ข่าว

ดาบตำรวจสภาพชีวิตย่ำแย่ ค้ำประกันให้ แต่เพื่อนหนีราชการ สภาพบ้านสุดโทรม

ดาบตำรวจสภาพชีวิตย่ำแย่ ค้ำประกันให้ แต่เพื่อนหนีราชการ จนมีหนี้ 2 ล้านบาท สภาพบ้านสุดโทรม ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม สั่งช่วยแล้ว

พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยม ด.ต.บุญเฮียง อายุ 53 ปี ผบ.หมู่ ป.สภ.เมืองสมุทรสงคราม ที่บ้านพัก หลังได้รับรายงานว่า ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากโต ต้องลางานบ่อยครั้ง จนรู้สึกเป็นห่วงดาบตำรวจนายดังกล่าว

เมื่อเปิดประตูบ้านพัก เจ้าหน้าที่ต้องผงะ เมื่อพบว่าบ้านพักทรุดโทรมเหมือนรังหนู ด.ต.บุญเฮียง นอนกับพื้นบ้าน สภาพไม่น่าอยู่ สภาพเก่าทรุดโทรมมากและไม่มีเตียงนอนที่เหมาะสม พ.ต.อ.ศยาม จึงหาบ้านพักให้อยู่ใหม่และสนับสนุนงบประมาณส่วนตัวกว่า 10,000 บาท ในการปรับปรุง ซ่อมแซม ทาสี กั้นมุ้งลวด ประตูหน้าต่างบ้านใหม่ รวมทั้งจัดเครื่องครัว เครื่องนอน ให้มีสุขอนามัยที่ขึ้น

พ.ต.อ.ศยาม กล่าวว่า ตามนโยบาย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้หัวหน้า สภ. ดูแลความเป็นอยู่ของผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างใกล้ชิด ซึ่งตนทราบข่าวว่า ด.ต.บุญเฮียง ป่วยเป็นโรคประจำตัวลางานไปพบแพทย์บ่อยครั้ง จึงเดินทางมาเยี่ยมที่บ้านพัก แต่ก็พบว่าสภาพความเป็นอยู่ไม่ถูกสุขลักษณะ นอนกับพื้น อุปกรณ์เครื่องใช้ไม่เพียงพอ

จึงได้ปรึกษากับผู้บริหารสถานีร่วมกับจัดหาบ้านพักให้ ด.ต.บุญเฮียง ใหม่ และหาช่างมาปรับปรุงบ้าน โดยตนสนับสนุบงบประมาณส่วนตัวกว่า 10,000 บาท และภาคเอกชนสนับสนุน เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ในบ้าน รวมทั้งพัดลม ทีวี เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป

จากการตรวจสอบยังพบอีกด้วยว่า ด.ต.บุญเฮียง ยังมีหนี้สหกรณ์ออมทรัพย์อยู่ 1,900,000 บาท ซึ่งเป็นหนี้จากการค้ำประกันเพื่อนข้าราชการตำรวจ แต่เพื่อนหลบหนีราชการ ทำให้ ด.ต.บุญเฮียง ต้องรับผิดชอบแทนถูกหักเงินเดือนเหลือเพียงเดือนละ 3,900 บาท จากเงินเดือน 28,000 บาท ที่จะต้องใช้หนี้ไปจนหลักเกษียณอายุ 65 ปี จึงได้จัดหารายได้เสริมให้กับ ด.ต.บุญเฮียง ในการยังชีพอย่างมีเกียรติต่อไป

ขณะที่ ด.ต.บุญเฮียง เล่าว่า หลังจากค้ำประกันให้เพื่อนข้าราชการตำรวจ และเพื่อนหนีราชการไป ตนก็ต้องมารับผิดชอบหนี้ โดยถูกหักเงินเดือนเหลือเพียงเดือนละ 3,900 บาท จากเงินเดือน 28,000 บาท ทำให้เกิดความเครียดหมดกำลังใจ คิดตลอดเวลาว่าเมื่อไหร่จะหมดหนี้ จะทำยังไงกับชีวิต

ทำให้เมื่อเข้าเวรเสร็จกลับบ้านก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไร บ้านจึงรกเหมือนรังหนูอย่างที่เห็น ที่ผ่านมาตนก็รู้ว่าหากเอ่ยปากผู้บังคับบัญชาก็ต้องเข้ามาช่วยเหลือ ตนรู้สึกเกรงใจจึงเก็บตัวอยู่เงียบๆ

กระทั่งผู้บังคับบัญชามาเยี่ยม ตนก็บอกให้รอข้างนอก ท่านก็ไม่เชื่อเข้ามาจนเจอสภาพบ้านแบบนี้ ซึ่งท่านก็รีบให้ความช่วยเหลือทำให้ตนภูมิใจที่ยังมีคุณค่าให้ผู้บังคับบัญชาให้ความใส่ใจ และดีใจที่ได้รับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ซึ่งตนมีกำลังใจในการสู้ชีวิตมากขึ้น

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button