ข่าวข่าวต่างประเทศข่าวอาชญากรรม

อินฟลูสาวจีน แชร์ภาพวินาทีหนีตาย เหตุยิงในพารากอน ได้ที่ซ่อนตัวในร้านกีตาร์

อ่านประสบการณ์สุดระทึก สาวอินฟลูเอนเซอร์ชาวจีน หนีตายอลหม่าน เหตุกราดยิงในห้างพารากอน พร้อมขอบคุณพนักงานร้านกีตาร์ที่ให้หลบซ่อนตัวจนปลอดภัยดี

ย้อนเหตุการณ์อุกอาจ มือปืนวัย 14 ปี บุกกราดยิงในห้างสรรพสินค้า “สยามพารากอน” เมื่อเวลาประมาณ 16.20 น. วันอังคารที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา จนเป็นข่าวใหญ่สะเทือนกรุงเทพ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาด 5 ราย ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการ จับกุมผู้ก่อเหตุได้ที่ชั้น 3 ของโรงแรมดังใกล้ห้างดังกล่าว สร้างความหวาดกลัวขวัญผวาแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในบริเวณนั้นเป็นอย่างมาก

Advertisements

ทั้งนี้ ได้มีสาวอินฟลูเอนเซอร์และนักแสดงชาวจีนที่มีผู้ติดตามบนสื่อโซเชียลกว่าแสนคน ชื่อว่า “Yin Guanqi” ได้โพสต์ภาพและข้อความบนเว็บไซต์ Weibo แชร์ประสบการณ์เฉียดตาย เหตุการณ์ยิงกันในห้างพารากอน จนตัวเองและผู้ประสบภัยคนอื่น ๆ ต้องหลบซ่อนตัวภายในร้านกีตาร์ในห้าง โดยระบุข้อความแปลเป็นภาษาไทยว่า

“นี่คือครั้งแรกของฉันในประเทศไทย ฮันติดอยู่บนชั้น 4 นานกว่าครึ่งชั่วโมง จากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจนำสู่เส้นทางอพยพออกมาจากห้างอย่างปลอดภัย ฉันขอขอบคุณพนักงานร้านกีตาร์ที่ให้เข้าไปหลบซ่อนด้วยด้วย”

ยิง พารากอน อินฟลูจีน หนีตาย

อย่างไรก็ตามเหตุการณ์กราดยิงในพารากอน ได้กลายเป็นกระแสวิพากย์วิจารณ์ในสังคมไทยตอนนี้เป็นอย่างมาก ทั้งการตั้งคำถามถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ว่าเหตุใดห้างดังระดับประเทศ ทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กการท่องเที่ยวสำคัญของไทย ถึงได้ปล่อยให้เด็กเยาวชน อายุ 14 ปี นำอาวุธปืนเข้ามาในห้างได้โดยปราศจากการตรวจสอบได้อย่างไรกัน

ประชาชนจะสามารถการันตีความปลอดภัยและมาตราฐานการท่องเที่ยวแก่สายตาประชาคมโลกได้หรือไม่ ก็ต้องรอติดตามคำชี้แจงจากรัฐบาลไทยในการหารือป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก.

Advertisements

อ้างอิง : 1

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button