ข่าวข่าวการเมือง

‘ชัยธวัช’ แสดงจุดยืน แม้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค ‘พิธา’ ยังเป็นนายกเหมือนเดิม

ชัยธวัช หัวหน้าพรรคก้าวไกลแสดงจุดยืน แม้เปลี่ยนหัวหน้าพรรค แต่นายกของก้าวไกลยังเป็น พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เหมือนเดิม

พรรคก้าวไกล จัดงาน “ก้าวต่อไปไกลทั้งแผ่นดิน” ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ใช้อาคารกีฬาเวสน์ 1 เพื่อเปิดเวทีพูดคุยเรื่องการเมือง โดยมีแฟนคลับเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก

Advertisements

โดยในช่วงหนึ่งนายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นกล่าวต่อว่า นี่คือการประชุมสมาชิกพรรคของก้าวไกลครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยทำมาต้องยกความดีความชอบให้กับผู้อำนวยการพรรคที่มีส่วนสำคัญในการจัดงานครั้งนี้ เพราะนี่คือทิศทางสำคัญของก้าวไกลเป็นพรรคที่ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วันนี้ที่ได้มายืนอยู่ตรงนี้แทน นายพิธา ในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่

“อยากประกาศว่า แม้ว่าหัวหน้าพรรคก้าวไกลจะเปลี่ยนไป แต่ว่าที่นายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลยังไม่เปลี่ยนแปลง ยังเป็น นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ คนเดิม”

การจัดตั้งรัฐบาลที่ผ่านมาเราเห็นการไม่เคารพเสียงเคารพอำนาจของประชาชน แต่เห็นการตั้งรัฐบาลที่สยบยอมต่ออำนาจที่ต้องการอยู่เหนืออำนาจของประชาชน และปัญหารัฐของราชการรวมศูนย์ไปติดทับศักยภาพราชกาลไทยทั่วประเทศเต็มไปด้วยการทุจริต และไม่ต้องรับผิดชอบต่อประชาชน นโยบายรัฐบาลชุดใหม่พยายามจะดึงอำนาจท้องถิ่นกลับไปอยู่ส่วนกลาง ด้วยการทำให้ผู้ว่าฯ เป็นซีอีโอ “เราไม่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ยกเว้นเจ้าของบ้านเขาอนุญาตเท่านั้น”

นายชัยธวัช ยังกล่าวอีกว่า ท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ เป้าหมายการเมืองในแบบของก้าวไกลเราต้องผลักดัน และเปลี่ยนแปลงสิ่งที่การเมืองของชนชั้นนำบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ให้กลายเป็นสิ่งที่สังคมไทยปฏิเสธไม่ได้อีกต่อไป ภายใต้เป้าหมายนี้พรรคก้าวไกลจะมียุทธศาสตร์สำคัญสี่ด้าน มีภารกิจเฉพาะด้านสำคัญสองอย่างคือสร้างพรรคก้าวไกลให้เข้มแข็ง เป็นสถาบันทางการเมืองของประชาชนให้ได้งานในวันนี้ เป็นจุดเริ่มต้นของเป้าหมายยุทธศาสตร์นี้ นับจากนี้ต่อไปขอเชิญชวนทุกคนช่วยกันขยับขยายสมาชิกพรรค และขยายการเมืองมีส่วนร่วมของประชาชน ในการสร้างพรรคก้าวไกลให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชน ช่วยกันเปลี่ยนแปลงวันละเล็กวันละน้อย ปักธงความคิด ทำพรรคก้าวไกลให้เป็นพรรคที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงเมื่อช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงมาถึง

Advertisements

ส่วนยุทธศาสตร์ฝ่ายค้านในสภาก้าวไกลยังต้องทำหน้าที่ตรวจสอบและถ่วงดุลฝ่ายบริหาร ในฐานะหัวหน้าพรรคคนใหม่ขอให้คำมั่นสัญญากับทุกคนว่าจะทำหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายบริหารอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจใคร เหมือนที่เคยพิสูจน์กับประชาชนมาแล้ว ดุดันด้วยเนื้อหาท่วงทำนองสุขุม ทันทีทันคาด ยุทธศาสตร์ที่สามคือฝ่ายค้านเชิงรุกจะขออนุญาตให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานยุทธศาสตร์มาอธิบายกับสมาชิกพรรค

ยุทธศาสตร์ที่สี่คือ ตรึงพื้นที่เก่ายึดพื้นที่ใหม่ สส.ต้องเร่งทำงานพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานไม่เหมือนใคร ส่วนพื้นที่ไหนที่ไม่ชนะเลือกตั้งขอให้สมาชิกพรรคทำพื้นที่ให้เข้มแข็ง และหาคนที่ดีที่สุดเพื่อมาเป็นผู้แทนราษฎรของเรา

และภารกิจสุดท้าย คือ ร่วมกันผลักดันรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชนจากนี้ต่อไปขอให้ทุกคนช่วยกันรณรงค์เรียกร้องให้มีการทำประชามติถามประชาชนว่า ต้องการทำรัฐธรรมนูญทั้งฉบับหรือไม่ และต้องทำ ส.ส.ร.ที่มาจากประชาชนทั้งหมดไม่ต้องกั๊ก ไม่ต้องมีข้อยกเว้น เพราะประชาชนมีอำนาจสูงสุดในการสถาปนารัฐธรรมนูญ

นายชัยธวัช ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า หลายคนอาจจะสิ้นหวังและเสียน้ำตาเพราะพรรคก้าวไกลชนะเลือกตั้ง แต่ไม่สามารถตั้งรัฐบาลได้ แต่อยากจะบอกว่า นับจากนี้ต่อไปขอให้เอาน้ำตาไว้ข้างหลัง ไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจอีกต่อไป ให้ลองนึกถึงสังคมไทยก่อนที่จะมีอนาคตใหม่และก้าวไกล วันนี้เราช่วยกันสร้างความเปลี่ยนแปลงมาได้มาก จึงไม่มีอะไรที่จะต้องเสียใจ แต่มีอย่างเดียวคือต้องเดินหน้าจับมือร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้มากกว่านี้ เพื่อบรรลุเป้าหมายไปพร้อมกันสมาชิกก้าวต่อไปก้าวไกลทั้งแผ่นดิน

เมื่อพูดจบหัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่งเวทีต่อให้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวบนเวทีว่า แม้เราจะลาจากกัน แต่เราจะไม่จากกันตลอด 385 วัน จะไม่มีวันลืม และภูมิใจในสิ่งที่ร่วมทำด้วยกันมาทุกวัน เพราะมันคือการจุดไฟกลางสายลม แม้อาจจะทำได้ยาก แต่ทำร่วมกันสำเร็จแล้วอย่าปล่อยให้มันเสียเปล่า

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button