ภูเก็ตได้รับผลกระทบจากการที่ต้นไม้ล้มทับบ้านประมาณ 90 หลังคาเรือน
วันนี้ (18มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตได้มีฝนตกและลมกรรโชกแรงอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 อำเภอ ซึ่งได้รับผลกระทบจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักลมกระโชกแรง โดยทั้ง 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองภูเก็ต อ.กะทู้ และอ.ถลาง ได้มีต้นไม้ล้มขวางถนน และมีต้นไม้ทับหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย และบางส่วนถูกลมพัดหลังคาบ้านหลุด แต่ขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ ของจังหวัดภูเก็ตลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย
นอกจากนั้นเมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. พ.ต.อ.ประวิทย์ สุทธิเรืองอรุณ ผกก.สภ.ท่าฉัตรไชย ได้รบแจ้งว่า มีเหตุเสาไฟฟ้าล้ม จำนวน 8 ต้น ขวางพื้นผิวถนนถนนเทพกระษัตรี บริเวณก่อนถึงโรงเรียนหงษ์หยกบำรุง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังจากรับแจ้งจึงสั่งการให้ พ.ต.ต.ปรีชา คงชู สวป.เวรด่านตรวจ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่านตรวจ และทหาร ร่วมกันลงพื้นที่อำนวยความสะดวกจราจร แต่เนื่องจากเดินรถใช้ได้เพียงหนึ่งช่องจราจร ทำให้รถติดขัด กำลังเร่งระบายรถ โดยได้ประสานกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.ถลางเดินทางมาตรวจสอบและมีการตัดไฟบางส่วน และจะเร่งเคลียร์เอาเสาไฟฟ้าออกจากผิวจราจรให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นก็จะเอาเสาไฟฟ้าใหม่ลงแทนเสาที่ล้มต่อไป
ทั้งนี้กรมอุตุนิยมวิทยา ได้มีประกาศ เรื่อง คลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน (มีผลกระทบจนถึงวันที่ 20 มิถุนายน 2561 ) ฉบับที่ 27 (260/2561) โดยระบุว่า ในช่วงวันที่ 18- 20 มิถุนายน 2561 คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร และบริเวณอ่าวไทยตอนบน ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ขึ้นมา มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระวัง และเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามัน และอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัย บริเวณชายฝั่ง ของภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตกขอให้ระวังอันตราย จากคลื่นลมที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย เนื่องจากลมมรสุมวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรงขึ้นลักษณะเช่นนี้ทำให้คลื่นลมในทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ในจังหวัดภูเก็ตได้มีการลงพื้นที่สำรวจความเสียหายบางส่วนแล้ว และยังมีบางส่วนอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายทั้ง 3 อำเภอที่ได้รับความความเสียหาย มี 14 ตำบล 21 หมู่บ้าน 90 หลังคาเรือน มูลค่าความเสียหายประมาณ 273,500 บาท ส่วนใหญ่หลังคาบ้านแตก และมีรถจักรยานยนต์สามล้อพวง รถยนต์ส่วนบุคคล ได้รับความเสียหายเล็กน้อย และยังมีบางส่วนที่เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่สำรวจความเสียหายอยู่