จะไปถึงวันถือศีลกินเจ ทุกคนรู้หรือไม่ว่าข้อห้ามและแนวทางการปฏิบัติตัวของการกินเจนั้นมีอะไรบ้าง วันนี้เดอะไทยเกอร์มาเตือนความจำทุกคนว่าในช่วงเทศกาลกินเจ มีอะไรบ้างที่กินได้ และอะไรบ้างที่กินไม่ได้ เพื่อที่ทุกคนจะได้นำไปปฏิบัติตาม สร้างบุญสร้างกุศลใหญ่กันในช่วงใกล้สิ้นปีนี้
สิ่งที่ห้ามกินช่วงถือศีลกินเจ
1. ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด
จุดประสงค์ของการถือศีลกินเจที่สำคัญที่สุด คือการไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่น ดังนั้นกฎข้อสำคัญที่ห้ามกินในช่วงเทศกาลเจ คือการงดเว้นการกินเนื้อสัตว์ไม่ว่าจะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำก็ตามทุกชนิด รวมถึงไข่ด้วย ยกเว้นหอยนางรมที่นับว่าเป็นอาหารเจ
2. ห้ามกินผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด
หลายคนอาจจะเข้าใจว่าการกินเจนั้นห้ามกินเนื้อสัตว์เป็นสำคัญเพียงอย่างเดียว แต่รู้หรือไม่ว่าผักบางชนิดที่มีกลิ่นฉุนก็ถูกบัญญัติไว้ในข้อห้ามการกินเจด้วย เนื่องจากผักเหล่านี้มีกลิ่นรุนแรง สามารถทำลายธาตุทั้ง 5 ในร่างกายได้ เป็นเหตุให้ร่างกายทำงานไม่ปกติ เมื่อจะนั่งสมาธิก็จะทำให้พลังธาตุในกายรวมกันไม่ติด ซึ่งผักที่มีกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่
- กระเทียม : ทำลายการทำงานของหัวใจ กระทบต่อธาตุไฟ
- หัวหอม : ทำลายการทำงานของไต กระทบต่อธาตุน้ำ
- หลักเกียว : หรือ กระเทียมโทนจีน ทำลายการทำงานของม้าม กระทบต่อธาตุดิน
- กุยช่าย : ทำลายการทำงานของตับ กระทบต่อธาตุไม้
- ใบยาสูบ : ทำลายการทำงานของปอด กระทบต่อธาตุโลหะ
3. ห้ามกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์
นอกจากเนื้อสัตว์แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากสัตว์ก็ห้ามกินในช่วงเจเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็น เนย นม น้ำมัน หรือแม้แต่ผงปรุงรสก็ตาม เพราะถือว่าเป็นการเบียดเบียนชีวิตของสัตว์อื่นในทางอ้อม ขัดต่อวัตถุประสงค์หลักในการกินเจนั่นเอง
4. ห้ามกินอาหารรสจัด
การถือศีลกินเจนั้นห้ามกินอาหารที่ปรุงรสจัดจ้าน ไม่ว่าจะเป็นเค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด หรือเผ็ดจัดก็ตาม เนื่องจากชาวจีนเชื่อว่าการกินอาหารรสจัดจะทำให้สุขภาพร่างกายย่ำแย่ลง ซึ่งก็ตรงกับข้อมูลทางการแพทย์ในปัจจุบัน ดังนั้นโดยปกติชาวจีนจึงมักจะกินอาหารที่มีรสชาติกลาง ๆ อยู่แล้ว
5. ห้ามดื่มสุราและเครื่องดื่มมึนเมาทุกชนิด
อย่างที่ทราบกันดีว่าเทศการกินเจเป็นช่วงที่ต้องถือศีลควบคู่กันไปด้วย เนื่องจากเป็นเทศกาลบุญที่ผู้เข้าร่วมต้องชำระจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์ที่สุด ดังนั้นการถือศีลจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อเราละเว้นจากการดื่มสุราและเครื่องดื่มมึนเมาตามบัญญัติในพระพุทธศาสนา เนื่องจากเครื่องดื่มมึนเมาอาจทำให้เราไม่มีความยับยั้งชั่งใจและก่อกรรมทำบาปได้
อาหารที่กินได้ช่วงกินเจ
สำหรับอาหารที่ผู้ถือศีลกินเจสามารถกินได้นั้น ก็คืออาหารที่ทำมาจากพืช ยกเว้นพืชที่มีกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นแหล่งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต เครื่องปรุง หรือผงปรุงรสต่าง ๆ รวมถึงชูรส หากไม่ได้ทำมาจากสัตว์ก็สามารถกินได้หมด เช่น ผัดหมี่เจ ผัดเต้าหู้ เมนูที่มีโปรตีนเกษตรเป็นส่วนประกอบ หรือแม้แต่ของกินเล่นอย่างปอเปี๊ยะ และปาท่องโก๋ก็กินได้เช่นกัน
นอกจากนี้ขนมหวานที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ แต่ปราศจากไขมันสัตว์ก็กินได้ ดังนั้นหากใครอยากกินช็อกโกแลตในช่วงเทศกาลเจ ก็ต้องตรวจสอบวัตถุดิบในการทำช็อกโกแลตอีกครั้งหนึ่ง หากเป็นช็อกโกแลตที่ทำจากไขมันพืชและนมจากพืชก็สามารถกินเป็นอาหารเจได้
อาหารอื่น ๆ อย่างทุเรียนที่มีเป็นผลไม้มีกลิ่นฉุนก็สามารถกินได้ในช่วงเจ เพราะผลไม้ไม่ถือเป็นข้อห้ามในการกินเจ อีกทั้งทุเรียนสีเหลืองยังช่วยบำรุงธาติดินในร่างกายเราอีกด้วย รวมไปถึงชา กาแฟที่มีคาเฟอีนก็สามารถดื่มได้เช่นเดียวกัน แต่หากต้องการใส่นมในกาแฟก็ควรจะเป็นนมที่ทำจากพืช หรือกาแฟดำเพียว ๆ ก็ช่วยให้สุขภาพดีมากขึ้นไปอีก
แม้การกินเจจะดูเหมือนเป็นไลฟ์สไตล์ที่ยุ่งยากต่อการใช้ชีวิต แต่รู้หรือไม่ว่าหากสามารถปฏิบัติตามข้อห้ามในช่วงถือศีลกินเจได้ นอกจากจะได้บุญใหญ่แล้ว ยังทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย เพราะเป็นช่วงที่จะได้กินแต่พืชผักและผลไม้ ทำให้ย่อยง่ายสบายท้อง อีกทั้งแคลอรี่ยังต่ำไม่ทำให้น้ำหนักเพิ่มด้วยนะ
อย่างไรก็ดี การกินเจถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ใครที่สะดวกปฏิบัติก็สามารถทำได้ในช่วง 15-23 ตุลาคม 2566 นี้ แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็สามารถปล่อยผ่านได้เลย แต่อย่าลืมว่าต้องเคารพในความเชื่อของแต่ละบุคคลกันด้วย เพื่อสร้างสังคมให้น่าอยู่มากขึ้น